เรื่องของ"ความตาย"..เป็นสิ่งที่ไม่ปราถนา..และไม่มีใครอยาก จะกล่าวถึง...และคงไม่ใครที่อยากจะให้ถึง..วันนั้น..(วันตาย)..เรื่องที่อยากจะทบทวนในวันนี้..คือ..ความตาย..ของคุณ.."สวัสดี"..คุณ สวัสดี..เป็นคนอายุ..เพิ่งเข้าวัยเจ็ดสิบไปไม่นานนัก..จะหยุดดื่ม..เหล้าหรือเบียร์..ก็มักจะเป็นวันพระ เขาเป็นคนเงียบๆ..หลังเกษียร..อายุราชการ..การร้องเพลง "คาราโอเกะ.."จะเป็นสิ่งที่ชอบจนเกือบจะเป็นกิจวัตรประจำ..เพลงของ..สุนทราภรณ์..ก็เป็นที่โปรดปราณอยู่....และร้องได้..ที่เรียกได้เท่าเที่ยมผู้มีอาชีพ...ทางนี้
วันนั้นเมื่อสองสามวันก่อนนี้...(ผู้เขียนได้รับโทรศัพท์..จากหลาน..ว่า..พ่อเสียแล้ว..อย่างกระทันหัน)...คุณ..สวัสดี..มี..ศักดิ์เป็นน้องเขย..สาเหตุ..ของการตาย..คือ..หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน..ผู้ตาย..รับประทานอาหารเสร็จ..ยังถือแก้วเหล้าอยู่ในมือ..แก้วหล่น..จากมือ..และเงียบเฉยไป..
หลายบุคคลที่ทราบข่าวการ..จากไป..ของคุณสวัสดี..มักจะพูดกันเป็นเสียงเดียว..กันว่า..มีบุญนะ..(ผู้ตาย)..ซึ่งคงจะหมายความว่าไม่มีความทรมาณ..หรือต้องทนทุกข์ใดๆทั้งสิ้น...และยังกล่าวขวัญถึง "ความตายนี้" ว่าถ้าจะตายก็หวังไว้เช่นนั้น..อย่าได้..ทรมาณตนและผู้อื่น..เลย...(ความหวัง..นี้..อาจจะเป็น..ความหวัง..ของคนหลายๆคน..แม้แต่..(ผู้เขียนเอง)
หากจะเป็นสิ่งที่..ต้องทบทวน..หรือ..ความหวัง..ครั้งสุดท้าย..ที่..ไม่มีใคร..ทราบผลแห่งความหวังนั้นว่าจะสำเร็จสมหวังหรือไม่..เพราะ..กว่าจะถึงวันนั้น..ไม่ช้าก็เร็ว...ก็คงเป็นสิ่งหนึ่งที่คงจะต้องทบทวนกัน..อยู่สม่ำเสมอ..ด้วย..ความไม่..ประมาท
ทุกชีวิต..จบลง..ที่นี่..เชิงตะกอน..................................(คุณ)...สวัสดี..กับความตาย
ขอจงสู่สุขคติภพเทอญ
ขอให้ไปสู่สุคติด้วยนะคะคุณสวัสดี...
ขอให้คุณสวัสดีสู่สุขคตินะคะ
คุณยายธีขา
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วดิฉันก็ได้ไปร่วมงานฌาปกิจคุณยายของน้องที่ทำงานให้ดิฉันที่พังงาค่ะ
ในงานศพนั้น ได้ภาพมุมสะท้อนชีวิตมากมายค่ะ
เสียงร้องไห้ด้วยอาลัยของลูกหลาน...
ผู้คนมากมายมาร่วมงาน...
ในวันสุดท้ายของชีวิต ไม่เคยมีใครสามารถนำอะไรไปได้เลยค่ะ ...
ไม่เคยมีใครกลับมาบอกเรานะคะ ว่าไปไหนอย่างไร หลังความตาย...
ชีวิตและความตายนั้น..เป็นของเฉพาะของใครของคนนั้น ..ที่จะต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง...
เตรียมตัว เตรียมใจ .. ในทุกๆ วัน ..ยังไงก็ต้องจากไปกันทุกคน ...ค่ะ
ขอบคุณบันทึกชวนคิด และเตือนสติของคุณยายธีค่ะ
ขอให้คุณสวัสดีสู่สุขคติด้วยค่ะ
อ่านแล้วคิดถึงพี่ชายจับใจเลยค่ะ พี่ชายเป็นลูกคุณป้าจากไปประมาณ 10 ปีแล้วด้วยวัย 50 ปีเศษเท่านั้นทิ้งเมียและลูก 3 คนไว้ข้างหลัง ทุกคนเศร้าโศกเพราะพี่ชายเป็นคนสบาย ๆ อารมณ์ดีที่สุดอยู่ที่ไหนมีแต่เสียงหัวเราะและเสียงเพลง พี่จากไปอย่างกระทันหัน นั่งล้อมวงทานเย็นกับครอบครัว อยู่ดี ๆก็หงายหลังล้มตึงแล้วไปเลย ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอนจริง ๆ
ขอแสดงความเสียใจ และร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปอย่างสงบของคุณสวัสดี ด้วยนะคะคุณยายธี...
" เรา ต้องพิจารณามรณสติเป็นประจำ คือพิจารณาว่าเราจะต้องตายไม่วันใดก็วันหนึ่ง
ความตายเป็นของเที่ยง ............. ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง .............
ความตายจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ จะมาอย่างไรก็ไม่มีใครรู้ การพิจารณา มรณสติ อย่างนี้ช่วยให้เราไม่ประมาท .............
เมื่อเราพิจารณามรณสติแล้ว เราก็จะตระหนักว่าอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำคือหมั่นทำความดี ทำกาย วาจา ใจ ............
ให้เป็นไปในทางที่ดีงาม ที่เรียกว่า กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต ........
การทำกรรมดีอยู่เสมอ และระลึกถึงความตายอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่ต้องทำในขณะที่ยังสุขสบายดีอยู่......"
(บางข้อความจาก.....เตรียมตัวตายอย่างมีสติ.....พระไพศาล วิสาโล)