อะไรคือการ "สกัดความรู้ และถอดบทเรียน เพื่อความยั่งยืนขององค์กร"


ดีใจที่ได้รับโอกาสดี ๆ ให้เข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ “สกัดความรู้ และถอดบทเรียน เพื่อความยั่งยืนขององค์กร” @ผึ้งหวานรีสอร์ท แอนด์ สปา จ.กาญจนบุรี 

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 56 – 1 พฤศจิกายน 56  

ซึ่งทำให้ได้พบกับวิทยากร รศ. นพ.จิตเจริญ ไชยาคำ อาจารย์หมอที่น่ารัก อาจารย์มีวิธีการอบรมที่ดี สนุกมาก ไม่น่าเบื่อเลยสักนิด ไม่เครียด และขอสารภาพว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เป็นนักเรียนแถวหน้าด้วยความบังเอิญ เนื่องจากข้างหลังที่นั่งเต็มแล้วค่ะ ^_^ แต่ครั้งหน้าหากมีโอกาสได้เข้ารับการอบรมกับอาจารย์หมออีกจะเลือกนั่งแถวหน้าก่อนเลยนะคะ

การอบรมครั้งนี้มีการยืดหยุ่น มีเวลาให้พักผ่อนด้วยการพาไปเที่ยวสถานที่ใกล้ ๆ

@สะพานข้ามแม่น้ำแคว แค่นี้ก็รู้สึกดี ๆ เกินความคาดหมายแล้วค่ะ

การอบรมครั้งนี้ ได้อะไรมากกว่าที่คิดไว้อย่างมาก เนื่องทว่าก่อนหน้าที่จะเข้าร่วมการอบรมนั้น..

ได้รับ BAR โจทย์ภาษาเทพ ที่ปรึกษากับพี่ที่รับผิดชอบงานพัฒนาคุณภาพ ก็ยังงง ๆ ว่าจะตอบอะไรดีน้อ ก่อนอบรมโจทย์การบ้านยังเครียดแถมยังวิชาการขนาดนี้ อะไรกันเนี่ย!!! แต่...ที่ไหนได้ สิ่งที่ได้รับ วิชาความรู้ที่อาจารย์หมอใส่เข้ามาให้แบบไม่กั๊กนั้นแทบไม่ต้องจด แต่เป็นอะไรที่ใช้จากส่วนลึกในจิตใจของความเป็น ฅน  

จากการกำหนดข้อตกลงในการเรียนรู้ร่วมกันด้วยการ “ลดความเป็นตัวตน ร่วมสร้างสรรค์เพื่อพัฒนา กล้าคิดกล้าทำ ตั้งใจร่วมหมู่ ไม่อยู่กับมือถือ และกลายเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ (Getting to know U and We) ทำให้รู้สึกดีและคิดว่าตนเองเป็นคนสำคัญที่อาจารย์หมอตั้งใจจะมอบความรู้ให้ อีกทั้งอาจารย์หมอยังเล่าเรื่องราวสนุก ๆ Story Telling สอนให้เราคิดเป็น ด้วยการคิดเชิงบวก ความรู้คืออะไร อาจารย์หมอถามไว้จากคลิปวิดีโอของนักเรียนสวนกุหลาบ “ความรู้” คือ สิ่งที่สั่งสมมาจากการศึกษาเล่าเรียน ความเข้าใจ ประสบการณ์ความสามารถในเชิงปฏิบัติ และการฝึกทักษะฯ รวมถึงสิ่งที่เรียนรู้จากการได้ยินได้ฟัง การคิดไตร่ตรอง การทบทวน ซึ่งความรู้นั้นก็มีจุดเริ่มต้นจาก “ความไม่รู้” เมื่อเรียนรู้แล้วจะเกิดการพัฒนา เชื่อมโยง ต่อยอด ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาองค์กร โดยการรู้จักค้นหาความเป็นตัวตน รู้จักคนในองค์กร สร้างทีมงานด้วยการกำหนดกติกาในการอยู่ร่วมกัน ไว้วางใจซึ่งกันและกัน มีการสื่อสารและประสานงานกัน โดยใช้การเรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีตเพื่อเตรียมอนาคตอย่างมีเป้าหมายร่วมกัน 

ท้ายนี้ ขอขอบพระคุณวิทยากร อาจารย์หมอ JJ อาจารย์สัญชัย สูติพันธ์วิหาร อาจารย์กฤตยา อกนิษฐ์ ที่จุดพลังใจ พลัง KM ให้อีกครั้ง ถึงแม้ว่าการทำงานกับคนนั้น จะยากเย็นสักเพียงไหน

ณ จุดนี้ KM อาจจะทำดีแล้ว แต่ยังไม่พอ ก็จะขอทำต่อไป เพราะเป้าหมายนั้นสูงกว่าคำว่า เหนื่อย และ ท้อ 

และที่ลืมไม่ได้ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่จากกองพัฒนาคุณภาพ มหาวิทยาลัยมหิดลทุกท่าน ที่จัดกิจกรรมดี ๆ ขึ้นมาค่ะ

ฝาก fanpage ด้วยนะคะ 

https://www.facebook.com/ILoveEnKM

 

 

หมายเลขบันทึก: 552341เขียนเมื่อ 2 พฤศจิกายน 2013 19:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2013 23:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • แวะมาเยี่ยม ตามมาเรียนรู้
  • การพัฒนา ของสหาย KM เติมเต็มงานประจำ ชาวมหิดล
  • ฅ ฅน ร่วมพัฒนา ครับ

ยืนยันค่ะ. อาจารย์หมอ เป็นอีกหรึ่ง กูรู เรือง KM. ที่สอนKM. ยากๆ แล้วเข้าใจง่าย สไตล์ JJ
KM. ต้องใช้ “ใจ”. เข้าช่วยถึงจะทำได้สำเร็จค่ะ^__^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท