แสวงหาความร่วมมือที่เวียดนาม (12) : Haiphong University of Medicine


อยากจะให้อาจารย์พยาบาลของเราไปสอนหรือ train อาจารย์พยาบาลของเขาในเรื่องวิธีการสอนพยาบาลและ methodology of research

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2556 (ต่อ)

เรามีนัดพบผู้บริหารของ Haiphong University of Medicine ในเวลา 14.00 น. มหาวิทยาลัยอยู่ใกล้กับภัตตาคารที่เรากินอาหารกลางวัน เราจึงไปถึงประมาณ 13.45 น. ก่อนเวลานัดหมายเล็กน้อย อาคารของมหาวิทยาลัยใหญ่โต ดูโอ่อ่า บริเวณกว้างขวาง เจ้าหน้าที่พาคณะของเราขึ้นไปที่ห้องประชุมที่เตรียมไว้ มีการต้อนรับง่ายๆ ด้วยน้ำดื่มและน้ำชา

 

อาคารของ haiphong University of Medicine

 

เราได้พบกับคณะของ Haiphong University of Medicine 5 คน นำโดยรองอธิการบดี คณบดี ผู้รับผิดชอบด้าน Postgraduate training ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์

เราได้พบกับ Ass.Prof.Dr.Nguyen Van Hung เป็นคนแรก ท่านเป็นคณบดีคณะเภสัชศาสตร์ เป็นแพทย์ด้วย และยังเป็น Head ของ Department of Medical Ethics and family Medicine เป็นผู้นำเสนอข้อมูลของมหาวิทยาลัยและพูดคุยกับเราเป็นภาษาอังกฤษ

 

ภายในห้องประชุม

 

Ass.Prof.Dr.Nguyen Van Hung กำลังนำเสนอข้อมูลของมหาวิทยาลัย

 

Haiphong University of Medicine กำลังจะเปลี่ยนชื่อเป็น Haiphong University of Medicine and Pharmacology เป็นสถาบันที่มีพัฒนาการมาเป็นลำดับ

  • ก่อนปี 1979 มีสถานะเป็นโรงพยาบาลแหล่งฝึกของนักศึกษาแพทย์จาก Hanoi Medical University
  • ปี 1979 เป็น Haiphong Medical Faculty สาขาของ Hanoi Medical University
  • ปี 1999 เป็น Haiphong Medical School ขึ้นกับกระทรวงสาธารณสุข
  • ปี 2006 ยกฐานะเป็น University of Medicine

ผู้บริหารสถาบันแห่งนี้เคยไปที่มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยขอนแก่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เปิดสอนหลักสูตรสาขาแพทยศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ เทคนิคการแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชศาสตร์ รับนักศึกษาปีละหลายร้อย แพทย์มีจำนวนมากที่สุดปีละ 500 คน รับนักศึกษาพยาบาล 100 คนในหลักสูตร official training 4 ปี และ 150 คน ใน in-service training 4 ปี...... มีหลักสูตร M.S. เช่น Internal Medicine, Surgery, OB, Traditional Medicine, Public Health, Infectious Disease มีหลักสูตร Ph.D. ด้าน Public Health และยังมี Residency

หลักสูตร B.Sc in Nursing ยังใหม่มาก สาขาอื่นๆ ก็ยังใหม่ยกเว้นแพทยศาสตร์ ตั้งแต่ปี 2004 มีการส่งคนไปเรียนปริญญาโทที่ประเทศไทย เช่นที่มหาวิทยาลัยมหิดล (เรียนปริญญาโท 10 เดือน ทำ small thesis)  มหาวิทยาลัยบูรพา

มีความเป็นไปได้ที่จะมีการแลกเปลี่ยนนักศึกษาและอาจารย์ระหว่างกัน ที่เขาสนใจมากคือในสาขาพยาบาลศาสตร์ เภสัชศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ ในด้านการแลกเปลี่ยนอาจารย์นั้นอยากจะให้อาจารย์พยาบาลของเราไปสอนหรือ train อาจารย์พยาบาลของเขาในเรื่องวิธีการสอนพยาบาลและ methodology of research เพราะอาจารย์พยาบาลของเขายังใหม่

นอกจากนี้ยังสนใจการทำวิจัยร่วมกัน มีประสบการณ์ในการร่วมมือกับไต้หวัน เกาหลี เคยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในไทยจัด Conference สาขา Clinical Pharmacology

รายละเอียดของการสนับสนุนจะต้องคุยต่อ มีค่าใช้จ่ายให้ แต่ควรมีการทำ MOU ก่อน จะส่งคนไปเยี่ยมมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์และเซ็น MOU กับเรา

เราใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 1 ชม.กว่า ปิดท้ายด้วยการกล่าวขอบคุณและมอบของที่ระลึก

 

ถ่ายภาพร่วมกัน

 

คณะของเราก็ออกเดินทางด้วยรถตู้ของมหาวิทยาลัย Hai Phong มุ่งหน้าไปฮานอย เมื่อถึงโรงแรมที่พักในฮานอยก็พบว่า Ass.Prof.Dr.Nguyen Van Hung ได้ส่ง email ถึงอาจารย์อมราและดิฉันยืนยันว่าสนใจที่จะมีการแลกเปลี่ยนนักศึกษาและอาจารย์ระหว่างกัน และอยากจะพูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการวิจัยร่วมกันในเรื่องที่เกี่ยวกับสมุนไพร (medicinal plants หรือ herbs)

วัลลา ตันตโยทัย

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2556

หมายเลขบันทึก: 554557เขียนเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2013 23:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2013 23:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ข้อมูลน่าสนใจมากเลยคะ

ขอคุณมากคะ

อาจารย์เขียนได้ดีมากค่ะ น่าประทับใจมากๆค่ะ

เวียดนามเก่งขึ้นเรื่อยๆ นะคะอาจารย์ ดีมากๆ เลยค่ะที่เราได้ทำความร่วมมือกับเขานะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท