ฮักนะเชียงยืน 22


ต้องศึกษาเรียนรู้ให้กระจ่างใจ

ห้องเรียนในโลกกว้าง

        การทำโครงการ ก่อนที่จะดำเนินงานโครงการนั้นสิ่งเเรกๆที่ต้องคิดคือ เรารู้หรือยัง รู้สิ่งที่เราต้องพัฒนาเขาหรือยัง ซึ่งเป็นโจทย์ที่ทำคัญของทุกๆสิ่งที่ต้องทำก่อนดำเนินงานหรือทำในขณะทำเนินงานหรือหลังดำเนินงาน จากโมเดลที่ได้ตั้งไว้ร่วมกันเเล้วนั้นนำมาสู่การดำเนินงานโดยขั้นเเรกๆเป็นการเรียนรู้เพื่อไปถ่ายทอด ศึกษาเพื่อนำข้อมูลคืนลงสู่ชุมชน โดยโมเดลที่ได้ตั้งไว้ฮักนะเชียงยืนเดินอยู่ในวิถีของเกษตรที่ไฃใช้สารเคมีน้อยที่สุด โดยที่เราไม่สามารถดันประตูหิน "เกษตรพันธะสัญญา" ออกไปได้ ก็ต้องอยู่ร่วมกัน โดยที่วีธีในการอยู่ร่วมกันนี้มุ่งเป้าให้ใช้สารเคมีน้อยที่สุดในการทำเกษตร โดยใช้วิธีการทางเกษตรอินทรีย์เข้ามาผสมผสาน เเล้วค่อยๆลดการใช้สารเคมีลง โดยเน้นที่กลุ่มเป้าหมายก่อนในชุมชน  เมื่อมุ่งหวังให้ชาวบ้านให้เกษตรอินทรีย์มากยิ่งขึ้น เมื่อเรายังไม่รู้ สิ่งที่เราต้องทำจึงเป็นการศึกษาเรียนรู้ ณ เเหล่งที่สามารถให้ความรู้ได้อย่างชัดเจน ตรงกับวัตุประสงค์ที่อยากศึกษา  ฮักนะเชียงยืนจึงต้องสรรหาหน่วยงานที่สามารถให้ความรู้ได้ โดยในครั้งนี้หน่วยงานที่ถ่ายทอดความรู้ให้ คือ สำนักงานเกษตรจังหวัดขอนเเก่น โดยก่อนที่จะไปศึกษานั้น พี่เลี้ยงฝึกหัดเเละครู พากันไปติดต่อประสานงานด้วยตนเองเพราะ เป็นมารยาทที่พึงปฏิบัติในการประสานงาน เเล้วยังเป็นเครื่องย้ำเตือนด้วยว่า เรามีตัวตน เเล้วเราจะมาเรียนรู้จริงๆ  พอหลังจากนั้นไม่นานที่ประสานงานนัดวันที่จะไปเรียนรู้ ฮักนะเชียงยืน ทั้งกลุ่มก็เดินไปเรียนรู้ซึ่งก็ถือว่าไม่ไกลนักจากโรงเรียน  เดินทางมาถึงสำนักงาน ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ฮักนะเชียงยืนยิ้มเเย้มอย่างมีกำลังใจ

       ฟังการบรรยายอย่างเป็นกันเองของ"ครู"คนหนึ่ง ท่านบอกว่าทุกวันนี้ชาวบ้านเราใช้สารเคมีกันเยอะมาก ซึ่งสารเคมีที่เราใช้กันในทุกๆวันเหล่านี้จะไปทำให้ธรรมชาติที่เกิดความสมดุลในตัวมันเองอยู่เเล้ว ขาดความสมดุลนั้นไป โดยสักเกตุว่า  เมื่อเเมลงตัวหนึ่งไปกัดกินพืชชนิดหนึ่ง เมื่อพืชชนิดหนึ่งนั้นถูกกัดกิน พืชต้นนี้เองก็จะสร้างสารบางสิ่งบางอย่างออกมา เมื่อเเมลงได้กินอีกครั้งก็จะรู้สึกว่า ไม่อยากกิน หรือ ไม่อร่อย ฯ ถ้าเราฉีดสารเคมีใส่ในเเปลงสวนของเราเอง ก็จะทำให้เเมลงที่เป็นทั้งเเมลงดีเเละเเมลงร้ายนั้นตายไปด้วยธรรมชาติถ้าอยู่เพียงตนเองจะมีระบบรักษาสมดุลของตนเอง ถ้าใช้สารเคมีลงไปจะทำให้สมดุลนั้นตัดขาดลงจนเกิดเป็นปัญหาต่างๆ เช่น แมลงศัตรูพืชมากัดกินผักในสวนจำนวนมาก  แมลงวันมีจำนวนมาก  ตั๊กแตนมีจำนวนมาก ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของการทำเกษตรที่เกิดขึ้น เมื่อวิธีการของสารเคมีหลายๆสิ่งทำให้สมดุลของตัดขาดลงไป  วีถีอินทรีย์จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่จะทำให้ธรรมชาติสมดุลมากยิ่งขึ้น  โดยมีปุ๋ยหมักชีวภาพ  น้ำหมักชีวภาพ  ปุ๋ยดินปลูก  สารสกัดจากธรรมชาติในการป้องกันศัตรูพืช ฯ   ฮักนะเชียงยืนมาเรียนรู้ในครานี้  หลายๆคนมีวัตถุประสงค์แตกต่างกันออกไป แต่จุดร่วมของทุกคนที่เหมือนๆกัน คือ เกษตรอินทรีย์ วิธีการทำเกษตรแบบไม่ใช้สารเคมี  หลังจากฟังการบรรยายฟังใหญ่ ก็ถึงเวลามาลงมือปฏิบัติ  “ทำทันที” เพื่อที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ซึ่งสิ่งที่ได้ลงมือปฏิบัติ เป็นความรู้นอกห้องเรียนที่สามารถนำมาถ่ายทอดให้กับชุมชน

