เลือกตั้ง ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗
เมื่อวาน (๑ ก.พ.๒๕๕๗) ผมยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่า จะเลือกข้อใดใน ๒ ข้อ ดังนี้
๑.ไปเลือกตั้งและกาไม่เลือกใคร เพราะไม่เห็นด้วยกับการจัดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ ๒ ก.พ.๒๕๕๗ เนื่องจากเชื่อว่าไม่ทำให้ประเทศชาติได้รับผลดีจากการจัดเลือกตั้งในวันที่ ๒ ก.พ.๒๕๕๗ ประเทศชาติต้องเสียเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก และผลของการเลือกตั้งจะไม่เกิดผลในด้านการปฎิรูปเลยกลับทำให้เกิดการแตกแยกมากกว่าเดิม เสี่ยงกับการสูญเสียเลือดเนื้อของประชาชน สำหรับเหตุผลที่ผมคิดจะไปเลือกตั้งเพื่อไม่ให้ใครนำไปอ้างว่าผมไม่ให้ความสำคัญกับการเลือกตั้ง และไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้ง และเป็นการรักษาสิทธของผม
๒.ไม่ไปเลือกตั้งเพื่อแสดงให้เห็นว่าผมไม่เห็นด้วยกับการจัดการเลือกตั้งในวันที่ ๒ ก.พ.๒๕๕๗ เหตุผลในการเลือกไม่ไปเลือกตั้ง เพราะเห็นว่า รัฐบาลรักษาการไม่มีคุณสมบัติที่ทำให้ผมและประชาชนเป็นจำนวนมากไว้ใจให้เป็นรัฐบาลรักษาการ ผลงานจากการบริหารจัดการบ้านเมื่องที่ผ่านมา มีแต่สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติอย่างมากมายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รัฐบาลรักษาการไม่ได้คิดถึงประเทศชาติ ไม่ฟังเสียงจาก กกต ซึ่งเป็นผู้ที่รับผิดชอบในการจัดการเลือกตั้ง ไม่ฟังเสียงทักท้วงจากหลายๆฝ่าย รัฐบาลรักษาการขาดคุณธรรมและจริยธรรม ทั้งๆที่ทำความเสียหายให้กับบ้านเมืองอย่างมากมายแล้ว ควรละอายใจและขอโทษประชาชน และลาออกเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมมือกันปฎิรูปประเทศชาติอย่างแท้จริง
เมื่อคืนทราบว่าเขตหลักสี่ที่ผมต้องไปเลือกตั้งประกาศว่า "เขตหลักสี่ไม่มีการเลือกตั้ง " ทำให้ผมสบายใจเพราะว่าไม่ต้องตัดสินใจเลือกข้อ ๑ หรือ ข้อ ๒ เพราะจริงๆแล้วทั้งสองข้อมีเหตุผลเดียวกัน แต่ยังเกิดการสัปสนอีกเพราะมีการ ออกข่าวมาว่า ประชาชนในเขตหลักสี่ต้องไปแจ้งที่เขตหลักสี่ภายใน 7 วันถ้ายังต้องการรักษาสิทธิในการเลือกตั้ง เพราะถ้าไม่ไปแสดงความจำนงว่าต้องการใช้สิทธิในการเลือกตั้งภายใน ๗ วัน ถือว่าเป็นผู้ที่ไม่ต้องการใช้สิทธิไปเลือกตั้ง จึงถือว่าหมดสิทธิตามกฎหมาย ผมเกรงว่าการปล่อยข่าวนี้ออกมาจะทำให้คนที่ไปแจ้งความจำนง จะถูกนำไปใช้เป็นข้อมูลว่าเป็นผู้เห็นด้วยกับการให้มีการเลือกตั้งในวันที่ ๒ ก.พ.แต่ถูกขัดขวางสิทธิ และนำไปใช้เป็นจำนวนผู้เสียหายและนำไปฟ้อง กกปส ผมคิดว่าในกรณีนี้ ประชาชนในเขตหลักสี่และเขตเลือกตั้งที่ทาง กกต ประกาศให้ยกเลิกการเลือกตั้งในวันที่ ๒ ก.พ.๒๕๕๗ ไม่จำเป็นต้องไปแจ้งความจำนงว่าต้องการไปใจสิทธิเลือกตั้ง และจะไม่ถูกตัดสิทธิใดๆทั้งสิ้น ยินดีรับฟังความเห็นจากท่านผู้รู้ทุกท่านครับ
ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท
๒ ก.พ.๒๕๕๗
ความเห็น (3)
เมื่อกกตประกาศยุติการเลือกตั้งในเขตใด ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขตนั้นไม่ต้องไปแจ้งครับ(คิดว่าถูกต้องเก้าสิบเปอร์เซ็นคับ)
ข้อความข้างบนเป็นข้อเท็จจริงหรือเปล่าคะ มีอะไรมายืนยันว่ารัฐบาลเป็นเช่นนั้น เขาก็อธิบายจนกระจ่างแจ้งในแง่กฏหมายหรือรัฐธรรมนูญต้องทำอย่างไร คนกลาง ๆที่เป็นนักกฏหมาย นักวิชาการก็ชี้แจงในแง่กฏหมายไปหมดแล้วทำไมไม่ฟังกันบ้างหรือเอากฏหมายไปวิเคราะห์ให้ถ่องแท้ เอาแต่กล่าวหากันเป็นเด็ก ๆ เขาจะหวงอำนาจหรือไม่ก็ไม่สำคัญ มันสำคัญที่ว่าเขาทำถูกต้องหรือเปล่า
ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท
ขอบคุณผู้ใช้นามว่า "เครื่องหมายเดียว ? คำถามเดียว" และผู้ใช้นามว่า "GD" ที่ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ ผมเคารพความคิดเห็นของทุกคนครับ แล้วแต่ใครจะคิดอย่างไรครับ ผมก็คิดตามที่ผมวิเคาระห์และสรุปจากสิ่งที่เกิดขึ้น จากปัญหา การกระทำของผู้ที่รับผิดชอบและผู้ที่เกี่ยวข้อง และผลที่ออกมา ผมพยายามอ่านบันทึกที่ผมเขียนข้างบนว่ามีข้อความไหนบ้างที่ผมกล่าวเท็จ ก็แปลกใจเพราะข้อความที่ผมเขียนเป็นข้อความที่ออกมาจากการวิเคราะห์ของผม มาจากความคิดที่ผมสังเคราะห์ออกมา เป็นความเชื่อของผม จะผิดหรือถูก จะมีใครเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เป็นได้ทั้งนั้น แต่ไม่ใช่ข้อความที่เป็นเท็จ และขอยืนยันว่าผมไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดทั้งสิ้น ผมแสดงความคิดเห็นในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ที่ห่วงใยประเทศชาติ และคิดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่เคยจับผิดใครและคิดจะกล่าวร้ายคนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง คุณ GD กรุณาอ่านทบทวนบันทึกของผมอีกสักครั้ง หรือ เลือกอ่านบทความอื่นๆของผมที่เขียนไว้ใน gotoknow ก็ได้ครับ จะทำให้คุณเข้าใจผมมากขึ้น
นับถือและขอขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็น
ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท
3 กุมภาพันธ์ 2557