ภาพที่ 1: หลอดไฟรุ่นใหม่ ทำจากหลอดประหยัดไฟ LED ปรับสีได้หลายรูปแบบ
ถ้าสังเกตไฟในสนามบินดอนเมือง จะเห็นมีการใช้หลอดไฟสีขาวกับเหลืองมาติดตั้งไว้ใกล้ๆ กัน เพื่อให้ได้แสงรวมที่ดูคล้ายแสงแดดตอนเช้า (ค่อนไปทางเหลือง-แดง)
แสงโทนสีเหลือง-แดง ทำให้คนเราไม่ค่อยรู้สึกเหงาๆ เศร้าๆ
ไม่เหมือนแสงโทนสีฟ้า ซึ่งอาจทำให้คนบางคนรู้สึกเหงาๆ เศร้าๆ ได้
.
ภาพที่ 2: หลอดตะเกียบประหยัดพลังงานสีต่างๆ (ถ้าหาซื้อไม่ได้, อาจใช้แผ่นกรองแสงสีต่างๆ ช่วยปรับแสงได้)
.
ภาพที่ 3: แม่สีแสงที่ช่างอีเล็คโทรนิคส์รู้จักดี คือ 'RBG' = red, blue, green = แดง ฟ้า เขียว
.
แม่สีแสง 3 สี รวมกันเป็นสีขาว, ถ้าไม่มีแม่สีแสงเลย จะเห็นเป็นสีดำมืด
.
ภาพที่ 4: แม่สีแสง คือ 'RBG' = red, blue, green = แดง ฟ้า เขียว
.
ถ้านำแสง 2 สีมารวมกัน จะได้สีใหม่ดังนี้
.
ถ้าลองไล่สีรุ้งกินน้ำทั้ง 7 จากแสงแดดสีขาว จะพบว่า สีรุ้งกินน้ำไล่ไปได้แบบ "ทวนเข็มนาฬิกา" จาก "ม่วง_คราม_น้ำเงิน_เขียว_เหลือง_แสด_แดง"
สีที่อยู่ชายขอบรุ้งกินน้ำด้านหนึ่งคือ "ม่วง_คราม_น้ำเงิน" ซึ่งคนส่วนใหญ่จะเห็นรวมๆ เป็น "สีฟ้า"
อีกด้านหนึ่งคือ "สีแดง"
.
เดลีเมล์ (เมล์ออนไลน์) ตีพิมพ์เรื่อง "แสงไฟสีอะไร____ ช่วยลดความอ้วน", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่า การได้รับ "แสงเทียม (artificial light)" หรือแสงไฟมาก โดยเฉพาะตอนกลางคืน อาจเพิ่มเสี่ยงโรคร้ายหลายอย่าง
.
เช่น น้ำหนักเกิน โรคอ้วน ซึมเศร้า ฯลฯ
คณะกรรมการวิทยาศาสตร์ยุโรป (European Commission) รายงานว่า แสงไฟกลางคืน อาจเพิ่มเสี่ยงมะเร็งเต้านม รบกวนการนอน รบกวนระบบทางเดินอาหาร อารมณ์ หรือเพิ่มเสี่ยงโรคหัวใจ-ระบบไหลเวียนเลือดได้
.
การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารนิวโรซายส์ (Neuroscience) ทำการศึกษาในหนูทดลองพบว่า
.
การศึกษาอีกรายงานหนึ่ง ทำในกลุ่มตัวอย่างผู้ชายมากกว่า 2,000 คนที่ทำงานเวรดึก หรือกะดึก (nightshift workers) พบว่า การไ้ด้รับแสงจ้าตอนกลางคืน อาจเพิ่มเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก
.
การศึกษาในกลุ่มตัวอย่างผู้หญิงที่ทำงานเวรดึก หรือกะดึก พบว่า การได้รับแสงจ้าตอนกลางคืน อาจเพิ่มเสี่ยงมะเร็งเต้านม 60%
ศ.ริเชิร์ด สตีเฟนส์ จากมหาวิทยาลัยคอนเนคทิคัท สหรัฐฯ กล่าวว่า
.