        ไหลเเดง เป็นพืชที่สามารถนำมาสกัดเป็นสารควบคุมเเมลงกำจัดศัตรูพืช โดยมีสารที่สำคัญ ได้เเก่ สารโรติโนน เเละดีกิวลิน ซึ่งจะไปส่งผลต่อระบบหายใจ ของสัตว์เลือดเย็น ซึ่งจะเกิดขึ้นเฉพาะ เเมลงกับปลา โดยวิการ คือ การนำเอาไหลเเดง มาผสมกันน้ำเปล่า เขย่าให้น้ำขุ่น เเล้วเอาน้ำยาล้างจานผสมเข้านิดหน่อย เเล้วจะสามารถฉีดไล่เเมลงได้ ด้วยวิธีการธรรมชาติ

       ตะไคร้หอม  เป็นสิ่งที่สามารถนำมาควบคุมเเมลงศัตรูพืชได้ โดยเป็นเป็นการสกัดเอาน้ำตระไคร้หอม ด้วยวิธีการควบเเน่น สารมารถไล่เพลี้ยอ่อน หนอไยผัก เพลี้ยต่างๆ เเละเเมลงต่างๆ รวมทั้งยุง เมื่อได้ผลลิตออกมาจากการควบเเน่นเเล้ว สามารถนำมาฉีดใช้ได้เลยตามความเหมาะสม

       เชื้อราไตรโคเดอร์มา เป็นเชื้อราสีเขียวที่สามารถเจริญเติบโตได้ในดิน โดยที่เชื้อราชนิดนี้ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราในพืชได้เป็นอย่างดี หรือวิธีการรากำจัดราด้วยกันเอง โดยสามารถขยายเชื้อรานี้ได้ง่ายๆโดยการนำข้าวสุกมาให้ราเจริญเติบโต ประมาณระยะเวลาช่วงสั้นๆ จากนั้นเมื่อรากินข้าวเสร็จเเล้ว ก็สามารถใช้ผสมน้ำนำมาฉีดได้เลย ฉีดเป็นระยะๆ

       ซึ่งวิธีการดังกล่าวเป็นวิธีการของเกษตรอินทรีย์ ที่ส่วนมากจะทำให้เเมลงไม่ตายไปเลยทีเดียว เเต่จะเป็นการทำให้เเมลงอยู่ไม่ได้ หรือค่อยทำให้เเมลงตายลงอย่างช้าๆ ส่งผลทำให้พืชผักต่างๆปลอดสารเคมี ทำให้เราๆ กินผักได้อย่างสบายใจ   วิธีการที่ได้เรียนรู้เหล่านี้เป็นวิถีอินทรีย์ที่ฮักนะเชียงยืนได้เรียนรู้ เเล้วจะนำไปปรับใช้ในงานต่อไป ที่ไม่ว่าจะเป็นละครหรือตลาดชีวภาพ  วิถีอินทรีย์ไม่ได้มีเพียงการกำจัดศัตรูพืช เเต่การทำปุ๋ยชีวภาพ เตรียมดินปลูก ก็เป็นอีกวิถีที่ต้องศึกษาเรียนรู้ให้กระจ่างใจ...

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 559524เขียนเมื่อ 17 มกราคม 2014 18:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มกราคม 2014 18:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท