บทเริ่มต้นเฮฮาศาสตร์ 10 (บทนำ)

บทเริ่มต้นเฮฮาศาสตร์ 10 (บทนำ)

 

เกริ่นนำ(ผู้ประสานพลัง)

          ห่างเหินจากงานเฮฮาศาสตร์มานาน ครั้งล่าสุดได้ไปร่วมที่เฮฮาศาสตร์ 8 ที่กระบี่เมื่อประมาณ 5 ปีมาแล้ว ( เมื่อต้นปี 2552) ครั้งที่ 9 ที่สวนป่าก็ไม่ได้ไปร่วม ครั้งนี้พอพี่บางทรายชักชวนว่าเราอาจจะได้ไปจัดงานเฮฮาศาสตร์ห้วยขาแข้ง มรดกโลด ที่จังหวัดอุทัยธานี  เพราะจะมีการไปสรุปงานที่นั่น ก็ได้แต่หวังว่าเฮฯ ห้วยขาแข้งคงจะมีขึ้นช่วงปลายปี 2556

        และแล้วเฮฮาศาสตร์ห้วยขาแข้ง มรดกโลก ก็ถูกกำหนดจัดขึ้นอย่างแน่นอนที่ห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี  หลังจากที่สมาชิกได้แสดงความคิดเห็นผ่านทาง facebook เพื่อหาช่วงระยะเวลาที่เหมาะกับสมาชิกส่วนใหญ่ จะสามารถปลีกตัวมาได้   สุดท้ายก็ลงเอยกันที่ ช่วงวันที่ 6 - 10 ธันวาคม  2556 ซึ่งเป็นช่วงของการจัดงานมรดกโลกป่าห้วยขาแข้งซึ่งจะจัดในวันที่ 9 ธันวาคม  กำหนดการจึงจัดงานช่วงนี้  งานเฮฮาศาสตร์จึงได้ถูกกำหนดและจัดในข่วงเวลาเดียวกัน  อีกทั้งวันที่ 5 ,7,8 และ 10 ธันวาคม 2556 นั้นเป็นช่วงที่มีวันหยุดใกล้ๆ กัน  สมาชิกจะได้มีโอกาสมาร่วมงานได้อย่างสะดวกเพราะมีช่วงวันหยุดที่หลายวันนั่นเอง

        สิ่งที่พิเศษนอกเหนือไปจากการจัดงานเฮฮาศาสตร์ทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา ก็คือ งานครั้งนี้เป็นการจัดแบบ “อิงระบบ” (อิงระบบ เป็นคำที่พ่อครูบาสุทธินันท์ ใช้เสมอเมื่อเอ่ยถึงการบูรณาการทำงาน/การพัฒนา) คือเป็นการจัดงานลักษณะของการเสริมพลัง  ที่มีหน่วยงานทางราชการคือสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เป็นเจ้าภาพ พวกเรามาในฐานะเครือข่ายฯ ร่วมกิจกรรม สมาชิกหลายคนที่เป็นข้าราชการ(รวมทั้งผมด้วย) ก็เลยได้อานิสงฆ์ของการ “อิงระบบ” ในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

        งานครั้งนี้ต้องขอขอบพระคุณพี่บางทราย (อาจารย์ไพศาล  ช่วงฉ่ำ)ผู้ประสานงาน(ผู้ประสานพลัง)ที่ทำให้เกิดกิจกรรมเฮฮาศาสตร์ครั้งที่ 10 นี้ไว้ ณ ที่นี้ด้วย

เจ้าภาพงานเฮฮาศาสตร์ 10 ตัวจริง

        ผมได้รับหนังสือเชิญให้เข้าร่วมงานครั้งนี้ โดยเป็น “การประชุมสัมมนาเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและฟืนฟูสภาพแวดล้อมในเขตปฏิรูปที่ดิน” ซึ่งมีเหตุผลและรายละเอียดที่น่าสนใจและน่าชื่นชม สรุปโดยย่อๆ ก็คือ

เพื่อให้การดำเนินงานด้านอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในเขตปฏิรูปที่ดิน ของ ส.ป.ก. มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จึงสมควรจัดการสัมมนาเพื่อเปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประสบการณ์ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การเสวนาผืนป่าห้วยขาแข้งโดยกลุ่มนักเขียน(Blogger) และบันทึกเรื่องราวต่างๆ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลหรือแนวคิดในเว็ปไซต์ รวมทั้งประสานความร่วมมือร่วมใจเป็นเครือข่ายช่วยกันดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในเขตปฏิรูปที่ดินและบริเวณข้างเคียงต่อไป…

ภายใต้โครงการ : โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในเขตปฏิรูปที่ดิน ปีงบประมาณ 2557

ชื่อหลักสูตร : การประชุมสัมมนาเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและฟืนฟูสภาพแวดล้อมในเขตปฏิรูปที่ดิน

