วันนี้เจอคนไข้คนหนึ่งน่าสงสารจริง
เป็นผุ้หญิงอายุ 67 ปี อยุ่บ้านคนเดียวลูกทำงานอยู่ กทม. ญาติที่เป็นหลายสะใภ้ ให้ประวัติว่า 1 เดือนก่อนมานี่ป้ามีอาการไข้ ไปตรวจที่คลินิก ได้ยามารับประทาน อาการไม่ทุเลา หลังจากนั้นมามีอาการบวม หายใจไม่อิ่ม เหนื่อยเพลีย พาไปตรวจที่ คลินิกอีก 3 ครั้งเพราะ ญาติไม่มีเวลามา รพ. ต้องเลี้ยงหลานเล็กๆ อีกคน 3 วันก่อนมามีอาการเหนื่อยมากขึ้น หน้าบวม หายใจไม่อิ่ม นอนราบไม่ได้ จึงโทร.ไปตามลุกที่ กทม.กลับมา วันนี้พามาโรงพยาบาล เอ๊กซเรย์ปอด ดู อืมมมม์ สมควรเหนื่อย ปอดและหัวใจจะทำงานไม่ไหวแล้ว ลุกสาวน้ำตาคลอตลอด ถามแม่หนูจะเป็นไรมากมั๊ย ชลัญก็ปลอบใจว่า ถึงมือหมอแล้วนะ ลูกเดินจับเปนอนแม่ไปไม่ห่างกุมมือแม่ เฝ้าถาม คงรู้สึกผิดว่า ตัวเองไม่ได้อยุ่ดูแลทำให้แม่ป่วยหนัก ญาติบอกว่า แม่ก็ไม่ยอมให้ญาติโทร.บอกลูกกลัวจะเสียงาน ชลัญน้ำตาจะไหลตาม นี่แหล่ะชีวิตจริงไม่มีใครอยากทิ้งบ้านทิ้งครอบครัวไปไกล แต่ด้วยปากท้อง ภาระอีกหลายหลากทำให้ต้องเป็นภาวะจำยอม..... ให้กำลังใจนะทั้งแม่ลูก ถึงมือหมอแล้วแหล่ะ
ใครอยู่ไกลคนที่รัก แล้วยังไม่มีเวลาไปเยี่ยม ก็อย่าลืมยกโทรศัพท์ หาเขาหน่อยนะ อย่างน้อยน้ำเสียงที่ส่งผ่านไปเขาก็รับรู้ได้ว่าเรารักและห่วงใยเขาแค่ไหน
ภาพ CXR ของผู้ป่วย
ชลัญธร
เป็นกำลังใจให้ดด้วยคนครับ
คุณชลัญธร สบายดีนะครับ
ขอบคุณค่ะคุณพิชัย สบายดีค่ะ แต่ยุ่งหน่อยไม่ค่อยมีเวลามานั่งอ่านบทความสมาชิกเท่าไหร่ ยังไงก็คิดถึงทุกท่านนะค่ะ
คุณมะเดื่ออยู่ข้าง ๆ บ้านพ่อกับแม่ รู้สึกหายห่วงไปได้ในเรื่องระยะทาง
คิดถึงนะคะ ไม่ได้คุยกันเลยนานแล้ว
ยังเหมือนเดิมมิเปลี่ยนแปลงค่ะ
พี่โชคดีที่มีคุณพ่อที่น่ารักและสมองท่านดีมากค่ะ ท่านยังเมตตาช่วยงานพี่ได้เสมอ
เมื่อยามต้องเดินทางไกลค่ะ .....บุพการีต้องทดแทนบุญคุณค่ะ
วิธีใดก็ได้ค่ะ ...ไม่จำเป็นต้องใช้เงินทองมากมาย ..แค่ยกหูโทรวันละครั้ง...ก้อทำให้ท่านปลื้มใจ ...และ 555 ตั้งตาคอยเราทุกวันค่ะ
มีประเด็นหนึ่งที่สงสัยมา คือสงสัยว่า เรา post ภาพ Xray ผู้ป่วยบน blog ได้อะป่ะ? 101
เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย