คนแบบลำยองมีด้วยหรือ? ตอน 1


คนแบบลำยองมีด้วยหรือ?

ทุกคนคงจะรู้จักและเคยดูละครเรื่องทองเนื้อเก้า โดยคุณนุ่น วรนุช รับบทเป็นลำยอง เมื่อละครเริ่มเข้มข้นขึ้นนับตั้งแต่ลำยองมีสามีคนที่สาม...ผมก็จะเจอประเด็นสุดฮิตทั้งในเฟสบุ๊คและที่ทำงานว่า "เรื่องจริงมีคนแบบลำยองด้วยเหรอ" ผมก็จะหัวเราะ หึหึ...ก่อนตอบว่า มี (เสียงสูง) กระนั้นแล้วก็ยังไม่มีใครเชื่อ ผมเลยจะขอเล่าประสบการณ์จริงให้ทุกคนฟัง เพราะชีวิตจริงนั้นยิ่งกว่าละคร ป้าของผมมีลูก 5 คน 4 คนแรกเป็นผู้หญิง คนสุดท้องเป็นผู้ชาย อายุไล่เลี่ยกัน ลูกๆ ของป้าทุกคนเป็นคนดี ยกเว้นลูกสาวคนที่ 2 ลูกสาวป้าเริ่มเกเรตอนอยู่ ม.ปลาย สุดท้ายหนีออกจากบ้านตอนอายุ 16 ปี แน่นอนป้าของผมเสียใจมาก แต่ก็เพียงไม่นานเพราะลูกสาวป้าไปทำงานกับพี่สาวของผมที่กรุงเทพ ลูกสาวป้าสนิทกับพี่สาวของผมมากเพราะพี่สาวผมเป็นคนเลี้ยงเขามาตั้งแต่ยังเล็ก ป้าผมเบาใจได้ไม่นานก็ต้องทุกข์อีกเพราะลูกสาวหนีไปทำงานที่ฮ่องกงและไม่ได้ติดต่อกับทางบ้านอีกเลย

หลังจากนั้น 2 ปี ลูกสาวป้าก็ติดต่อกลับมาบอกว่าจะคลอดลูกแล้วให้แม่ไปช่วยเลี้ยงสัก 3 เดือน ทางบ้านก็ยินดีมีความสุขลืมความทุกข์ทั้งหมดที่ผ่านมา หลังจากลูกคนแรกได้ขวบกว่าๆ เธอก็ตั้งท้องลูกคนที่ 2 หลังจากให้กำเนิดลูกชายเธอก็ทะเลาะกับสามีและอย่าขาดกันในที่สุด หลานชายตัวน้อยๆ จึงได้มาอยู่กับตายายที่บ้าน ผมเองก็เลี้ยงคู่กันกับหลานชายของผมซึ่งอยู่ในวัยกำลังหัดเดิน นับจากที่เธอเอาลูกมาทิ้งไว้ก็ไม่มีใครติดต่อเธอได้อีกเลย เป็นตายร้ายดีเช่นไรไม่รู้ จนกระทั่งลูกสาวคนโตที่เป็นเสาหลักของครอบครัวป้าตายด้วยมะเร็งปอดในวัย 29 ปี (เป็นกรรมพันธุ์ หมอบอกว่าอย่างนั้น) ทางบ้านก็พยายามติดต่อให้เธอมาทันวันฌาปนกิจ เธอตกปากรับคำว่าจะมาจนถึงวันสุดท้ายเธอก็ไม่ปรากฏในงานเลย

