วันเสาร์ที่ผ่านได้รับโทรศัพท์ เบอร์ที่ไม่คุ้น แต่ก็ไม่แปลกใจเลยเพราะว่ามือถือที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
เป็นเบอร์ทั้งส่วนตัวและเบอร์ในการทำงาน เบอร์นี้คนติดต่อได้ทั้งประเทศ
เสียงที่ทักทายมาเป็นเสียงผู้หญิง พูดเพราะมาก น้องอยู่ที่สำนักงานไหม
"ไม่ค่ะ น้องอยู่ที่โบสถ์ กำลังซ่อมแซมโบสถ์ ดูช่างทาสีอยู่คะ " ปลายสายเงียบไปสักพัก
ตัดสินใจถามกลับ คิดว่าต้องมีเรื่องเกี่ยวกับงานหรือรายงานโรคติดต่อ
"จะรายงานโรคติดต่อหรือแจ้งเรื่องอะไรคะ มีอะไรให้รับใช้ หรือจะปรึกษาอะไรคะ"
เสียงที่ตอบเหมือนกับเกรงใจ ชี้แจงที่ไปที่มาของการโทรหาบอกว่าได้เบอร์น้องมาจากแฟนเขา
"ตอนนี้พี่มีปัญหาว่าพี่เอกหายไป ไม่กลับบ้านมาหลายเดือน ตอนนี้น้องยังติดต่ออยู่กับพี่เอกไหม
พี่เอกอยู่กับน้องไหม ติดต่อกันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ " คำถามมาเป็นชุด
แต่เป็นเสียงที่นุ่มนวล และเกรงใจที่จะถามมาก ๆ และเธอได้อธิบายเหตุผลที่ไปที่มา
ทำไมได้มาถามหาพี่เอก กับน้องสาว พี่สะใภ้คงจะคิดว่าน้องสาวคงจะรู้ว่าพี่เอกไปไหน
บอกตามตรงว่าน้องไม่ทราบจริงๆ ว่าพี่เอกไปไหน ไม่ได้ติดต่อและคุยกับพี่เอกนานแล้ว
ครั้งสุดท้ายที่คุยกันตั้งแต่ปลายเมษายน ต้นพฤษภาคม 56
บอกพี่ดาไป น้องแต่งงานแล้ว มีสามี มีลูกสาว และเรายังอยู่ด้วยกันมีครอบครัวที่อบอุ่น
เป็นไปไม่ได้ที่พี่เอกจะมาอยู่กับน้อง น้องไม่ได้ติดต่อกับพี่เขานานแล้ว ตั้งแต่พี่เอกบอกว่าพี่มีแฟนนะ
มีคนดูแลพี่แล้ว น้องสาวไม่ต้องเป็นห่วง
แล้วปลายสายยังไม่ยอมวางสาย เล่าเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับพี่เอกให้ฟัง
พร้อมกับขอคำแนะนำว่า พี่ดาจะทำอย่างไร
มีคนแนะนำให้ พี่ดาแจ้งความ พี่อยากได้ของของพี่คืน
ศิราณีจำเป็น ได้แต่ถามกลับคืน ใจเย็นพี่ดา ของพี่ที่พี่เอาไปมีอะไรบ้าง มีโทรศัพท์ รถมอเตอร์ไซด์
คำแนะนำที่ให้พี่ดาไป ในเมื่อพี่ซื้อของให้พี่เอกใช้ พี่ดาอยากได้คืน
ถ้าพี่คิดว่าพี่ตามหาพี่เอกเจอ แล้วพี่จะทวงของคืน ของที่ซื้อให้เขาไปแล้ว มันก็เป็นสิทธิ์ของพี่เอก
พี่ดาจะแจ้งความ แล้วพี่ดาจะได้อะไรกลับคืนมา แล้วสิ่งที่พี่ให้ไป เสียไป มันคุ้มกับชื่อเสียง และความรู้สึกที่พี่ดาจะได้รับหรือไม่ หลังจากที่พี่ตกเป็นข่าว และพี่ต้องเทียวไปมาที่สถานีตำรวจ หรือที่ศาลเพื่อให้การ
คุ้มไหมกับความรู้สึกดี ๆ ที่คนๆหนึ่งเคยมีให้กัน ได้แต่บอกไปว่า ถ้าเป็นไก่ ให้แล้วให้เลย อโหสิกรรมกันไป
เมื่อเขาหายไปไม่กลับมาหาเราไปมีคนอื่น เขาไปทำอะไรกับผู้หญิงคนอื่นอีก ก็ช่างเขา เราลูกผู้หญิงยังมีศักดิ์ศรีพอ เราสามารถดูแลตัวเองได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องมีพี่เอกมาอยู่ด้วย พี่ดามีโอกาสที่จะเลือกคนที่ดีกว่าอีก
ไม่เคยคิดว่า คนที่เรารู้จัก จะเป็นแบบที่พี่ดาเล่า ฟังไว้ก่อนและให้คำแนะนำไปตามที่คิดว่าไม่ควรที่จะก่อเวรก่อกรรม อภัยได้ก็ควรอภัย ในเมื่อเขาไม่อยากอยู่กับเราแล้วก็ปล่อยเขาไป
สรุปสุดท้าย พี่ดา บอกว่า พี่เชื่อคำแนะนำของน้องไก่ คะ จนป่านนี้ยังไม่ได้รับโทรศัพท์อีกว่าตามหาพี่เอกเจอไหม
เช้านี้ก็ยังไม่ได้รับข่าวคราวของพี่ทั้งสอง ว่าจะเป็นอย่างไร
จป.เอก กับพี่ดา
เป็นเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่จะเป็นบทเรียนของชีวิตคู่
เป็นหลายอย่างนะครับพี่
ทำงานดูแลสุขภาพบ้างนะครับ
สู้ๆๆครับ
สวัสดีคะ อ.ขจิต พี่สบายดี คะ
เหนื่อนิดหน่อย ขอบคุณมากคะ พี่จะดูแลสุขภาพอย่างดีคะ
ขอบคุณมากคะที่ติดตามให้ดอกไม้กำลังใจ วันก่อนได้รับดทรศัพท์ขอบคุณจากพี่ดา บอกว่าขอบคุณมากที่ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ตอนนี้พี่กำลังพยายามทำใจ ลดความฟุ้งซ่านและอีกไม่นานจิตใจจะสงบได้