ผมซื้อหนังสือเล่มนี้...ด้วยภาพหน้าปก...มีหญิงสาวนั่งอ่านหนังสือและเด็กผู้ชายตัวเล็กกำลังร้องไห้บนสะพานไม้...และข้างๆ มีพระจันทร์เสี้ยวในค่ำคืนมืดสลัว...เหนือทะเลที่ทอดยาวไป...
แต่เมื่ออ่านประวัติผู้เขียน...ผมทึ่งในความรักของเธอ...ชีวิตในวัยเรียน...ที่จู่ออกกลางคัน เพื่ออกไปเผชิญในโลกกว้างอและมีความใฝ่ฝันเป็นนักเขียนวรรณกรรมเยาวชน..และก็ได้เป็นจริงๆ...จนตำแหน่งสุดท้ายเป็นบรรณาธิการหนังสือสำหรับเด็ก
และเมื่ออายุ 33 ปี กลับไปใช้ชีวิตนักเขียนอิสระที่บ้านสวน ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีความสุขกับต้นไม้ใบหญ้า เด็กๆ ในหมู่บ้านชนบท และจัดค่ายวรรณกรรมสำหรับเด็ก
ผมได้ค้นพบเรื่องเล่าริมทะเลกับชีวิตเด็กและครอบครัวหลายหลากชีวิตที่แสนเรียบง่าย ธรรมชาติ แต่แสนงดงามที่สุด...เป็นเรื่องราวที่ผูกพันระหว่างผู้เขียนและเด็ก ท่ามกลางวิถีชุมชนริมทะเล
ผมมีน้องสาวเป็นครูประถม...แต่งงานแล้วหลายปี...แต่ยังไม่มีลูก ซึ่งน้องสาวอยากมีลูก...และปรึกษากับผมเสมอๆ ว่า จะทำอย่างไงที่จะไม่มีลูก?
ผมได้คำตอบจากหนังสือเล่มนี้...เมื่อผู้เขียนไปกราบเยี่ยมท่านที่วัด
“อย่าเป็นปมด้อยที่ไม่มีลูก โยมสามารถให้ความรักแก่เด็ก คนไหนก็ได้ทั้งนั้น เด็กๆ ทุกคนเป็นลูกของโยม เมื่อโยมให้ความรักความเมตตาแก่พวกเขา”
ฉัน (ผู้เขียน) มอง “งาน” ที่วางเกลื่อนอยู่บนผืนเสื่อ แล้วพลังของความเป็น “แม่” ก็แสดงอานุภาพที่น่าอัศจรรย์ ฉันเริ่มเขียนคอลัมน์แนะนำหนังสือด้วยความเบิกบานใจ สมองปลอดโปร่งแจ่มใสเช่นเดียวกับท้องฟ้าสีน้ำเงินเจิดจ้า ถ้อยคำหลั่งไหลออกมาสม่ำเสมอราวกับเกลียวคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง....
...อยากให้ทุกท่านได้อ่านจังครับ...สุขสันต์กับการอ่านยามบ่ายวันพุธนะครับ....
...................
เรื่องเล่าริมทะเล
ผู้เขียน : ดวงแก้ว กัลยาณ์
สำนักพิมพ์ : สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย
พิมพ์ครั้งที่ 1 ปีที่พิมพ์ : 2547 จำนวน 103 หน้า
สวัสดีค่ะ คุณทิมดาบ
...พลังของความเป็น “แม่”..... /// สัมผัสได้ แม้ ไม่ใช่ลูก...ขอยืนยันค่ะ