วิจารณ์ภาพยนตร์เรื่อง The Twilight Samurai



ภาพยนตร์        The Twilight Samurai

กำกับโดย         โยจิ ยามาดะ Yoji Yamada

โดย                    เหมือนขวัญ เรณุมาศ

 

           หนังเรื่องนี้ออกฉายในปี 2002 ได้เข้าชิงรางวัลในบ้านเกิดรวม 14 รางวัลและคว้ามาได้ถึง 12 รางวัล รวมไปถึงรางวัลเด่นๆจากสถาบันต่างๆมากมาย นอกจากนี้ยังเป็นตัวแทนของญี่ปุ่นในการเข้าชิงออสการ์ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมอีกด้วย อย่างไรก็ตามในวันนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่ผู้เขียนได้มีโอกาสมานั่งชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ประหนึ่งได้ทำให้ผู้เขียนเองเข้าใจประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นในยุคสมัยนั้นๆได้เป็นอย่างดี

           ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของญี่ปุ่นในช่วงปลายสมัยโทกุงะวะ ตัวละครหลักของเรื่อง คือ เซเบย์ ซึ่งเป็นนักรบซามูไรยากจนคนหนึ่ง ดำเนินชีวิตอยู่อย่างเรียบง่ายท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่เริ่มจะวุ่นวาย การปกครองของญี่ปุ่นในช่วงเวลานี้ จะเป็นลักษณะการปกครองแบบกึ่งรวมอำนาจกึ่งกระจายอำนาจ  เราอาจจะเข้าใจช่วงสมัยนี้ว่าเป็นช่วงของ โทะกุงะวะ ซึ่งมี อิเอะยะซุ เป็นโชกุนปกครองประเทศ  อิเอะยะซุผู้นี้จัดตั้งรัฐบาลทหารขึ้นที่เมืองเอะโดะ และโชกุนตระกูลโทะกุงะวะยังได้นำการปกครองแบบ บะกุฮัน (Baku - han) มาใช้ในการปกครองญี่ปุ่นอีกด้วย[1]   การปกครองของญี่ปุ่นช่วงสมัยนี้จึงเป็นไปอย่างมั่นคงและยาวนาน โดยโชกุนตระกูลโทะกุงะวะ สามารถปกครองญี่ปุ่นได้นานนับตั้งแต่ ค.ศ. 1600-1800 และนับเป็นสมัยที่ญี่ปุ่นมีความมั่งคงทางการเมือง และมีความเจริญทางเศรษฐกิจเป็นอย่างสูง ส่วนหนึ่งแล้ว อันเนื่องมาจาก การที่โชกุนหยิบยกมาตรการ ระบบตัวประกัน มาใช้กับเหล่าไดเมียว ซึ่งตามระบบตัวประกันนี้ ไดเมียวทุกคนจะต้องนำภรรยาและบุตรของตนมาไว้ที่กรุงเอะโดะเพื่อเป็นตัวประกัน หากไดเมียวคนใดคิดคดทรยศต่อโชกุน ภรรยาและบุตรของไดเมียวคนนั้นจะถูกประหารชีวิตก่อน และรวมทั้งการใช้วิธีการทางเศรษฐกิจ กล่าวคือ ตามระบบตัวประกันให้ไดเมียวมีภาระทางเศรษฐกิจสูง ทั้งรายจ่ายภายในแคว้นของตน และรายจ่ายในงานสาธารณะตามคำสั่งของโชกุน ทำให้ไดเมียวไม่มีกำลังทางเศรษฐกิจที่จะซ่องสุมอาวุธและกำลังคนที่จะต่อต้านโชกุนได้

 

 

 

 

          นอกไปจากนั้น จากเนื้อเรื่องของภาพยนตร์ตามที่สะท้อนออกมาให้เหล่าคนดูได้ชม คือ การให้ความสำคัญกับลัทธิขงจื๊อ ญี่ปุ่นในช่วงสมัยนี้มีการนำลัทธิขงจื๊อใหม่มาปรับใช้   เพื่อสร้างความจงรักภัคดีต่อโชกุน อย่างเช่น การกระทำของเซเบย์ พระเอกของเรื่อง ซึ่งบทบาทของเขาที่ปรากฏอยู่ในเรื่องนั้น พระเอกเลือกที่จะเป็นคนที่ไม่ทะเยอทะยานในหน้าที่และความก้าวหน้าในชีวิต ถึงแม้ว่าจะมีฝีมือดาบที่ยอดเยี่ยมก็ตาม แต่ครั้นเมื่อถึงเวลาที่ต้องรับผิดชอบ โดยได้รับคำสั่งจากผู้ปกครองแคว้น ให้ไปฆ่า ชินเดมอน ผู้เป็นยอมฝีมือคนหนึ่ง  เขาก็มิอาจปฏิเสธคำสั่งนั้นได้ ด้วยเพราะหน้าที่ของซามูไรคือต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้เป็นหัวหน้า และ ด้วยความซื่อสัตย์ภัคดีที่เหล่าซามูไรทุกคนต้องยึดติดตามลัทธิขงจื๊อ จึงต้องรับหน้าที่อันหนักอึ้งนี้ไป แต่อย่างไรก็ดี ท้ายที่สุดแล้วนั้น เซเบย์ก็ทำมันสำเร็จและได้รับผลตอบแทนด้วยการได้อยู่กับคนที่เขารัก และเธอก็รักเขา

          ลัทธิขงจื๊อในหมู่เกาะญี่ปุ่นนั้นเริ่มเข้ามาเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 6 คำสอนตามขงจื๊อส่วนใหญ่แล้วจะสอดแทรกเรื่องการเมืองไว้มาก เช่น คำสอนที่ว่า ผู้ปกครองต้องปกครองด้วยความยุติธรรม ข้าราชการต้องบริหารด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ประชาชนต้องจงรักภัคดีต่อจักรพรรดิ เป็นต้น ในช่วงของคริสต์ศตวรรษที่ 17 ญี่ปุ่นมีการนำลัทธิขงจื๊อใหม่เข้ามาใช้ในการปกครองของ โทกุงะวะ ลัทธิขงจื๊อใหม่เข้ามามีอิทธิพลต่อคนญี่ปุ่นสูงมาก โดยเฉพาะในกลุ่มของนักรบในสมัยนี้ ทำให้นักรบกลายเป็น นักรบ นักการศึกษา นักปราชญ์ และนักปกครอง ลัทธิขงจื๊อยังต้องเป็นวิชาหนึ่งที่นักรบจะต้องศึกษา อย่างที่ เซเบย์และเพื่อนๆของเขาต้องไปเล่าเรียนทุกวัน หลังจากศึกษาขงจื๊อเสร็จ เหล่าเพื่อนๆนักรบของเซเบย์ก็พากันแยกย้ายไปเที่ยวตามแหล่ง เกอิซา ส่วนพระเอกเซเบย์นั้น ผู้มีหน้าที่หลักๆ อยู่สามอย่างไม่เคยเปลี่ยนแปลง อันได้แก่ หลังจากการทำหน้าที่เป็นนักรบ นักศึกษาเสร็จแล้ว ก็ทำหน้าที่เป็นพ่อที่ดีแก่ลูกสาวทั้งสอง และทำหน้าที่เป็นลูกชายที่ดีดูแลแม่ที่ความจำเสื่อม ชีวิตในเรื่องของเซเบย์ดำเนินไปอย่างนี้เรื่อยๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆมากนัก ซ้ำซาก จำเจ จนเขาได้รับฉายาประจำตัวว่า สายัณห์ และเป็นที่ล้อเลียนของกลุ่มเพื่อนๆอยู่เสมอ แต่กระนั้นก็ดี ด้วยอุปนิสัยใจคอของคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่แล้ว จะมีความอดทน ต่อสู้ และไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค คุณเซเบย์ จึงไม่เคยน้อยอกน้อยใจในโชคชะตาของตัวเองเลยแม้แต่น้อย มีแต่จะฝ่าฟันความยากลำบากนั่น และก้าวต่อไปด้วยความหวังในการเฝ้ามองดูลูกสาวเติบโตทุกๆวัน

 

 

         ฉากหนึ่งที่ผู้เขียนรู้สึกสงสาร นักรบเซเบย์เป็นอย่างมาก คือฉากที่ โดนไดเมียวของแคว้นต่อว่า เมื่อเห็นว่า เซเบย์เนื้อตัวสกปรก ไม่อาบน้ำ มิหนำซ้ำยังกล้าดีมายืนต้อนรับท่านไดเมียวด้วยกลิ่นตัวที่เหม็นโชยไปทั่ว จึงได้ถูกตำหนิอย่างหนัก ซึ่งทั้งนี้ถือเป็นฉากที่เรียกคะแนนสงสารจากคนดูได้เป็นอย่างดี แต่ภายใต้ความสงสารนี้ หนังก็ยังทำหน้าที่สะท้อนภาพของจริยธรรมของเหล่านักรบให้เราได้ทราบอีกด้วย กล่าวคือ คุณธรรมที่เหล่านักรบทุกคนต้องปฏิบัตินั้น นอกจากจะต้องเป็นผู้ที่กล้าหาญ เสียสละ จงรักภัคดีด้วยแล้ว นักรบทุกคน ต้องเป็นผู้ที่รักษาความสะอาด ซึ่งเป็นการกระทำที่สำคัญตามความเชื่อดั้งเดิมของญี่ปุ่น โดยมีคำสอนหนึ่งระบุไว้ว่า

 

“ต้องอาบน้ำทุกเช้า แม้จะหนาว ต้องโกนหนวด สระผม และทำความสะอาดแก่เล็บมือ

ซามูไรจะต้องระวังร่างกายของตนให้สะอาดเหมือนระวังอาวุธมิให้เกิดสนิม” 

 

           ฉะนั้นแล้ว เมื่อครั้นที่เซเบย์ต้องออกไปปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมาย จึงได้สั่งให้บริวาลของตนไปตาม ทึไมเอะ หญิงที่เซเบย์หลงรัก ให้มาแต่งผม จัดเสื้อผ้า และโกนหนวดให้ดูสมเกียรติก่อนออกปฏิบัติงาน

          ในขณะที่หนังก็ฉายภาพการดำเนินชีวิตประจำของเซเบย์ และครอบครัวไปเรื่อยๆนั้น ทุกๆตอนที่มี ฉากของแม่ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคความจำเสื่อม บทบาทหนึ่งของแม่คือ บ่อยครั้งแม่มักจะจำลูกชายของตนเองไม่ได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เซเบย์ กล่าวว่า “กลับมาแล้วน่ะครับแม่ ….  แม่จะตอบว่า ท่านเป็นใครกันคะ มาจากตระกูลไหน”  แม้กระทั่งคำพูดเล็กๆ เช่นนี้ ภาพยนตร์ก็ทำให้เราสามารถตีความ ความหมายถึงสังคมญี่ปุ่นได้อย่างดี โดยการที่แม่ถามเช่นนั้น และเซเบย์ก็ตอบไปว่ามาจากตระกูล นั้นๆ ตามด้วยชื่อของตน นี้ เป็นเพราะการที่สังคมญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับกลุ่ม หรือคนภายในชุมชน ซึ่งชาวญี่ปุ่นนั้นจะแสดงออกถึงความผูกพันกับกลุ่มและให้ความสำคัญกับกลุ่มมากกว่าตัวเอง การแนะนำตัวของคนญี่ปุ่นจึงเริ่มจากการแจ้งชื่อ ตระกูล และเจ้านายที่ตนสังกัดอยู่ ตามด้วยชื่อของตัวเองเป็นลำดับ ฯลฯ

          เมื่อใกล้ถึงตอนจบของหนัง เซเบย์ประสบกับเรื่องโชคร้ายมามาก จนได้มาใช้ชีวิตอย่างสงบๆในช่วงบั้นท้ายของชีวิต ในขณะที่ ช่วงเวลานั้น สภาพการเมืองของญี่ปุ่นก็ได้เปลี่ยนแปลงไปหลายๆอย่าง เกิดการปฏิรูปเมจิขึ้นในปี ค.ศ. 1868 กลุ่มผู้นำเมจิซึ่งล้มล้างรัฐบาลโชกุนได้ถวายพระราชอำนาจการปกครองคืนให้กับจักรพรรดิ ซึ่งอำนาจต่างๆที่โชกุนและเหล่าซามูไรเคยได้รับก็ล้มเลิกไป สังเกตได้จากในตอนท้ายของเรื่องนั้น มีเสียงของลูกสาวเซเบย์พูดขึ้น โดยกล่าวถึงความดีของพ่อ ความอบอุ่นและความรักที่มีต่อพ่อ ตลอดจนมีการกล่าวว่า เซเบย์ได้อำลาจากโลกนี้ไปแล้ว เนื่องจากถูกยิงจนเสียชีวิต ซึ่งเป็นความหมายที่บ่งบอกถึง การสิ้นสุดยุคอำนาจของโชกุนและนักรบนั่นเอง  

          จุดมุ่งหมายที่สำคัญของการปฏิรูปเมจิ  คือ สร้างญี่ปุ่นให้มีความแข็งแกร่ง มั่งคั่ง และทันสมัย ในช่วงสมัยนี้ หลายสิ่งหลายอย่างที่มาจากโลกตะวันตกก็เริ่มหลั่งไหลเข้ามามากขึ้นด้วย มีการเปลี่ยนระบบการปกครองใหม่ โดยจัดให้มีรัฐสภาซึ่งมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด และมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจากประชาชน และมีการสนับสนุน ด้านการศึกษาเป็นอย่างสูง โดยเฉพาะ การศึกษาจากตะวันตก  มีการสั่งยกเลิกระบบการแบ่งชนชั้นออกเป็น 4 ชนชั้น ให้อิสระแก่ประชาชนในการเลือกอาชีพ ที่อยู่อาศัย และการศึกษา ยกเลิกอภิสิทธิ์ของชนชั้นซามูไรในทุกๆเรื่อง นอกไปจากนั้น การปฏิรูปเมจิ ยังก่อให้เกิดความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก เน้นความสำคัญกับเศรษฐกิจอุตสาหกรรมเป็นพิเศษ  เศรษฐกิจในช่วงเวลานี้จึงมีความรุ่งเรืองอย่างมาก.

          สุดท้ายนี้ ผู้เขียนต้องขอชื่นชม  ภาพยนตร์ เรื่อง The Twilight Samurai อย่างยิ่งที่ให้องค์ความรู้ ความบันเทิงที่ดีกับเรา ภาพยนตร์ที่เน้นความเรียบง่าย ไม่รุนแรง อาจจะดูน่าเบื่อสำหรับผู้ชมบางคน แต่ถึงอย่างไรแล้ว ผู้เขียนคิดว่าการที่ภาพยนตร์เล่นไปแบบเรื่อยๆ ซ้ำซาก ช้าๆ มันเป็นข้อดีอย่างหนึ่งสำหรับการชมภาพยนตร์ เพราะเป็นการให้รายละเอียดของเนื้อเรื่องดูชัดเจนและเด่นชัดมากขึ้น .

 

[1] บะกุ Baku หมายถึง รัฐบาลของโชกุน ฮัน han หมายถึงแคว้นของไดเมียว การปกครองในลักษณะนี้เป็นการปกครองที่มีรัฐบาลโชกุนเป็นรัฐบาลกลางและมีรัฐบาลของไดเมียวเป็นรัฐบาลท้องถิ่น รัฐบาลท้องถิ่นจะมีอำนาจอิสระในการจัดการบริหารงานภายในท้องถิ่นของตน และมีเศรษฐกิจแบบเลี้ยงตัวเองภายในท้องถิ่น แต่รัฐบาลของไดเมียวจะต้องยอมรับการเป็นผู้นำของรัฐบาลโชกุน และยอมรับนโยบาย ตลอดจนคำสั่งต่างๆของโชกุนอีกด้วย

 

หมายเลขบันทึก: 553940เขียนเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2013 01:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2013 01:49 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท