อดีตผ่านไปแล้วอนาคตยังมาไม่ถึง


ความร้ายในโลกล้วน

อดีตผ่านไปแล้วอนาคตยังมาไม่ถึง

 

บทบาทกับสิ่งที่ชีวิตของแต่ละคนต้องการนั้น..ดูเหมือนว่าบางครั้งจะไม่สอดรับกันเท่าไหร่

แต่ อย่างไร ก็ตามก็จะต้องประคับประคองชีวิตให้ตลอดรอดฝั่งไป......

 

ทำให้นึกถึงคำกลอนบทหนึ่งของหลวงพ่อ...ว่่า

 

ความร้ายในโลกล้วน             เหลือหลาย
รุมรอบรบกายใจ                   เกลื่อนแท้
สิ่งอื่นจักหักหาย                    หาห่อน  มีฤา
เว้นแต่ความดีแก้                 กลับร้ายกลายดีฯ

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถระ)

 

 

ชีวิตในแต่ละช่วง จึงต้องผ่านทั้งสิ่งที่เป็นเหตุภายนอก ...ซึ่่งบางครั้งอาจเกิดจากสิ่งที่ตัวเราไม่ได้ทำไว้ 

 

แต่บางเหตุยอมเกิดแต่ตัวตนเรา ถึงอย่างไร...วันวานของชีวิตของทุกคนย่อมมีขึ้นมีลง 

อาจเป็นเสมือน ชีวิตที่ดีย่อมมีคลื่นและลมผสมเข้ามา...

ขวบสิ้นปี ย่อมมีสิ่งสะท้อน

หมุนเวียนเปลี่ยนผ่าน

ดี ชั่ว สุขสม ไร้ปราถนา

ธรรมดาชีวิตเช่นนั้น

 

...

บ่ายตะวันอ่อน

เมตตาธรรม

หมายเลขบันทึก: 557566เขียนเมื่อ 28 ธันวาคม 2013 14:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 ธันวาคม 2013 14:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
ทำไมนักบวชกลัวความจริง

นักบวช มิใช่มีหน้าที่รับทาน และพยากรณ์ เพียงสองอย่าง แต่ยังมีหน้าที่สื่อสาร(มิใช่ทำลายสาร) ที่สามารถบั่นทอนชั่ว และฟื้นฟูความดีด้วย

องการสื่อสารมวลชนที่มหาบุรุษหนึ่งอุตส่าห์ตั้งขึ้นมา ไม่น่าจะหวาดกลัวสารแห่งความเป็นจริงจนตื่นเต้น พวกเขาได้รับการสั่งสอนให้ใช้สติปัญญา มิใช่ให้ใช้อำนาจฝ่ายหวาดผวา ปต่พบแล้วจริงว่า มีผู้ไม่ใช้ปัญญาญาณ หวาดกลัวเสียจนก่อการที่ ทำลายเกียรติของมหาบุรุษ ให้สาธารณะพบเห็นทั่วไปได้

พลาดพลั้งไปก็ กลับเนื้อกลับตัวได้ ทำให้ทัน เพราะเวลารับทาน กับ กลับเนื้อกลับตัว มันคือเวลาเดียวกัน คือ เวลาที่ยังมีลมหายใจที่พระเจ้ามอบให้มา ดำเนินอยู่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท