ฮักนะเชียงยืน 12
รุ่นสีเขียว
ณ ช่วงเวลาหนึ่งของทำงานจิตอาสาที่เป็นช่วงของการบ่มเพาะเมล็ดพันธ์ บ่มเพาะต้นกล้า ฮักนะเชียงยืนอยู่ระหว่างความเข้มข้นในการชงกิจกรรมโครงการ ในดินเเดนถิ่นเกิด ขณะนั้นลมร้อนได้พัดพากระเเสของงาน "เยาวชนต้นกล้า" มายังถิ่นอีสาน ที่จัดขึ้น ณ อุทยานการเรียนรู้ PK PARK เซนต์ทรัลเวิลดิ์ กรุงเทพมหานคร ทำได้ฮักนะเชียงยืนได้สรรจร เข้ามาสู่การสัมผัสกับอีกรูปเเบบหนึ่งของจิตอาสาในมิติหนึ่ง ในช่วงเวลาของค่ายเยาวชนต้นกล้าล้วนเป็นปัจจัยที่เพาะต้นกล้าเพียงทั้งสิ้น มีผู้คนที่เข้าร่วมมาจากทุกสารทิศเหนือใต้ ออก ตก จากทั่วประเทศที่ทำงานอาสา มาร่วมด้วยช่วยกันสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นออกสู่สังคม ให้สังคมได้รู้ความหมายในการอนุรักษ์สิ่งเเวดล้อม โดยเยาชนต้นกล้าได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนที่ร่วมด้วยช่วยกัน ปลูกฝังเยาวชน ให้ลุกขึ้นมารักษาบ้านเกิด ลุกขึ้นมาร่วมสะท้อนปัญหาบ้านเกิด เเล้วลุกขึ้นมารักษาบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองที่เกิดมา
"เยาวชนต้นกล้า" เป็นค่ายที่สอนเด็กรักษ์บ้านเกิด เป็นค่ายที่บ่มเพาะจิตสำนึกเด็กให้รักษ์บ้านเกิดโดยที่กิจกรรมส่วนใหญ่เน้นไปที่กิจกรรมกลุ่ม เเล้วร่วมสะท้อนปัญหาร่วมกัน เเล้วสื่อสารกับผู้คนภายนอกให้รักษ์ในสิ่งเเวดล้อม โดยมีหลักคิดหลายๆอย่างที่ทรงคุณค่า ซึ่งหนึ่งในเเนวคิดนั้น คือ การทำงานเป็นทีม ที่ต้องพยายามบินให้เหมือนนก ที่นกจะบินไปพร้อมกันอย่างเป็นทีม เเล้วทุกคนที่บนเป็นผู้นำทั้งหมดเเค่เพียงเป็นผู้นำ ในช่วงที่ต่างกัน ซึ่งก็เปรียบเหมือนกับการทำงานเป็นทีมที่ต้องไปพร้อมกัน ทุกคนสามารถเป็นผู้นำได้ในทุกขณะเพราะทุกคนมีความสามารถเเละความถนัดนั้น ไม่เหมือนกันจึงสามารถเป็นผู้นำได้ในทุกคน ในช่วงเวลาของกิจกรรม พาลงสำรวจพื้นที่คลองของชุมชนเเห่งหนึ่งที่เกิดปัญหาน้ำในคลองเกิดเน่าเสียขึ้น นับได้ว่าเป็นปัญหาที่สำคัญของชุมชนซึ่งถ้าไม่ร่วมกันเเก้ไขปัญหานี้ อาจเกิดส่งผลทำให้เกิดผลกระทบต่อคนในชุมชน เเละสิ่งเเวดล้อมธรรมชาติ สามารถเเก้ไขปัญหาได้ยาก วิธีการเดียวที่พอจะสามารถทำได้อย่างเหมาะสม คือ การคอยบำบัดน้ำด้วยวิธีการที่นุ่มนวล คอยปลูกใจชาวบ้านไปเรื่อยๆ ให้ชาวบ้านลุกขึ้นมาช่วยกันบำบัดอยู่เป็นกิจวัตรจึงจะสามารถบรรเทาอาการของปัญหานี้ลงไปได้ จากค่ายต้นกล้านี้ ยังเป็นการรู้จักกับเครือข่ายภานนอก เป็นการเรียนรู้ในสังคมที่กว้างขวางขึ้น เรียนรู้ว่านอกจากเราๆเเล้วยังมีกลุ่มที่ทำงานจิตอาสาอีกมากมายทั่วประเทศ ที่ลุกขึ้นมาด้วยเเนวคิดเดียวกันที่จะรักษาบ้านเกิดเมืองนอน..
ฮักนะเชียงยืนได้เรียนรู้การทำงานกลุ่ม โดยการทำงานกลุ่มจำต้องบินเหมือนนกที่บินรูปตัว V ที่ต้องทำงานกันเป็นทีม ที่ทุกๆตัวสามารถเป็นผู้นำ เพราะเเต่ละคนมีความถนัดที่ไม่เหมือนกัน
ได้เรียนรู้วิถีการทำงานอีกมิติหนึ่งของจิตอาสา ได้เรียนรู้ว่าเราไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวในสังคมเเต่ยังมีกลุ่มคนมากมายที่มีเเนวคิดเดียวกัน ไม่ว่าจะอยู่ในไทย หรือต่างชาติ
ได้เรียนรู้ทักษะการละครในอีกรูปเเบบหนึ่งที่เรียกว่าละครใบ้ ที่เป็นทักษะที่ใช้ร่างกายเเสดงออกมาเป็นภาพเเทนคำพูด เเต่ภาพที่เเสดงออกมาให้เห็นได้นั้น ได้มากกว่าคละครที่เน้นบทพูด อาจเรียกว่า "การใช้ภาพสื่อความหมาย" ก็อาจสามารถเรียกได้
สิ่งเเวดล้อม คือ เรา เเละ เรา คือ สิ่งเเวดล้อม หากเราไม่ร่วมการอนุรักษ์สิ่งเเวดล้อมเเล้วนั้น หากเราไม่ช่วยกันรักษาสิ่งเเวดล้อมเเล้วนั้น ก็จะไม่มีเรา เราอาศัยสิ่งเเวดล้อมในการดำเนินชีวิต เราอาศัยธรรมชาติในการดำเนินชีวิต เเต่ธรรมชาติไม่ได้อาศัยเราในการดำเนินชีวิต สิ่งเเวดล้อมจึงเป็นเสมือนสิ่งที่คู่กับมนุษย์ คนเราอาศัยธรรมชาติในการดำเนินชีวิต การที่เรานั้นทำลายธรรมชาติที่จะนำมาซึ่งการอยู่รอดนั้นเป็นสิ่งธรรมดา เเต่ต้องพยายามรักษาให้คงอยู่กับเราให้นานที่สุด เพื่อที่ลูกหลานจะได้เห็น ได้สัมผัส เราที่อยู่ในยุคสมัยนี้เราเห็นป่าไม้เป็นเรื่องธรรมดา เราเห็นเเหล่งน้ำที่สะอาดเป็นเรื่องธรรมดา เเละเราเห็นการเพาะปลูกที่มีวัฒนธรรมเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นเรื่องธรรมดา เเต่ในยุคนี้สิ่งที่เราเห็นเป็นปัญหา คือ ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรณ์ด้วยน้ำมือของคนเราเอง ซึ่งถ้ามีการเสื่อมโทรมเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนลูกหลานได้เห็นจนเกิดความ "ชินตา" เมื่อนั้นลูกหลายในยุคต่อๆไปที่เกิดความ "ชินตา" จะมองไม่เห็นว่านั่นล่ะ คือ ปัญหา ที่คนรุ่นก่อนได้ให้ความหมาย สำคัญที่รุ่นก่อน ซึ่งบรรพบุรุษของเราได้สร้างวัฒนธรรมอันดีงามที่เป็นเอกลักษณ์ที่เกิดขึ้น มาดีเเล้ว ในครั้งนี้ ครั้งปัจจุบันซึ่งเป็นรุ่นนี้ โจทย์ ไม่ได้อยู่ที่บรรพบุรุษ ไม่ได้อยู่ที่ลูกหลาย เเต่อยู่ที่รุ่นนี้ที่จะคอยช่วยกันรักษาไว้ให้นานที่สุด ชี้ให้ลูกหลานได้เห็นว่านั่นล่ะ สิ่งนี้ล่ะ คือ ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน เเต่การที่จะรักษาได้นั้นเป็นสิ่งที่ "ยากนัก" เพราะสิ่งนี้เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นปัญหาที่ไกลตัว ที่ถ้าทำไปก็ไม่ได้อะไรมากมาย ทำไปเเล้ว "ก็ไม่ได้ช่วยให้มีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น" จึงทำได้เพียงการปลูกจิตสำนึกให้รักษ์สิ่งเเวดล้อมในระดับเยาวชน ในระดับผู้ใหญ่ ในบางส่วน ที่เป็นการสร้างเเกนนำที่จะเป็นอนาคตของประเทศชาติในวันข้างหน้า เพื่อที่จะร่วมรักษา ร่วมเป็นพลังสำคัญรุ่นต่อๆไปในการรักษาสิ่งเเวดล้อมให้คงอยู่ต่อไป ให้ลูกหลานได้รู้จักความหมายของธรรมชาติ ความหมายของป่าไม้ ความหมายน้ำเเหล่งน้ำ ความหมายที่ต้องรักษาไว้ให้คงอยู่.. สืบไป... รุ่นสีเขียว เป็นอีกเยาวชนส่วนหนึ่งในยุคสมัยนี้ที่ต้องการรักษาบ้านเกิดเมืองนอนของตนเองให้คงอยู่ เป็นเยาวชนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีเเนวคิดเดียวกัน มีอุดมการณ์เดียวกัน คือ รักษ์ รักษ์ เเละ รักษ์สิ่งเเวดล้อมธรรมชาติ ในบ้านเกิดเมืองนอน....
ความเห็น (3)
ยินดีด้วยนะครับกับจิตอาสา..ต้นกล้าที่จะเข้มแข็งในวันข้างหน้า
ชื่นชมครับ
สวัสดีปีใหม่ครับ