หลังจากนี้ 6 เดือน เธอก็เป็นฝ่ายติดต่อมาเองว่าจะกลับบ้าน ป้าผมก็ดีใจใหญ่เพราะเกือบ 3 ปีแล้วไม่ได้เจอหน้าลูกสาวเลย อ่อผมลืมบอกไปว่า ตอนที่เธอไปทำงานที่ฮ่องกงเธอไปทำศัลยกรรมจนมีหน้าตาสวยกว่าแต่ก่อนมาก เม่ือเธอกลับมาพร้อมกับทารกในห่อผ้า สะดือยังไม่หลุดด้วยซ้ำ ทำเอาทุกคนอึ้งกันไปครู่ใหญ่ๆ เมื่อผมโตขึ้นพอที่จะรับรู้และเข้าใจปัญหา แม่ผมก็เล่าให้ฟังว่า ลูกของป้ามีความฝันว่าจะต้องแต่งงานกับคนรวยเท่านั้นจะได้สบาย เธอจึงเสาะแสวงหาไปเรื่อยๆ เธอจึงยึดอาชีพนวดแผนโบราณ เมื่อเลิกงานก็ไปเที่ยวกลางคืน ชีวิตวนเวียนอยู่แบบนี้ อยู่กับพี่สาวผมได้คราวละ 3-4 เดือน ก็หาย ผมใช้คำว่าหาย เพราะเธอไม่ได้เอาอะไรติดตัวไปนอกจากเสื้อผ้าชุดเดียวที่เธอสวมอยู่ ไม่มีการร่ำลากัน เบอร์ที่เคยใช้ก็ติดต่อไม่ได้ จนเป็นที่รู้กันว่า หากมีอะไรเธอจะติดต่อทางบ้านเอง ผ่านมากว่า 15 ปีแล้วที่ป้าผมยังคงใช้เบอร์เดิม เหตุผลเพียงเพราะกลัวลูกสาวจะติดต่อแม่ไม่ได้....

....หลังจากที่เธอกลับมาพร้อมทารกน้อย เธอก็บอกกับที่บ้านว่าจะอยู่ช่วยงานที่บ้าน จะไม่ไปไหนอีก เพราะอายุก็ปาเข้าเลข 3 แล้ว ระยะเวลาที่เธออยู่บ้านนี่แหละ ลุงกับป้าพาเธอไปออกเหล้าแต่บุหรี่เธอก็ยังสูบอยู่ เมื่อเลิกเหล้าได้ป้าผมก็ลงทุนให้ขายของที่ตลาด ช่วง 3 เดือนแรกทุกอย่างเป็นไปได้สวย แต่พักหลังๆเริ่มไม่มีกำไร ป้าผมออกทุนให้ก็หลายครั้ง จนที่บ้านเริ่มสงสัยว่าทำไมถึงขายของไม่ได้ เลยไปถามคนในตลาด เขาก็ว่า เธอไม่เคยอยู่ขายของเลย มีแต่ติดป้ายไว้ไม่ก็ฝากแม่ค้าข้างๆขาย ตัวเธอนั้นหรือไปกินเหล้าเบียร์สบายใจพร้อมกับก่อหนี้ค่าเหล้าเบียร์ที่ละพันสองพัน ป้าผมก็เป็นทุกข์อีกครั้งจนในที่สุดลุงทนไม่ไหวจึงต่อว่าด่าทอลูกสาว ...ครั้นเธอจะสำนึกก็หาไม่ เธอโกรธพ่อกับแม่และหนีออกจากบ้านอีกครั้ง เธอหายคราวนี้นานกว่าทุกครั้งที่เคยเป็น

หลังจากนั้น 5 ปี เธอก็ติดต่อมา และบอกที่บ้านว่าจะแต่งงานใหม่ จะกลับเนื้อกลับตัว และจะพาแฟนไปไหว้พ่อกับแม่ เธอบอกแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่มันไมีเคยจริงเลย จนลุงบอกว่าอย่าเชื่อสิ่งที่เธอพูดให้เอาล้านหารได้เลย... ผมขอเล่าเพียงเท่านี้ก่อนแล้วจะมาเล่าต่อว่าชีวิตพี่สาวผมจะเป็นอย่างไรต่อไป....

 

หมายเลขบันทึก: 555052เขียนเมื่อ 1 ธันวาคม 2013 01:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 ธันวาคม 2013 01:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ผมไม่เชื่อจริงๆ ครับว่าคนอย่างลำยองจะมีอยู่จริง...... จนกระทั่งได้อ่านบันทึกนี้..... ผมจมดิ่งลงในบรรยกาศของเรื่อง... อาจเป็นเพราะว่า..... เกินความคาดหมายในใจไปพอสมควร.....

หนูบอกอาจารย์แล้วว่ามีจริงๆ แต่ยังไม่เล่าให้ฟังเฉยๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท