เอดส์ระยะสุดท้าย (ตอนที่3)


ความเดิม ตอนที่แล้ว...ชายวัยรุ่นอายุ 24 ปี มานอน รพ.ด้วยอาการท้องเสีย เพลีย ไม่มีแรง ร่างกายผอมซูบ เธอดีใจที่ได้เจอพี่เลี้ยง และพร้อมที่จะต่อสู้เพียงเพื่อให้มีชีวิตรอดช่วยเหลือตัวเองได้ ก็พอแล้ว...

เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (9 พ.ย.56 ้วลา 18.30 น.)ได้เข้าไปเยี่ยมคนไข้ของเรา พร้อมน้ำเต้าหู้เม็ดแมงลัีก 1 ถุง (ไม่รู้ว่าเธอชอบกินอะไร)..พอเดินถึงหน้าห้องแยก ก็ถูกแซว โดยญาติของคนไข้เตียงที่อยู่หน้าห้องแยกว่า " หมอมาเยี่ยมญาติเหรอ"  เราก็ยิ้มให้ด้วยความจริงใจ..พอเปิดประตูเข้าไปในห้องแยก  พบวัยรุ่นชาย  ตัวผอม ผมยาว หนวดเครารุงรัง นอนตะแคงซ้าย สวมเสื้อรพ.ปิดร่างกายด้านบนเรียบร้อย  สวมแพมเพอร์ส...สภาพดูอิดโรย...เดินเข้าไปใกล้เตียง เธอก็ลืมตาดูเราพร้อมกับรอยยิ้มแห้งๆๆพร้อมกับยกมือไหว้เรา“สวัสดีครับพี่เข็ม” เราก็ชวนคุยสารทุกข์สุกดิบ“เป็นไงบ้างวันนี้ กิน อิ่มนอนหลับมั๊ย พี่ไม่รู้ว่าเราชอบกินอะไร เลยได้มาแต่น้ำเต้าหู้” เราถามด้วยความเป็นห่วง  เธอก็รีบตอบด้วยความเกรงใจว่า “ครับ ไม่เป็นไรครับ ชอบกินน้ำเต้าหู้  น้ำเต้าหู้อย่างเดียวก็พอแล้วครับ เกรงใจกินข้าวได้ตั้งเยอะ แต่ปวดหัวมาก กินยาแล้วก็ไม่หาย  แต่ตอนนี้ ดีขึ้นแล้ว”เราก็ชวนคุยไปเรื่อยๆ จนจับประเด็นได้ว่า “ที่ปวดหัวเพราะอะไรล่ะ  นอนไม่หลับหรือ”....เธอนิ่งไป น้ำตาคลอเบ้า  ... มีเรื่องอะไรทีอยากบอก  อยากเล่าให้ฟังบ้าง  เผื่ออาการปวดหัวจะดีขึ้น...เธอพูดทั้งน้ำตาว่า“ผมเป็นคนไม่ดีเลย  ทำตัวเป็นภาระคนอื่น  ผมเสียใจ  ผมทำตัวเองให้เป็นภาระกับคนอื่นตลอด  หาเรื่องใส่ตัวเองทั้งนั้น เป็นภาระกับทุกๆคน ไม่มีใครมาสนใจใยดีเลย ทำอะไรก็ไม่ได้ ฯ ” เราดูแล้วท่าทางจะไปไกล..ดึงกลับมาอยู่นะปัจจุบัน...เสริมแรงว่า“ตอนนี้เราไม่สบาย เราก็ต้องยอมรับ เดี๋ยวเราหายดีช่วยเหลือตัวเองได้ ค่อยไปช่วยเค้า เป็นการตอบแทน อย่าพึ่งท้อ ตอนนี้เราดีขึ้นกว่าวันก่อน ตั้ง เยอะ  กินข้าวเองได้ เข้าห้องน้ำ อาบน้ำ เอง ทำกิจวัตรประจำวันเองได้แล้ว เดี๋ยวก็ดีขึ้นเรื่อยๆ และเราจะกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม  และก็จะไม่เป็นภาระของใคร แต่เราต้องสู้นะ  ต้องกินยา กินข้าว และนอนพัก”  สักพักเธอก็มีรอยยิ้ม (อย่างมีความหวัง) เราก็ชวนคุยต่อ  “เราชอบอ่านหนังสือหรือเปล่า ” เธอก็รีบบอก “ชอบครับ ชอบอ่านหนังสือประวัติศาสตร์  หนังสือ ดารา ไม่ค่อยชอบอีกอย่าง ไม่ชอบดูละครโทรทัศน์”...อืม...เดี๋ยวพรุ่งนี้จะหาหนังสือมาให้อ่านนะจะได้ ไม่เหงา...อาการปวดหัวดีขึ้นบ้างยัง เธอก้บอกว่า หายแล้วครับ..ถ้าอย่างนั้น คืนนี้ก็นอนหลับฝันดีนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ มาเยี่ยมใหม่..."ครับ  ผมจะนอนหลับฝันดีขอบคุณครับ"

...หลังจากนั้น เราก็เดินออกจากห้องแยกออกมา  โดยสายตาคู่นั้นยังมองตามเราจนปิดประตู...

..จากการเยี่ยมไข้วันนี้  ดูเธอซึมเศร้า กว่าวันที่เราเจอกัน  แต่เธอก็ยิ้มสู้เพื่อวันหนึ่งเธอจะดีขึ้นกว่าวันนี้  สิ่งที่พูดคุยกันเธอน้อยใจตัวเองที่ต้องเป็นภาระกับคนอื่น ( ไม่รู้ว่ามีใครมาพูดเรื่องอะไรใ้ห้เธอฟังหรือเปล่า)..ทั้งวันทั้งคืนเธออยู่คนเดียว  ไม่มีเพื่อนคุย  ไม่มีโทรศัพท์  และที่สำคัญเธอไม่มีญาติมาเยี่ยม  ...เธอพูดตลอดเวลาประโยคนี้..ชวนคุยเสริมสร้างแรงใจ  ให้กำลังใจ และเบี่ยงเบนความสนใจในเรื่องอื่น...

..โปรดติดตามชีวิตเด็กวัยรุ่นคนนี้ตอนต่อไป  ว่าอาการจะเป็นอย่างไรบ้าง จุดจบระหว่างเราจะอยู่ตรงไหน  อาจจะเป็นเรื่องเล่านิยายชีวิตที่เป็นอีกมุมของวัยรุ่นคนหนึ่ง...

 

 

หมายเลขบันทึก: 553018เขียนเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2013 22:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2013 22:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

...การป้องกันคนไม่ให้ติดเชื้อเอดส์...มีความสำคัญมากนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท