พ่อกับแม่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเกือบ 60 ปี
ถ้าพ่อยังมีชีวิตอยู่
วันที่ 19 มกราคมที่จะถึงนี้ก็จะครบรอบแต่งงาน 58 ปี
จะเรียกว่าเป็นคู่ทุกข์คู่ยากก็ได้
คู่สร้างคู่สมก็เหมาะ
คู่เวรคู่กรรมก็ไม่ผิดนัก
เวลาไปไหนมาไหน ก็จะไปเป็นคู่ซะส่วนใหญ่
น้อยครั้งมากที่จะห่างกัน
ยกเว้นช่วงหนึ่ง ที่แม่ต้องไปช่วยพี่สาวคนโตดูแลร้านอาหารไทยที่ต่างประเทศ
แม่ก็จะเดินทางไปๆมาๆ
ช่วงเวลานั้น คือช่วงที่แม่เรียกว่าเป็น "กำไรชีวิต"
เพราะได้เดินทางไปไหนต่อไหนด้วยตั๋วเครื่องบินราคาถูก
สวัสดิการจากลูกสาวคนโตที่ทำงานสายการบินต่างชาติ
นับได้ว่า จุดเริ่มต้นของการทำงานสายการบินครั้งนั้น
ช่วยให้พ่อกับแม่ได้มีชีวิตที่สุขสบายมากขึ้น
ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานใดๆอีก
ลูกทุกคนยินดีที่จะให้พ่อกับแม่ได้พัก
ได้ท่องเที่ยวไปที่ต่างๆ พบปะผู้คนมากมาย
นั่นคือกำไรชีวิตของแม่
เมื่อครั้งที่พี่สาวเปิดร้านอาหารไทยใหม่ๆ
แม่ต้องช่วยดูแล กำกับ พ่อครัวแม่ครัว
ช่วยต้อนรับลูกค้า
อยู่จนดึกดื่นกว่าร้านจะปิด
เดินขึ้นลงเขา เพื่อโดยสารรถประจำทางกลับบ้านพักอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ทำอย่างนี้ทุกวันๆ อย่างมีความสุข
ไม่เคยบ่น ไม่เคยตัดพ้อ ไม่เคยงอแง
แม่เต็มที่ และเต็มใจ
กับทุกสิ่ง ทุกเรื่อง สำหรับพ่อ และลูกหลานทุกคนเสมอ
ทุกครั้งที่ถามแม่ว่า แม่เหนื่อยมั้ย
แม่จะตอบด้วยรอยยิ้มว่า ไม่เหนื่อย
"ถ้าพูดว่าเหนื่อย ก็จะเหนื่อย
ต้องบอกว่าไม่เหนื่อย ก็จะไม่เหนื่อยตามปาก"
ทุกวันนี้ วลีนี้ก็ยังติดปากแม่
และข้าพเจ้าก็จะเตือนตัวเองด้วยวลีนี้อยู่บ่อยครั้ง
พร้อมกับบอกตัวเองว่า
แม่ยังไม่เหนื่อยเลย
เราจะเหนื่อยได้อย่างไร
แม่คือครูผู้ยิ่งใหญ่ ที่สอนหลายๆอย่างให้ข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าปฏิบัติได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็พยายามทำให้ได้อย่างแม่
..... แม่คือ การเรียนรู้ เป็นแบบอย่างให้เรียนรู้มากมาย นะคะ