คนเรามีนาฬิกาชีวิต หรือนาฬิกาชีววิทยาแบบ 24 ชั่วโมง (circadian rhythm)
ทำให้คนเรามีช่วงตื่น-หลับ, มีฮอร์โมนที่สอดคล้องกับกลางวัน-กลางคืนมานานแล้ว
.
การได้รับแสงจ้ากลางคืน อาจไปรบกวนการเผาผลาญแป้ง น้ำตาล ไขมัน
เพิ่มเสี่ยงน้ำหนักเกิน อ้วน เบาหวาน
.
หรือไปทำให้ความดันเลือดตีรวน รบกวนภูมิต้านทานโรค ไปจนถึงเพิ่มเสี่ยงมะเร็ง
แถมยังอาจรบกวนการทำงานของระบบหัวใจ-หลอดเลือด เพิ่มเสี่ยงซึมเศร้า
.
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ระวังแสงไฟจากจอคอมพิวเตอร์ และหลอดไฟนีออน (ฟลูออเรสเซนต์)
เนื่องจากมีสัดส่วนแสงสีฟ้า (blue / B) ค่อนข้างมาก
.
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ปรับการใช้ไฟเพื่อสุขภาพดังนี้
(1). ไม่เปิดไฟจ้ากลางคืน
(2). ถ้าใช้คอมพิวเตอร์ตอนกลางคืน ให้ปรับแสงดังนี้
(3). เลือกไฟหลอดตะเกียบสีเหลือง หรือสีแดง (กลางคืน)
(4). "ลด-ละ-เลิก" หรือหรี่ไฟก่อนนอน อย่างน้อย 30 นาที = 1/2 ชั่วโมง
(5). รับแสงแดดอ่อนตอนเช้าทุึกวันเป็นประจำ (หน่วยความสว่าง = lux / ลักส์)
ร่างกายคนเราต้องการแสงจ้าระดับ 1,000-2,000 ลักส์ตอนเช้า เพื่อปรับนาฬิกาชีวิตให้ "ตรงเวลา (reset)" และไม่ตีรวน
.
แสงไฟในห้องทำงาน หรือบ้านที่ค่อนข้างสว่้าง = 200-300 ลักส์
= ไม่พอที่จะใช้ปรับนาฬิกาชีวิตให้ "ตรงเวลา (reset)"
.
แสงไฟกลางแจ้ง แม้แต่ในวันที่ฟ้าหลัว (เมฆกระจาย บังแสง) จะอยู่ในช่วงประมาณ = 10,000 ลักส์
= ดีพอที่จะใช้ปรับนาฬิกาชีวิตให้ตรงเวลาได้
.
อ.เดบรา สคีน กล่าวว่า คนสูงอายุ (สูงวัย) เพิ่มเสี่ยงนาฬิกาชีวิตตีรวนมากกว่าคนวัยอื่นๆ
เคล็ดไม่ลับ คือ ให้ออกไปรับแสงแดดอ่อน นอกบ้าน 3-5 ครั้ง/วัน จะได้ผลดีที่สุด
.
ถ้าเราทำให้นาฬิกาชีวิต "ตรงเวลา" ได้
กลางวันจะเป็นกลางวัน ลดง่วงเหงา เศร้าซึม เซง เครียด
.
กลางคืนจะเป็นกลางคืน นอนหลับดี ลดเสี่ยงหลับๆ ตื่นๆ
ที่สำคัีญ คือ ทำให้ไม่หิวผิดเวล่ำเวลา หรือหิวมากแบบเบรคไม่อยู่
.
ช่วยเสริมโปรแกรมลดความอ้วนได้ดีในระยะยาว
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีุสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
.
Thank Mail Online / Dailymail > http://www.dailymail.co.uk/health/article-2470513/Lights-effect-sleep-suggested-new-research.html
ไม่มีความเห็น