ระยะเวลา 6-10 ธันวาคม  2556  ณ สถานีพัฒนาและส่งเสริมพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง (ด่านทุ่งแฝก) ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี

เจ้าของโครงการ : สำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี (สพท.) สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)

วัตถุประสงค์

1. เพื่อเป็นเวทีแลกเรียนรู้ประสบการณ์ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของชุมชนท้องถิ่น หรือองค์กรต่างๆ รอบผืนป่าห้วยขาแข้ง
2. เพื่อเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ด้านการอนุรักษ์ผืนป่าห้วยขาแข้งให้แก่กลุ่มนักเขียนบล็อก
3. เพื่อส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายประสานความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติผืนป่าห้วยขาแข้ง และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในเขตปฏิรูปที่ดินและบริเวณข้างเคียง
4. เพื่อสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในเขตปฏิรูปที่ดินและบริเวณข้างเคียง
5. เพื่อขยายผลองค์ความรู้เรื่องการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในเขตปฏิรูปที่ดินไปสู่พื้นที่อื่นๆ

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1. รวบรวมบันทึกแนวคิดและทัศนคติของ Blogger เกี่ยวกับการอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติรวมถึงการพัฒนาชุมชนรอบๆ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และอุทยานแห่งชาติแม่วงก์
2. เครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในเขตปฏิรูปที่ดินและพื้นที่ข้างเคียงได้รับการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ และแนวคิดต่างๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินกิจกรรมต่อไป
3. เกิดการประสานความร่วมมือ ร่วมใจกัน อันเป็นกำลังสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติละฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในเขตปฏิรูปที่ดินและบริเวณข้างเคียง

 

ความจริงจากใจ

ผมพิจารณาเนื้อหาและรายละเอียดแล้ว ต้องขอบอกด้วยความสัตย์จริงว่าสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)โดยเจ้าของงานคือสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี (สพท.) นั้นได้ดำเนินกิจกรรมที่สำคัญในระดับชาติ และจะก่อเกิดประโยชน์ต่องานราชการ เป็นต้นแบบให้แก่หน่วยงานอื่นๆ ที่มีภารกิจที่เป็นไปในแนวทางเดียวกันนี้ และจะบรรลุผลต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในเขตปฏิรูปที่ดินและบริเวณข้างเคียงตามที่คาดหวังไว้อย่างแน่นอน เพียงแต่อาจใช้ระยะเวลาและความต่อเนื่องของการประสานสัมพันธ์กันและพัฒนาไปสู่การปฏิบัติระหว่างเครือข่ายต่างๆ ต่อไปในอนาคต

ส่วนวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้นั้น ผมคิดว่าสมาชิกที่ได้มาเข้าร่วมกิจกรรมเฮฮาศาสตร์ในครั้งนี้ทุกๆ คน คงจะมีความเห็นไม่แตกต่างไปจากผมที่ว่า ผลของงานนั้นบรรลุ และสำเร็จแล้วทุกๆ ข้อ  เพราะพวกเราที่มานี้ล้วนมีจิตอาสา ยินดีและเต็มใจที่จะมาร่วมงานครั้งนี้  และทุกกิจกรรมที่ได้จัดขึ้นนั้นล้วนทำให้พวกเราได้ทราบข้อมูลที่ถูกต้อง ปลูกจิตสำนึกรักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติเพิ่มมากขึ้นทวีคูณ ทุกคนกลับบ้านไปพร้อมกับหัวใจที่พองโต มีพลัง มีความมุ่งมั่นที่จะขอเป็นเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่เข้มแข็ง และสานต่อกิจกรรมการอนุรักษ์ต่างๆ ตามกำลังความสามารถของแต่ละคนอย่างเต็มกำลัง

 

ผู้ใหญ่ใจดี

          แต่งาน “การประชุมสัมมนาเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและฟืนฟูสภาพแวดล้อมในเขตปฏิรูปที่ดิน” หรืองานเฮฮาศาสตร์ครั้งที่ 10 นี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย  หากไม่มีผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่งที่คอยเอื้อเฟื้อพวกเราพร้อมกับทีมงานของ    ส.ป.ก.ทั้งในพื้นที่และส่วนกลาง ผู้ใหญ่ใจดีที่ว่านั้นก็คือดร.วีระชัย นาควิบูลย์วงศ์เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ที่ให้การสนับสนุน และเข้าร่วมกิจกรรมพร้อมๆ กับเป็นกำลังใจอันยิ่งยวดสำหรับพวกเราทุกๆ คน เป็นทำงานที่ขับเคลื่อนพลังจากหลายๆ ฝ่าย ทำให้เห็นแสงสว่างของความสำเร็จที่เจิดจ้ารอเราอยู่ข้างหน้า  ขอขอบพระคุณแทนเครือข่ายฯ ทุกๆคนครับ

สิงห์ป่าสัก

14 ธันวาคม 2556