บริหารสมองและความคิด
ในชีวิตประจำวันของเราทุกคนต้องรับผิดชอบในหลายบทบาท ไม่ว่าจะเป็นบทบาทเจ้านาย ลูกน้อง บทบาทพ่อที่น่ารักของลูก บทบาทลูกที่น่ารักของพ่อแม่ บทบาทเพื่อน บทบาทแฟน น่าแปลกที่มนุษย์สามารถบริหารบทบาทต่างๆเหล่านี้และทำมันได้ดีอีกด้วย เราเคยรู้หรือไม่ว่าร่างกายและสมองของคนเราที่ใช้งานอยู่หนักๆจะอ่อนล้าหรือไม่ วันนี้ผู้เขียนขอนำเสนอท่าทางบริหารสมองง่ายๆ ที่ได้นำไปใช้สอนเด็กบ่อยๆเพื่อช่วยกระตุ้นสมอง เริ่มจากสิ่งง่ายๆใกล้ตัวเลย คือการดื่มน้ำเปล่าไม่แช่เย็น น้ำมีส่วนผสมของออกซิเจนที่เป็นประโยชน์ต่อสมอง ดื่มก่อนพอประมาณ จากนั้นเรามาเรียนรู้การบริหารสมองง่ายๆกันต่อ
เริ่มจากท่าที่ 1 คือ การพลิกมือคว่ำและหงายสลับกันข้างซ้ายและขวา ทำต่อเนื่องช้าๆสัก 20 ครั้ง สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้เลยคือ การหายใจเข้าออก ร่วมด้วย
ท่าที่ 2 คือ ท่าวาดรูปเลข 8 ในอากาศ จะใช้ทั้ง 2 มือประคองและเคลื่อนไหวเป็นเลขแปดหรือ ใช้แค่ 1 ข้างก็ได้
ท่าที่3 คือ การใช้ปลายนิ้วมือเคาะกันเร็วๆ จังหวะสม่ำเสมอ โดยท่านี้จะไปช่วยกระตุ้นเซลล์ประสาท
วันนี้ขอแนะนำเพียง 3 ท่าง่ายๆก่อน ทั้งหมดนี้เป็นท่าออกกำลังกายสมอง ยกตัวอย่างท่าวาดเลข 8 เป็นท่า Brain Gym ที่คิดค้นโดย ดร.พอล เดนนิสัน นั่นเอง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในชีวิตประจำวัน จากการที่เราต้องทำงานและใช้ชีวิตประจำวัน ต้องพบกับสถานการณ์ที่ทำให้เราเครียดได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะมาจากความคิดของเราเองหรือสิ่งกระตุ้นต่างๆที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่ต่อไปเราจะมาฝึกให้คิดง่ายๆแบบไม่เครียดมากขึ้น แต่วิธีนี้ไม่ใช่การหลอกตัวเอง มาลองฝึกฝนกัน ยกตัวอย่างสถานการณ์ เช่น
- สถานการณ์แรก เจ้านายเดินเข้ามาอย่างไร้เหตุผลและมาตำหนิคุณว่างานที่ทำไม่ได้เรื่อง ทั้งๆที่คุณตั้งใจทำมันอย่างดี.... ลองกลับหัวคิดว่าการที่เราได้ทำงานอย่างเต็มความสามารถนั้น เราได้รับประสบการณ์จากการทำไปแล้ว ถือว่าได้มีโอกาสฝึกฝนฝีมือ และฝึกความอดทน แทนที่เราจะมานั่งโกรธหรือเสียใจ เสียเวลาคิดซ้ำๆในข้อเสียของตนเอง จะพาลทำให้ซึมเศร้าอีกด้วย
- สถานการณ์ที่ 2 แฟนสาวรีดเสื้อเชิ้ตตัวโปรดไหม้ เดาได้เลยว่าวินาทีนั้นที่คุณเห็นภายในใจจะต้องปรี๊ดแน่นอน ลองเปลี่ยนวิธีดังนี้ ลองอยู่นิ่งๆ ตั้งสติ มีสมาธิกับลมหายใจเข้าออกช้าๆ ฝึกให้อภัยและคิดใหม่ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ แฟนของคุณต้องเหนื่อยขนาดไหนที่รีดผ้าให้คุณ เรื่องแค่นี้คุ้มแล้วเหรอกับการตำหนิเขา และการต้องมาสร้างปมการทะเลาะที่ยังไม่เกิดขึ้น หัดพูดคำว่าไม่เป็นไรอย่างจริงใจซึ่งไม่ใช่การหลีกเลี่ยง วิธีการต่างๆเหล่านี้เป็นรูปแบบการคิดแบบไม่เครียดอย่างหนึ่ง
ยังมีอีกหลากหลายวิธีที่ทำให้เราใช้ชีวิตอย่างมีความสุข อย่างผู้เขียนเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายแต่มักไม่ค่อยมีเวลาเพราะแพ้ความขี้เกียจ และอารมณ์ยังไม่พาไป (เป็นข้ออ้างส่วนตัว) แต่ปัจจุบันนี้ได้ออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง และจะพยายามคงระดับความขยันอย่างนี้ไปเรื่อยๆ สำหรับตนเองการออกกำลังกายเป็นเทคนิคส่วนตัวในการเทขยะความคิด ความเครียด ภาวะล้าของสมอง จากงานที่ทำทั้งวัน ทั้งๆที่มีคนถามว่าไม่เหนื่อยเหรอ และตัวเองได้ถามตัวเองด้วยว่าจะทำได้เหรอ.... แต่ผลที่ได้หลังจาการออกกำลังกายกลับทำให้สดชื่นมาก สมองไม่ล้า มีแค่ปวดกล้ามเนื้อเล็กน้อย ทำให้นอนหลับสบายต่อเนื่องทั้งคืน วิธีนี้ถือว่าเป็นวิธีการที่ตนเองใช้ผ่อนคลายสมองร่วมด้วย ลองนำเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ไปปรับใช้ดูนะคะเผื่อจะช่วยทำให้คลายความเครียดในชีวิตประจำวันได้บ้าง อย่าลืมมองหาเทคนิคคลายสมองส่วนตัวด้วยนะคะ
ความเห็น (4)
-สวัสดีครับ....
-ขอบคุณเคล็ดลับดีๆ นะครับ..
เช่นกันค่ะคุณเพชรน้ำหนึ่ง แค่ปรับความคิดชีวิตก็เป็นสุขค่ะ ^ ^
ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ สั้นๆแต่มีพลังให้ทำต่อค่ะ คุณการศึกษาอิสระ ^ ^