อีสานเขียว


อีสานเขียว

 

 

 

 

 

เกือบสามปีแล้วที่ความแห้งแล้งยังนอนขดตัวอยู่ในหมู่บ้านจระเข้มากแห่งนี้
โครงการอีสานเขียวของรัฐบาลดูเหมือนจะเป็นนิทานหลอกเด็กให้เข้านอนเท่านั้น
“ไอ้วัน  ไอ้วันโว้ย ” 
“เออ กูได้ยินแล้ว กูกำลังหาหนังสติ๊กอยู่”
“แล้วท่านเมธีของเราล่ะ” วันถามโรจน์ ขณะหยิบยางยืดในตะกร้าเครื่องแกงแม่ มัดเสริมหนังสติ๊กคู่ใจ
“กูไปหามันแล้วเมื่อเช้า เห็นแม่มันบอกว่าออกไปช่วยพ่อเก็บถ่านตั้งแต่เช้าแล้ว กูก็เลยบอกกับแม่ว่าถ้ามันมาก็บอกมันด้วย”
“พร้อมยังว่ะ เออหล่อแล้ว กูไม่ได้พามึงไปที่ยวนะโว้ย” โรจน์ตวาด ขณะเห็นวันกำลังส่องกระจกใช้มือลูบผมอันน้อยนิดของตนอย่างประณีต
“ไอ้คอแดง วันนี้เป็นอันสูญพันธุ์แน่” วันยักไหล่พร้อมกับทำท่ายิงเล็งไปยังต้นสะแบงหลังบ้าน
“ห่า กูว่ามึงเดินตามหลังกูดีกว่า คอยเก็บกิ้งก่าโชคร้ายใส่ย่าม ถุย! ท่าสวยเชียว” โรจน์ยิ้มเหนือชั้น กับวาทกรรมของตน
“เออ มึงเก่ง แต่วันนี้มึงจะได้รู้ว่ากระสุนกู มันก็ไร้ความปรานีเหมือนกัน”
“ห่ากิน แม่งยิงยังกะกลัวกิ้งก่าจะมาเอาคืน กูเห็นมึงยิงทีไรกิ้งก่าแค่ตกใจทุกที” โรจน์หัวเราะร่าก่อนประโยคบอกเล่าจะตามมา
“มึงยังเด็กนัก มึงยังไม่เคยมอบความตายให้กับสัตว์สักตัว บางทีกูว่ามึงเอาดีทางด้านเลวอย่างกูไม่ได้หรอก” 
วันทำสีหน้าอย่างกับเด็กหิวขนม ก่อนจะนั่งลงเก็บลูกหิน กระสุนที่ตนคิดว่าจะใช้พรากลมใจจากสัตว์สักตัว เพื่อลบคำสบประมาทจากโรจน์

แดดเริ่มแรงขึ้น หลายนาทีสำหรับการเก็บลูกกระสุน แล้วสองเกลอก็ออกเดินทาง
“หวีดๆๆวิ้ว หวีดๆๆวิ้วๆๆ” วันผิวปากยาวหยั่งเชิงเรียกเหยื่อ 
แล้วกิ้งก่าคอแดงผู้โชคร้ายก็โผล่มา มันทำคองึกๆ คล้ายยั่วล้อ ตามประสา ท้าทาย พรานโรจน์ผู้กระชากวิญญาณกิ้งก่ามาแล้วนับไม่ถ้วน
โรจน์จ้องมองไปที่กิ้งก่าแทบไม่กะพริบตา ขณะกระสุนหินถูกบรรจงบรรจุลงอย่างช่ำชอง 
“พิ้ว” 
“ตุบ”
“เก็บสิว่ะ”
“เมธี”
“อะไรว่ะ กูอุตส่าห์จะสอนมวยให้ไอ้วันดูสักหน่อย”
“ซามูไรชักดาบแล้วต้องฟันโว้ย มัวแต่ เงอะๆ งะ แม่งก็ปิดบ้านหนีหมดสิมึง” เมธีพ่นปรัชญาที่เคยได้ยินมา
วันหัวเราะชอบใจกับการสอนมวยในครั้งนี้
“แล้วมึงช่วยพ่อมึงเก็บถ่านเสร็จแล้วเหรอว่ะ”
“เออ ไม่เสร็จกูจะมาหาพวกมึงได้เหรอว่ะ”

เหงื่อเม็ดแรกของวันผุดตรงจมูกก่อนจะลามไปถึงร่องก้น วันใช้มือปาดเหงื่อออกก่อนจะเอาเลือดจากร่างของกิ้งก่าตัวแรกลูบที่ด้ามหนังสติ๊กเพื่อความเป็นสิริมงคล 
“เล่นของหรือมึง” โรจน์แซว
“เออ”
“ทำไมเมืองไทยมันร้อนอย่างนี้ว่ะ” เมธีดับความร้อนของอารมณ์สองเกลอโดยใช้ความร้อนกว่า
“มึงพูดอย่างกะเคยอยู่ต่างประเทศ”
“เออว่ะ หรือว่ามึงเคยอยู่จริงๆ ดูตามึงสีทองเหมือนฝรั่ง หรือว่าแม่มึง... ”
“ห่ามึงสองคน”
“กูเคยได้ยินจากทีวี”
“บ้านมึงไม่มีทีวีนี่หว่า” โรจน์แสดงความสงสัย
“ใช่” วันทำหน้างงๆ
“เออน่า กูเคยดูแล้วกัน” 
“เอ้า นั่นพวกเองจะพากันไปไหนละ” ยายเสื่อมพรานชราผู้คร่าชีวิตปูนา ถามสามเกลอตามแบบคนรู้จักกัน
“ไปล่ากิ้งก่าครับยาย” สามเกลอตอบอย่างพร้อมเพรียง
“ได้กี่ตัวแล้วล่ะ” 
“อ๋อ หลายตัวเหมือนกันครับ ไอ้วันมันบ่นแล้วบ่นอีกว่าแบกไม่ไหวแล้ว นี่ก็กำลังจะพากันกลับ แต่พอดีอยากกินกะเพรากิ้งก่าก็เลยกะว่าจะไปขอกะเพราลุงมั่นก่อนสักสองสามกำ”  โรจน์ยิ้มปนหัวเราะ
“เออ ดีเนาะพวกมึง รู้จักทำมาหากินกันตั้งแต่เด็ก” ยายเสื่อมยันเสียมพยุงร่างอันเหี่ยวย่นของตนขึ้นก่อนจะเดินหารูปูเคราะห์ร้ายต่อไป
“เฮ้ย บาปนะโว้ย หลอกคนแก่” วันไม่พอใจกับการมดเท็จของโรจน์เกลอคู่กัดของตน
“ไม่หรอกน่า พอหอมปากหอมคอ ขำๆ อย่าคิดมาก” 
แล้วสามเกลอก็มาถึงดงหว้า อันเป็นดินแดนของนกเล็กนกใหญ่ รวมทั้งเหยื่อตาแดงอันเป็นเหยื่อที่ทั้งสามรู้กันดีว่าสุดยอดของความอร่อย และสุดยอดแห่งความสนุก
“ปูดๆๆๆๆ ปูดๆๆๆๆ ปูดๆๆๆๆ”  เสียงนกกะปูดเชื้อเชิญมาแต่ไกล
“เฮ้ย พวกมึงอ้อมไปอีกด้าน ใครเจอมันก่อนร้องบอกด้วย กูคิดว่ากะเพราลุงมั่นได้ใช้งานแน่ ๆ” เมธีกล่าวอย่างมั่นใจกว่าทุกครั้ง
 “แป๊กๆ ๆ ๆ...ๆ”
“กูยิงถูกมันแล้วๆ ไอ้วันไอ้เมธี ทางนี้”
“ห่าเอ้ย ...ยิงโดนกิ่งไม้ยังมาบอกว่ายิงถูกอีก” วันสบถอย่างเจ็บใจในการสร้างความตระหนกของเกลอคู่กัด
“ตามมันไปอย่าให้คลาดสายตา มันบินได้ไม่ไกลหรอก ต้อนมันอย่าให้มันเข้ากอไผ่ได้ ไม่งั้นกะเพราลุงมั่นเป็นหมันแน่ แล้วค่อยยิงพร้อมกัน” เมธีแสดงความช่ำชองในการล่า โดยการออกคำสั่ง
“มันหยุดแล้ว มันอยู่บนกิ่งขี้เหล็ก” วันทำท่าจะยิง แต่คิดได้ว่าต้องรอก่อน
“เออ กูเห็นแล้ว” โรจน์มองเหยื่อไม่กะพริบ ในใจนึกถึงข้าวสวยร้อนๆ กับกะเพรากะปูด
“เอาละ กูให้สัญญาณยิงเลยนะ” เมธีออกคำสั่ง
 “ปิ้ว โป๊ะ แป็กๆ”
“มันเสร็จแน่” วันแสดงความมั่นใจในกระสุนของตน ก่อนจะแหวกกิ่งหว้าที่ใช้อำพรางออก
“กูว่าไม่รอดว่ะ” โรจน์ยิ้ม
“อย่ามั่นใจไปเพื่อน ไอ้ตัวนี้มันร้ายนัก ลำพังกระสุนอ่อนซ้อมอย่างพวกมึง ทำได้แค่สร้างความคันให้มันเท่านั้นแหละ” เมธีแสดงความเหนือชั้นจนน่าหมั่นไส้
“ตอนนี้มันกำลังจนมุมเราอยู่ในรังหนูท้องขาว ไม่แน่หากโชคดีเราอาจได้หนูท้องขาวด้วย ฉนั้นรอคำสั่ง” เมธีบอกเพื่อนขณะนำกระสุนเข้าบรรจุ

หลายนาทีสำหรับการยิงของสามเกลอ รังของหนูท้องขาวกระจายไม่เหลือชิ้นดี วันคิดว่าถ้าเป็นปืนวันคงจะเป่าหลังควันปืนพร้อมกับมาดพระเอกฮ่องกง สำหรับโรจน์ตอนนี้กะเพรากะปูดไม่ไกลเกินแล้ว ส่วนเมธีนั้น คิดว่าเป็นเพียงเรื่องธรรมดาๆ เท่านั้น
แล้วร่างของกะปูดที่เคยส่งเสียงได้เมื่อครู่ก็หล่นลงมาพร้อมกับหนูท้องขาวตัวผู้ไอ้จ้อนโต
“เก็บสิว่ะ” โรจน์กำชับวัน ขณะเจ้าตัวยักไหล่อย่างกะนักเลงปืนไว
“เท่ตายเลยมึง”
อากาศร้อนขึ้นกว่าเดิมจนสามเกลอต้องหยุดพักใต้ต้นไม้แทบทุกต้นที่มี
“อีสานเขียวห่ามัน ร้อนจะตาย” วันบ่นยิ่งกว่าหมีกินผึ้งที่เคยได้ยินครูภาษาไทยสอนมา
“แม่งติดป้ายรณรงค์กันยกใหญ่ โปรดช่วยกันปลูกต้นไม้ แต่แม่งตัดไม้มาสร้างป้าย ...ถุย! ห่า” โรจน์มีอารมณ์
“เออน่า กูว่าพวกมึงคิดเรื่องจะทำอย่างไรกับไอ้สามตัวนี่ดีกว่า”  เมธีแทรกขึ้น
“กูว่าผัดกะเพราแม่งรวมเลยดีกว่า” วันเสนอความเห็น
“กูเห็นด้วย มึงพูดถูกใจกูก็วันนี้แหละไอ้เกลอ” โรจน์เออออ
“งั้นพวกมึงจัดการถลกหนังถอนขนให้เรียบร้อย เดี๋ยวกูจะไปขอกะเพราลุงมั่นสักสองสามกำ”

