สะดุดใจกับโรงเรียนทางเลือก สไตล์วอลดอร์ฟ
มีโอกาสได้ไปเยี่ยมโรงเรียนโดยไม่บังเอิญอีกครั้ง วันนี้มีเสวนากับคุณหมอ นักจิตวิทยา คุณครู เพื่อช่วยปรับการเรียนและช่วยกันวางแผนการดูแลเด็กน้อยคนหนึ่งร่วมกัน เลยขอนำบรรยากาศโรงเรียนในฝันของผู้เขียน มาฝากค่ะ
บรรยากาศในโรงเรียน สถานที่ สนาม ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการทำมันขึ้น ของเล่นจะเป็นแนวธรรมชาติ เช่น ชิงช้าไม้ กระดานหก สะพานทรงตัว วางบนพื้นผิวที่หลากหลาย อาทิเช่น กรวด ลานทราย สนามหญ้า
ชื่อโรงเรียนไตรพัฒน์ เป็นโรงเรียนแนววอลดอร์ฟ สังเกตจากบรรยากาศ ตอนนี้คือช่วงเช้าประมาณเจ็ดโมง มีหมอกหนา ล้อมรอบด้วยนาข้าว
บริเวณทางเข้าทางด้านหน้า วัสดุส่วนใหญ่สร้างจากไม้ไผ่
สะดุดตากับบอร์ดประชาสัมพันธ์หน้าโรงเรียน สังเกตตรงการลงสีเป็นแนววอลดอร์ฟ
ขออนุญาตอ้างอิงเนื้อหาบางส่วน จากเรื่อง เด็กไทยสายพันธุ์วอลดอร์ฟ
โดย : เพ็ญลักษณ์ ภักดีเจริญ เพื่อให้เข้าใจแนวคิดและปรัชญาของโรงเรียนสไตล์นี้
จาก http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-style/lifestyle/20090915/77011/เด็กไทยสายพันธ์วอลดอร์ฟ
ธรรมชาติของมนุษย์
วอลดอร์ฟ เป็นการศึกษาทางเลือกอีกรูปแบบในสังคมไทย โรงเรียนแห่งนี้ไม่มีการสอบ ไม่ต้องแต่งชุดนักเรียน เด็กๆ เรียนรู้จากการคิดและทำด้วยตัวเองตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ ทุกครั้งที่ทำงานเสร็จต้องบันทึกการเรียนรู้ไว้ในสมุด
ช่วง 7 ปีแรก เด็กๆ จะเรียนรู้ผ่านการกระทำและการเลียนแบบ ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ผ่านสมองหรือการคิด การเรียนรู้ผ่านร่างกายในช่วงวัยนี้สำคัญมาก กระทั่งถึงช่วงวัย 7-14 ปี เด็กเริ่มเรียนรู้ผ่านความรู้สึก ศิลปะและดนตรี เพื่อเชื่อมโยงให้รู้จักชีวิตที่งดงาม เด็กเริ่มคิดอ่าน เคลื่อนไหว ร้องเพลง วาดภาพ และเรียนรู้งานหัตถกรรม ซึ่งมีบทบาทสำคัญมาก ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กผู้ชาย
รูดอร์ฟ สไตเนอร์ ผู้ริเริ่มแนวคิดวอลดอร์ฟจะให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาศักยภาพทุกๆ ด้านของมนุษย์ การศึกษาจึงเป็นศาสตร์และศิลป์ เรียนจากความเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์แต่ละช่วงวัย
ดังนั้นไม่จำเป็นต้องบังคับให้เด็กเล็กเขียนหนังสือก่อนวัย 7 ปี เพราะช่วงเวลานั้นมนุษย์ตัวเล็กๆ ร่างกายกำลังพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก มัดใหญ่ การเล่นจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเด็กเล็ก
- เด็กๆจะมาโรงเรียนตั้งแต่เช้า .....จากการสังเกตเด็ก เด็กบางกลุ่มจะเริ่มจากการเล่นอิสระในสนาม ให้อาหารห่าน มีโอกาสสำรวจธรรมชาติอย่างเต็มที่ เด็กที่นี่มีหลายวัย ตั้งแต่อนุบาลจนถึงม.6 มีเด็กบางกลุ่มก็ช่วยกันกวาดลานสนามด้วยไม้กวาดทางมะพร้าว
- พอถึงเวลาเข้าเรียนในห้องเรียน (วันนี้มาสังเกตเด็กชั้น ป สอง) จะให้สัญญานจากการเคาะ เด็กๆเคลื่อนตัวไปนั่งประจำโต๊ะเรียนของตนเอง สวัสดีทักทายคุณครู ....เก็บโต๊ะเรียนเอง จากนั้นทำกิจกรรมเป็นกลุ่มวงกลมต่อ กิจกรรมส่วนใหญ่จะใช้ดนตรี การร้องเพลง การเคลื่อนไหว มาเป็นสื่อ เครื่องดนตรีที่เด็กๆจะมีติดตัวเสมอคือขลุ่ย เพื่อเป่าเป็นจังหวะประกอบเพลง ในช่วงเช้าวันนี้คุณครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ วันนี้จึงได้เก็บไอเดียและวิธีการสอนที่น่าสนใจ..เช่นคุณครูจะใช้การนับจำนวนจากการเคลื่อนไหวร่างกายคล้ายแตะสลับ ให้เด็กวนนับต่อเนื่อง....เด็กๆต้องใช้สมาธิ การจดจำ การสังเกต อย่างมาก มีการสอนสูตรคูณแม่หก โดยการให้เด็กโยนถุงถั่วสลับกันไป ให้เพื่อน และมีการสอนคูณเลขบนกระดานในสไตล์วอลดอล์ฟ หลังจากคุณครูสอนเสร็จ เด็กๆจะจดบันทึกบทเรียนโดยใช้ดินสอและสีสไตล์วอลดอล์ฟ และตกแต่งวาดรูประบายสีเองตามจินตนาการ...... นาทีนี้อยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
- เด็กๆมีช่วงพักเบรก โดยของว่างในมื้อนี้ เขาจะรับหน้าที่แจกเพื่อนๆและคุณครูเอง วันนี้มีกล้วยน้ำว้าและน้ำเก็กฮวย มีเด็กสามคนต้องเสียสละแก้วและใช้ถ้วยดื่มน้ำแทนแก้วในวันนี้ เพราะมีแขกเพิ่มมาอีกสามคน......เป็นการฝึกการช่วยเหลือผู้อื่น ความรับผิดชอบ ระเบียบวินัย แบบไม่ค่อยกดดัน เด็กๆเรียนรู้ไปตามธรรมชาติ
หลังจากทานของว่างเสร็จแล้วพวกเขาจะล้างจานเอง....และได้รับอนุญาตให้ไปเล่นที่สนามต่อได้
หลังจากสลายพลังงาน วิชาที่นักเรียนได้เรียนต่อคืองานหัตถกรรม วันนี้มีกิจกรรมถักนิตติ้งเป็นเสื้อ ช้าง ทำปอมๆ ในสไตล์ของตนเอง...พวกเขาเก่งมากกว่าที่เราคิดมาก
เสียดายมากค่ะที่ไม่ได้อยู่ถึงช่วงบ่ายจะได้เห็นการระบายสีน้ำของเด็กๆ ....อย่างไรก็ตามวันนี้ก็รู้สึกคุ้มค่ามาก ที่ได้มารู้จักโรงเรียนแนววอลดอร์ฟ (มนุษยปรัชญา).....เริ่มหลงไหลการเรียนและศิลปะแนวนี้ จากที่เคยรู้จักมาบ้าง ขึ้นกว่าเก่า ^ ^
ความเห็น (7)
การศึกษาคุณค่าแท้ งดงามมากครับ...
น่าสนใจและน่าติดตามเป็นอย่างยิ่งเลยครับ
ขอขอบคุณอาจารย์นุ และคุณ พ.แจ่มจำรัสมากค่ะ ^ ^ ตอนนี้ในเมืองไทยมีการศึกษาแนวนี้อยู่หลายโรงเรียน เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ปกครองนอกจากให้เด็กเรียนตามระบบการศึกษาปรกติค่ะ
รับทราบเรื่องโรงเรียนแนวนี้มานาน เพราะอ่านหนังสือของ อ.เกียรติวรรณ อำมาตยกุล เคยพูดไว้เกือบยี่สิบปีแล้วมังคะ
ชื่นชมแนวทางมาตลอด
แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เด็กเหล่านี้ จบ ม. 6 มีสิทธิ์จะไปเรียนแพทย์ พยาบาล วิศวะ ฯลฯ เหมือนระบบปกติไม๊คะ
หรือสรุปว่า จบ ม.6 มีการศึกษาใดรองรับเพื่อความก้าวหน้าต่อไปอีกบ้าง
เรียนถามด้วยความไม่รุ้จริงๆ
เป็นโรงเรียนที่มีแนวคิดดีมาก
ชอบจังเลย
ขอบคุณอาจารย์มากๆครับ
สวัสดีค่ะคุณปุ๊กลุ๊ก 88
ขอแนะนำลิ้งค์เพิ่มเติม สำหรับคำถามเกี่ยวกับโรงเรียนแนววอลดอร์ฟค่ะ http://www.waldorfanswers.org/WaldorfFAQ.htm
http://parentschool.wordpress.com .....คลิกไปที่ คำถามวอลดอร์ฟ
อาจจะทำให้ตอบคำถามได้ชัดมากขึ้น
สำหรับตัวดิฉันเองมีความเห็นว่า เด็กที่เรียนแนวนี้สามารถเข้าเรียนระดับอุดมศึกษาได้ ทั้งนี้ คณะที่เขาเลือกอาจจะสอดคล้องกับความสนใจ ความถนัด และความสามารถ ฯลฯ ของเด็กประกอบเข้าด้วยกันค่ะ ^ ^
สวัสดีค่ะพี่ขจิต น่าเรียนมากค่ะ โรงเรียนในฝันเลย ^ ^