ไปต่อ
1 ธันวาคม 2556
ใจโง่ ๆ ยังต้าน อยู่ แต่ลึกลงไปรู้ ว่าครูเมตตาช่วยเหลือ
ที่เหลือต้องสู้เอา สู้กับความชั่วของตัวเอง
ครูเมตตาหนูมาก
จนบางทีก็อายและอยากจะวิ่งหนีไป
แต่วันนี้ก็หนีแหละ แต่ก็ดึงตนเองไปมา
เมื่อเช้าก็ยัง ไม่แน่ใจ เรื่องทำวัตร แต่พอเข้าไปแล้วครูชี้ เด็ก ๆ ทุกคนน่ารักมาก เมตตาหนู
ช่วยกันทำวัตรเช้า เสียงของเด็กๆ คือ ความชุ่มเย็นของธรรม
คือยา ที่ทางแผลที่เหวะว่า จากความชั่วในใจ แล้วเสียงใสๆ ของเด็กช่วยรักษา
ใจส่งความรู้สึก ขอบคุณ แต่กลับเอ่ยออกมาไม่เป็นเหมือนก้อนหนัก ๆ ทับไว้
นี่ไง พอจะทำดี มันอาย ต้องฝึกอีกมาก แต่พอทำแบบเอาหน้าหล่ะลื่นคล่อง
เฮ่อ กรรม รับข้าวเสร็จ นั่งดูเด็ก ๆ ก็ทึ่งว่า เขาคิดได้ไง สร้างพื้นที่เล่นของตนเอง
ตอนแรกคิดว่า ดูเด็กๆช่วยครู
สักพักเวลาผ่านไป เด็ก ๆ เขาก็เล่นของเขาปกติ มีคำถามขึ้นมาว่า "แล้วปกติเมื่อก่อนแกทำอะไร" จึงเข้าไปรดน้ำต้นไม้ กวาดตาด เตเม กับ ธีร์ ปั่นจักรยานมาอวด ใจหนู สะเทือน ที่ครูเมตตา ประมาณห้าโมงออกมา
แม่ และครอยครัวของครู เป็นเจ้าภาพ อาหารน่าทานมาก ๆ รวมถึงของหวาน
ระหว่างนั้นแม่หนูโทรมาด้วยน้ำเสียง ห่วงและกังวล กับสถานการณ์บ้านเมือง แล้วห่วงลูก แต่ก็บอกแม่ว่า ลูกอยู่วัด ไม่ต้องห่วง
เด็กได้เรียนได้เล่น เด็ก ๆ ดูสนุก ทำให้ใจที่ครุกรุ่นข้างใน ค่อยๆเย็นลง
ครูเมตตาให้ไปกุดกะเหลิบกับเด็ก ๆ
ครูชี้คิวให้เรียบร้อยอะไรอย่างไร ไปๆมาๆ จักรยานที่หนูกับบิว ขี่ไปมันเสีย ล้อหน้าล็อค
จึงให้บิวไปนั่งกับตาล
แล้วหนูก็มาช่วยเข็นจักรยานพ่วงล้อ ที่ทุ่งปั่น เตเมนั่งท้าย น้องเม และมีมี่ นั่งล้อเข็น
สรุป ก็คือ หนูเดินนั่นเอง บวกกับวิ่งเข็นล้อ เดินสลับวิ่ง หัวใจเต้นแรงดี เด็กๆ สนุกกันมาก
เปลี่ยนอยู่หลายแบบสรุปว่า "ไม่เวิร์ค" ขากลับจึงเข็นล้อเอา น้องมีมี่อาสาเข็นน้องเมย์เป็นระยะ สลับกับทุ่งและหนู
ทบทวนไปมาตัดสินใจกลับบ้านหาแม่ พอมาถึงบ้าน ก้มลงกราบเท้าขอขมาแม่ ในความชั่วและไม่กลับบ้านมา 3 อาทิตย์
แม่ดูมีความสุข และชวนกันไปถวายจังหันที่วัดพี่หลวงพี่บวชตอนเช้า
เล่าให้แม่ฟังถึงแนวคิด ที่หลวงพี่กับหนู ช่วยกันแก้ไขปัญหาที่บ้าน แม่รู้และรู้สึกดีใจ
สุดท้ายหนูก็มาตกม้าตายตอนหลับไปก่อนที่จะเขียนบันทึกค่ะ
ศีลไม่ครบ ข้อวัตรไม่ผ่าน แต่นั่นแหละเวลาแนะนำคนป่วยที่ลืมทานยาเราก็บอกว่า "ทานทันทีที่นึกได้" กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ
ไม่มีความเห็น