เกือบสามปีแล้วที่ความแห้งแล้งยังนอนขดตัวอยู่ในหมู่บ้านจระเข้มากแห่งนี้
โครงการอีสานเขียวของรัฐบาลดูเหมือนจะเป็นนิทานหลอกเด็กให้เข้านอนเท่านั้น
“ไอ้วัน  ไอ้วันโว้ย ” 
“เออ กูได้ยินแล้ว กูกำลังหาหนังสติ๊กอยู่”
“แล้วท่านเมธีของเราล่ะ” วันถามโรจน์ ขณะหยิบยางยืดในตะกร้าเครื่องแกงแม่ มัดเสริมหนังสติ๊กคู่ใจ
“กูไปหามันแล้วเมื่อเช้า เห็นแม่มันบอกว่าออกไปช่วยพ่อเก็บถ่านตั้งแต่เช้าแล้ว กูก็เลยบอกกับแม่ว่าถ้ามันมาก็บอกมันด้วย”
“พร้อมยังว่ะ เออหล่อแล้ว กูไม่ได้พามึงไปที่ยวนะโว้ย” โรจน์ตวาด ขณะเห็นวันกำลังส่องกระจกใช้มือลูบผมอันน้อยนิดของตนอย่างประณีต
“ไอ้คอแดง วันนี้เป็นอันสูญพันธุ์แน่” วันยักไหล่พร้อมกับทำท่ายิงเล็งไปยังต้นสะแบงหลังบ้าน
“ห่า กูว่ามึงเดินตามหลังกูดีกว่า คอยเก็บกิ้งก่าโชคร้ายใส่ย่าม ถุย! ท่าสวยเชียว” โรจน์ยิ้มเหนือชั้น กับวาทกรรมของตน
“เออ มึงเก่ง แต่วันนี้มึงจะได้รู้ว่ากระสุนกู มันก็ไร้ความปรานีเหมือนกัน”
“ห่ากิน แม่งยิงยังกะกลัวกิ้งก่าจะมาเอาคืน กูเห็นมึงยิงทีไรกิ้งก่าแค่ตกใจทุกที” โรจน์หัวเราะร่าก่อนประโยคบอกเล่าจะตามมา
“มึงยังเด็กนัก มึงยังไม่เคยมอบความตายให้กับสัตว์สักตัว บางทีกูว่ามึงเอาดีทางด้านเลวอย่างกูไม่ได้หรอก” 
วันทำสีหน้าอย่างกับเด็กหิวขนม ก่อนจะนั่งลงเก็บลูกหิน กระสุนที่ตนคิดว่าจะใช้พรากลมใจจากสัตว์สักตัว เพื่อลบคำสบประมาทจากโรจน์

แดดเริ่มแรงขึ้น หลายนาทีสำหรับการเก็บลูกกระสุน แล้วสองเกลอก็ออกเดินทาง
“หวีดๆๆวิ้ว หวีดๆๆวิ้วๆๆ” วันผิวปากยาวหยั่งเชิงเรียกเหยื่อ 
แล้วกิ้งก่าคอแดงผู้โชคร้ายก็โผล่มา มันทำคองึกๆ คล้ายยั่วล้อ ตามประสา ท้าทาย พรานโรจน์ผู้กระชากวิญญาณกิ้งก่ามาแล้วนับไม่ถ้วน
โรจน์จ้องมองไปที่กิ้งก่าแทบไม่กะพริบตา ขณะกระสุนหินถูกบรรจงบรรจุลงอย่างช่ำชอง 
“พิ้ว” 
“ตุบ”
“เก็บสิว่ะ”
“เมธี”
“อะไรว่ะ กูอุตส่าห์จะสอนมวยให้ไอ้วันดูสักหน่อย”
“ซามูไรชักดาบแล้วต้องฟันโว้ย มัวแต่ เงอะๆ งะ แม่งก็ปิดบ้านหนีหมดสิมึง” เมธีพ่นปรัชญาที่เคยได้ยินมา
วันหัวเราะชอบใจกับการสอนมวยในครั้งนี้
“แล้วมึงช่วยพ่อมึงเก็บถ่านเสร็จแล้วเหรอว่ะ”
“เออ ไม่เสร็จกูจะมาหาพวกมึงได้เหรอว่ะ”

เหงื่อเม็ดแรกของวันผุดตรงจมูกก่อนจะลามไปถึงร่องก้น วันใช้มือปาดเหงื่อออกก่อนจะเอาเลือดจากร่างของกิ้งก่าตัวแรกลูบที่ด้ามหนังสติ๊กเพื่อความเป็นสิริมงคล 
“เล่นของหรือมึง” โรจน์แซว
“เออ”
“ทำไมเมืองไทยมันร้อนอย่างนี้ว่ะ” เมธีดับความร้อนของอารมณ์สองเกลอโดยใช้ความร้อนกว่า
“มึงพูดอย่างกะเคยอยู่ต่างประเทศ”
“เออว่ะ หรือว่ามึงเคยอยู่จริงๆ ดูตามึงสีทองเหมือนฝรั่ง หรือว่าแม่มึง... ”
“ห่ามึงสองคน”
“กูเคยได้ยินจากทีวี”
“บ้านมึงไม่มีทีวีนี่หว่า” โรจน์แสดงความสงสัย
“ใช่” วันทำหน้างงๆ
“เออน่า กูเคยดูแล้วกัน” 
“เอ้า นั่นพวกเองจะพากันไปไหนละ” ยายเสื่อมพรานชราผู้คร่าชีวิตปูนา ถามสามเกลอตามแบบคนรู้จักกัน
“ไปล่ากิ้งก่าครับยาย” สามเกลอตอบอย่างพร้อมเพรียง
“ได้กี่ตัวแล้วล่ะ” 
“อ๋อ หลายตัวเหมือนกันครับ ไอ้วันมันบ่นแล้วบ่นอีกว่าแบกไม่ไหวแล้ว นี่ก็กำลังจะพากันกลับ แต่พอดีอยากกินกะเพรากิ้งก่าก็เลยกะว่าจะไปขอกะเพราลุงมั่นก่อนสักสองสามกำ”  โรจน์ยิ้มปนหัวเราะ
“เออ ดีเนาะพวกมึง รู้จักทำมาหากินกันตั้งแต่เด็ก” ยายเสื่อมยันเสียมพยุงร่างอันเหี่ยวย่นของตนขึ้นก่อนจะเดินหารูปูเคราะห์ร้ายต่อไป
“เฮ้ย บาปนะโว้ย หลอกคนแก่” วันไม่พอใจกับการมดเท็จของโรจน์เกลอคู่กัดของตน
“ไม่หรอกน่า พอหอมปากหอมคอ ขำๆ อย่าคิดมาก” 
แล้วสามเกลอก็มาถึงดงหว้า อันเป็นดินแดนของนกเล็กนกใหญ่ รวมทั้งเหยื่อตาแดงอันเป็นเหยื่อที่ทั้งสามรู้กันดีว่าสุดยอดของความอร่อย และสุดยอดแห่งความสนุก
“ปูดๆๆๆๆ ปูดๆๆๆๆ ปูดๆๆๆๆ”  เสียงนกกะปูดเชื้อเชิญมาแต่ไกล
“เฮ้ย พวกมึงอ้อมไปอีกด้าน ใครเจอมันก่อนร้องบอกด้วย กูคิดว่ากะเพราลุงมั่นได้ใช้งานแน่ ๆ” เมธีกล่าวอย่างมั่นใจกว่าทุกครั้ง
 “แป๊กๆ ๆ ๆ...ๆ”
“กูยิงถูกมันแล้วๆ ไอ้วันไอ้เมธี ทางนี้”
“ห่าเอ้ย ...ยิงโดนกิ่งไม้ยังมาบอกว่ายิงถูกอีก” วันสบถอย่างเจ็บใจในการสร้างความตระหนกของเกลอคู่กัด
“ตามมันไปอย่าให้คลาดสายตา มันบินได้ไม่ไกลหรอก ต้อนมันอย่าให้มันเข้ากอไผ่ได้ ไม่งั้นกะเพราลุงมั่นเป็นหมันแน่ แล้วค่อยยิงพร้อมกัน” เมธีแสดงความช่ำชองในการล่า โดยการออกคำสั่ง
“มันหยุดแล้ว มันอยู่บนกิ่งขี้เหล็ก” วันทำท่าจะยิง แต่คิดได้ว่าต้องรอก่อน
“เออ กูเห็นแล้ว” โรจน์มองเหยื่อไม่กะพริบ ในใจนึกถึงข้าวสวยร้อนๆ กับกะเพรากะปูด
“เอาละ กูให้สัญญาณยิงเลยนะ” เมธีออกคำสั่ง
 “ปิ้ว โป๊ะ แป็กๆ”
“มันเสร็จแน่” วันแสดงความมั่นใจในกระสุนของตน ก่อนจะแหวกกิ่งหว้าที่ใช้อำพรางออก
“กูว่าไม่รอดว่ะ” โรจน์ยิ้ม
“อย่ามั่นใจไปเพื่อน ไอ้ตัวนี้มันร้ายนัก ลำพังกระสุนอ่อนซ้อมอย่างพวกมึง ทำได้แค่สร้างความคันให้มันเท่านั้นแหละ” เมธีแสดงความเหนือชั้นจนน่าหมั่นไส้
“ตอนนี้มันกำลังจนมุมเราอยู่ในรังหนูท้องขาว ไม่แน่หากโชคดีเราอาจได้หนูท้องขาวด้วย ฉนั้นรอคำสั่ง” เมธีบอกเพื่อนขณะนำกระสุนเข้าบรรจุ

หลายนาทีสำหรับการยิงของสามเกลอ รังของหนูท้องขาวกระจายไม่เหลือชิ้นดี วันคิดว่าถ้าเป็นปืนวันคงจะเป่าหลังควันปืนพร้อมกับมาดพระเอกฮ่องกง สำหรับโรจน์ตอนนี้กะเพรากะปูดไม่ไกลเกินแล้ว ส่วนเมธีนั้น คิดว่าเป็นเพียงเรื่องธรรมดาๆ เท่านั้น
แล้วร่างของกะปูดที่เคยส่งเสียงได้เมื่อครู่ก็หล่นลงมาพร้อมกับหนูท้องขาวตัวผู้ไอ้จ้อนโต
“เก็บสิว่ะ” โรจน์กำชับวัน ขณะเจ้าตัวยักไหล่อย่างกะนักเลงปืนไว
“เท่ตายเลยมึง”
อากาศร้อนขึ้นกว่าเดิมจนสามเกลอต้องหยุดพักใต้ต้นไม้แทบทุกต้นที่มี
“อีสานเขียวห่ามัน ร้อนจะตาย” วันบ่นยิ่งกว่าหมีกินผึ้งที่เคยได้ยินครูภาษาไทยสอนมา
“แม่งติดป้ายรณรงค์กันยกใหญ่ โปรดช่วยกันปลูกต้นไม้ แต่แม่งตัดไม้มาสร้างป้าย ...ถุย! ห่า” โรจน์มีอารมณ์
“เออน่า กูว่าพวกมึงคิดเรื่องจะทำอย่างไรกับไอ้สามตัวนี่ดีกว่า”  เมธีแทรกขึ้น
“กูว่าผัดกะเพราแม่งรวมเลยดีกว่า” วันเสนอความเห็น
“กูเห็นด้วย มึงพูดถูกใจกูก็วันนี้แหละไอ้เกลอ” โรจน์เออออ
“งั้นพวกมึงจัดการถลกหนังถอนขนให้เรียบร้อย เดี๋ยวกูจะไปขอกะเพราลุงมั่นสักสองสามกำ”

หมายเลขบันทึก: 555829เขียนเมื่อ 9 ธันวาคม 2013 13:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 ธันวาคม 2013 13:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ชอบวิธีการบันทึกได้นอกกรอบดีมาก ขอบคุณมากครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท