ดิฉันนางสาวพรประพิมพ์ โปธา นักศึกษากิจกรรมบำบัด ชั้นปีที่3
ได้มีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับ Recovery model ซึ่งเป็นโมเดลที่มีเป้าหมายคือ
การมองคนแบบองค์รวม(Holistic view) การเปิดโอกาศให้คนคนหนึ่งได้แก้ปัญหาในวิถีทางของเขาเอง ได้มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆอย่างเต็มที่ ได้ลองพัฒนาความภูมิใจและตั้งเป้าหมายในชีวิตให้กับตนเอง
รวมถึง...ได้มีโอกาสทำผิดพลาดและเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น
โมเดลข้างต้น สอนให้ฉัน
การได้เรียนรู้โมเดลข้างต้นนี้ ทำให้ดิฉันได้มุมมองในการมองคนใหม่ๆ ได้ลองปรับทัศนคติของตัวเอง ยืดหยุ่นกับคนหลายๆแบบมากขึ้น
ทำให้ดิฉันได้นึกย้อนถึงหนังสือเล่มหนึ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่ตอน ปีใหม่เมื่อ2ปีที่แล้ว จนทุกวันนี้ในบางครั้ง ที่ดิฉันหาทางออกไม่เจอหรือสับสนวุ่นวายใจ ดิฉันก็มักจะหยิบมันขึ้นมาอ่านเสมอ
นั้นก็คือ หนังสือ "ชีวิต ทำให้ง่าย ก็สุขได้ ไม่ยาก"
ในหัวข้อ "ในเรามีเขา ในเขามีเรา"
จากทุกสิ่งทุกอย่างข้างต้น ดิฉันจึงคิดได้ว่า..
การปรับทัศนคติ ปรับมุมมอง เพื่อมองผู้อื่นในแง่ดี การให้โอกาสผู้อื่น การรับผิดชอบต่อความรู้สึกของผู้อื่น เป็นสิ่งสำคัญมากในการดำเนินชีวิตและการอยู่ร่วมกับผู้อื่นให้มีความสุข รวมถึงการทำงานกับผู้อื่น โดยเฉพาะสาขาวิชาชีพที่ให้การบริการทางการแพทย์ ที่จำเป็นอย่างมากในการทำความเข้าใจกับผู้ป่วย เพื่อให้เขามีความสุขถึงแม้จะมีพยาธิสภาพก็ตาม
เพราะทุกคน ล้วนแล้วแต่อยากจะมีความสุขกันทั้งนั้น....คุณผู้อ่านก็คงจะคิดเหมือนกับดิฉันหรือเปล่าค่ะ (:
ขอบคุณนะคะสำหรับข้อคิดดีๆ โดยเฉพาะในหัวข้อ ในเขามีเรา
...ความสุขของแต่ละคนมีมาตรฐานที่แตกต่างกันแม้แต่คนในครอบครัวเดียวกัน ...ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความต้องการ...ความพึงพอใจ...สภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกส่วนบุคคลนะคะ...
น่าปลื้มใจแทน อ. อ้อมนะคะ…. ความง่วงไม่ได้เป็นตัวชี้วัดเด็กๆจริงๆ.:p
ขอบคุณทุกๆคนคิดเห็นค่ะ ((: