The 2nd arrival of อ.อุไร 14 ม.ค. 57

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่วงบ่ายของพวกเราครับ แม้ว่าจะเรียกว่าช่วงบ่ายแต่อากาศที่นี่ไม่ได้สัมพันธ์กับเวลาและปริมาณแสงแดดเลยครับ แดดจัด แต่อากาศกลับเย็นสบายดี เป็นบรรยากาศที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวมาก lol แต่พวกเรามาทำงานกันนะครับ =w=b

หลังจากกลับมาจากการกินอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว บางส่วนของกลุ่มเราก็นอนพักผ่อนเอาแรง บางส่วนก็เตรียมตัว เตรียมงานรออ.อุไรที่จะมาเยี่ยมพวกเราในวันนี้ตอนบ่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นความคืบหน้าจากคราวก่อน สิ่งที่เราทำอยู่ สิ่งที่วางแผนจะทำต่อไป และปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่พวกเราต้องคอยคุยกับอ.อุไร เผิ่ออาจารย์มีแง่มุมอื่นที่สามารถให้คำปรึกษาแก่เราได้ แต่พบว่าร่างกายเราไม่สามารถทำตามจิตใจได้ คนส่วนใหญ่ก็เลยล้มนอนพักผ่อนกัน lol

เวลาผ่านไปจนประมาณ 14.00 น. อ.อุไรก็มาถึงที่พักของเรา ตอนนั้นทุกคนยังพักผ่อนกันอยู่ อาจารย์มาถึงก็เลยตกใจ ทำไมบ้านมันเงียบอย่างนี้ ทุกคนหายไปไหนกันหมด lol พวกเราได้ยินเสียงอาจารย์กันก็รีบลงไปหา สภาพยังงัวเงียกันอยู่เลย =w= อาจารย์มาพร้อมของกินที่เราสั่ง ดูตามรูปนะครับ อาจไม่ค่อยดีต่อโครงการของเราเท่าไรนัก lol และของรางวัลเพิ่มเติมของอาจารย์เอง ขอบคุณครับ

จากนั้นก็ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ และความคืบหน้าของโครงการ ก็ได้รายชื่อผู้ป่วยเบาหวานครบแล้ว จัด Stage of change เรียงตามหลัก 3อ 2ส แล้ว กลุ่มเป้าหมายของเราจะเป็นกลุ่มคนไข้เบาหวานที่อยู่ในขั้นเตรียมการ โดยเราได้ประกาศเชิญชวนไปแล้ว กิจกรรมที่พวกเราจะทำก็เป็นเดินวิ่งเพื่อสุขภาพ สถานที่คือสนามหญ้ารร.วันครู เวลา 17.00 น. วิ่งกันประมาณ 30 นาที ก็แล้วแต่คนว่าจะได้กันกี่รอบ ได้ผลตอบรับค่อนข้างดี แต่ก็ยังมีผู้ป่วยโรคเบาหวานในขั้นนี้มากันไม่มากอย่างที่เราอยากให้เป็น วันนี้ก็เลยลงไปเยี่ยมบ้าน ถามเหตุผลที่มาไม่ได้ และเชิญชวนให้มาออกกำลังกายกันหรือสอนท่าออกกำลังกายให้ไว้ทำเองที่บ้านได้ สิ่งที่จะทำต่อไปก็คือการให้พี่ๆอสม. เป็นคนนำ เพื่อให้กิจกรรมนี้ยังคงอยู่ต่อไป ไม่ใช่หยุดที่พวกเรา ปัญหาคือผู้ป่วยที่มาส่วนใหญ่อยู่ในขั้นลงมือกระทำ และคงสภาพมากกว่า เราก็เลยลงไปตามบ้านกันแล้ว พร้อมประเมินแบบสอบถามไปด้วย อาจารย์อุไรก็เสริมว่าเราควรจะมี Step counter มานับก้าว หรือรู้ว่าระยะทางของสนามนี่เป็นเท่าไร เพราะปกติการเดินถ้าเป็นการออกกำลังกายจะต้องได้อย่างน้อย 10,000 ก้าว มีเพลงประกอบการออกกำลังกายพร้อมท่า และอาจเพิ่มท่าออกกำลังกายที่ช่วยในด้านอื่นๆด้วย ไม่ใช่แค่วิ่งอย่างเดียว ทำตอน Cool down นี่แหล่ะ สิ่งนั้นคือท่าการบริหารมณีเวช เป็นการบริหารเพื่อจัดรูปร่างและสมดุลของร่างกาย

เพลงประกอบการออกกำลังกาย อาจารย์แลเห็นว่าพวกเรามีเพลงที่ใช้โปรโมตอยู่แล้วก็ได้ ก็คือเพลง สกัดเบาหวานของที่ทำกิจกรรมไปเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 57 และเอาท่าออกกำลังกายไปปนก็พอใช้ได้แล้ว ใช้เริ่มก่อนการทำกิจกรรมของเราทุกครั้งเลย พอเสร็จก็ให้เดินวิ่งตามที่พวกเราได้ทำไว้ ตอน Cool down ก็ทำ Cool down ก่อนแล้วค่อยต่อด้วยท่ากายบริหารมณีเวช ทำแบบนี้วนไปเรื่อยๆจนเกิดเป็นวงจรความเคยชิน และอย่าลืมสอนพี่ๆอสม.ด้วย เพราะหลังจากที่เราออกจากชุมชนนี้ไปแล้ว พี่อสม.ต้องเป็นคนสานต่อสิ่งที่พวกเราทำ อาจมีพูดเสริมความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานและการดูแลตัวเองในแต่ละครั้งที่มาทำกิจกรรมด้วยจะดีมากเลย โดยเฉพาะเรื่องอาหาร เพราะตอนที่ผู้ป่วยมาร่วมกิจกรรม เค้าจะมีแนวโน้มฟังเรามากกว่าเราไปหาเค้าที่บ้าน และเกิดเป็นพฤติกรรมสุขภาพที่ดีในที่สุด อาจมีติดโปสเตอร์หรืออัดเสียงเรื่องที่เราพูดให้ผู้ป่วยฟังเนี่ย ฝากไว้ให้พี่อสม.จัดการต่อได้

จากนั้นอาจารย์ก็สอนท่ากายบริหารมณีเวชให้พวกเรา มีทั้งหมด 4 ท่า เอาไว้จัดสมดุลของร่างกาย เป็นการใช้กล้ามเนื้อของเราเองนี่แหล่ะในการดัดโครงสร้างกระดูกเรา

1. ท่าไหว้

2. ท่าโม่แป้ง

3. ท่าถอดเสื้อ

4. ท่าปล่อยพลัง

ท่าพื้นฐานมี 4 ท่านี้ สามารถหาชมได้ตามคลิปวิดีโอใน Youtube นะครับ

จากนั้นอาจารย์ก็อยากให้ทำ Flow chart ดูแนวทางโครงการที่เราทำว่าเราทำอะไร ลำดับเป็นอย่างไรบ้าง และถ้าจำเป็นต้องใช้เงินทุน เช่น จัดหาน้ำดื่มให้คนที่มาร่วมกิจกรรม จัดหาเครื่องเสียงเอาไว้เปิดเพลงของเรา ก็เขียนเป็นโครงการในนามของอสม.เสนอต่อสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ เพื่อหางบประมาณมาใช้ในการทำกิจกรรมและพัฒนาต่อ คัดแยกคนที่ไม่สูบบุหรี่และไม่ดื่มสุราออกจากกลุ่มที่ทำพวกนี้แล้วแบ่งตาม Stage of change เพื่อที่เราจะได้ใส่ intervention ในคนกลุ่มที่ยังกระทำอยู่ได้ จากที่อ่านมาก็เป็นเนื้อหาหลักๆของช่วงนี้นะครับ เป็นความคิดเห็นของอ.อุไรต่อโครงการที่พวกเราทำ ส่วนใหญ่จะเป็นการเสริมมากกว่า ไม่ได้แก้ไขอะไรเลย ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดีว่าพวกเรามาถูกทาง คิดตรงกับที่อาจารย์อยากให้เป็น และนำไปปฏิบัติได้ ก็ขอบคุณอาจารย์มากนะครับ

หลังจากทำท่ากายบริหารเสร็จแล้ว แนะนำเรื่องเพลงประกอบแล้ว เวลาก็ประมาณ 15.30 น. อาจารย์ก็ขอลากลับไปเยี่ยมอีกกลุ่มหนึ่งต่อ บรรยากาศก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นและสนุกสนาน เพราะอาจารย์ไม่ได้มาเหมือนครั้งก่อนๆ ที่ตอนนั้นพวกเรายังทำงานจับต้นชนปลายไม่ถูก แล้วพวกเราก็จัดการของฝากที่อาจารย์เอามาให้โดยทันที เพื่อจะได้มีแรงทำกิจกรรมอื่นต่อไป

หลังจากกินของว่าง(?)เสร็จแล้ว ทุกคนก็ไปปฏิบัติงานแต่ละอย่างที่ได้คุยกับอ.อุไรมาตามรูปข้างล่างนี้ครับ

โดยส่วนใหญ่จะทำท่าออกกำลังกายประกอบเพลง สกัดเบาหวาน เพื่อใช้ในกิจกรรมในตอนเย็นที่กำลังจะมาถึง พวกเราคิดว่าควรจะเปิดเพลงนี้พร้อมทำท่าตอน Warm up ไปเลย เพราะตอนวิ่งจะไม่ค่อยได้ฟังเพลงกันหรอก ตอน Warm up นี่แหล่ะน่าจะเป็นช่วงที่คนให้ความสนใจกับการทำท่าและได้ยินเสียงเพลงไปในตัว บางส่วนก็ออกไปจ่ายตลาดซื้อของก่อนฟ้าจะมืด

(ดูท่าทางสนุกกันจังเลยนะครับ)

สำหรับช่วงนี้ก็จบลงเพียงเท่านี้ครับ ช่วงเย็นของเราก็จะไปออกกำลังกายกินอีกรอบ ผลจะออกเป็นอย่างไร คอยติดตามชมตอนต่อไปนะครับ =w=b

by Kiba-kun

[สาวน้อยใจดี นู๋ยุ้ยแก้มตุ่ย]

ถ้าจะให้ร่างกายแข็งแรง คงอาศัยการเต้นที่อัตราเท่ากับการเต้นของหัวใจ แต่หลังจากการเต้นแล้ว หลังจากนั้นหากได้เปิดเพลงเบาๆ เย็นๆ สบายใจ ระดับผลึกโมเลกุลของ ของเหลวในร่างกายจะมีความสมดุลย์ ส่งผ่านสารอาหาร และขับถ่ายของเสียได้ดีขึ้น น่าจะเป็นผลดีต่อสุขภาพ...นะคะ

[จาตุรงค์ ธีระวัฒนวงศ์]

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับผม _/|\_