ต้นไม้โมเดล
"ทุกสิ่งมีราก มีเเก่น เเละมีผล"
ต้นไม้เป็น อาหาร เป็นที่อยู่อาศัย เป็นสิ่งที่ทำให้โลกของเราสมดุล เป็นเครื่องอำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์ อาทิ บ้านเรือน เครื่องใช้ต่างๆในชีวิต ซึ่งชีวิตของเรามีความผูกพันกับต้นไม้เป็นอย่างยิ่ง ในเมื่อครั้งอดีตต้นไม้ทั่วโลกเรามีจำนวนมหาศาลเเต่ด้วย "ความต้องการ" ของเราทุกๆจึงทำให้ต้นไม้นี้ลดลงเรื่อยๆเเละไม่มีเเนวโน้มว่าจะหยุดลดในทันทีทันใด ทั้งนี้เนื่องจากเรามีความต้องการอยู่ในทุกขณะที่ไม่ใช่เพียงต้นไม้เเต่ยังมี "ทรัพย์" จากธรรมชาติมากมายที่เป็นความต้องการของเรา อาทิ เเร่ต่างๆ น้ำมันต่างๆ ถ่านหินต่างๆ เป็นต้น ซึ่งเป็นพลังงานที่เเล้วสามารถเกิดขึ้นมาเเทนที่ได้เเต่ต้องอาศัยระยะเวลาหลายล้านปี เเต่ต้นไม้สามารถเจริญเติบโตได้เร็วกว่า "ทรัพย์" จากธรรมชาติใดใด เมื่อต้นไม้ได้งอกงามขึ้น = ชีวิตได้กำเนินขึ้น เมื่อมีป่าดินจะดีเเละน้ำจะมีในพื้นที่นั้นๆทำให้สิ่งมีชีวิตต่างๆสามารถอาศัยอยู่ได้เพราะธรรมชาติเอื้ออำนวย...ถ้าให้เราลองนึกถึงต้นไม้เเล้วเรานึกถึงอะไร ? "ใบ ดอก ราก ลำต้น เปลือก ฯ ซึ่งจะไม่มีคำว่าถูกหรือผิดขึ้นอยู่กับทัศนะของเราเเต่ละคน...เเต่ถ้าเราลองมองดูอย่างชัดเจนอีกทีหนึ่งว่า ต้นไม้นั้นมีกี่ส่วน หลายคนหลายทัศนะจะมองเเตกต่างกันไปอีกเช่นกัน..ถ้ามีใครสักคนถามเราเข้ามาอีกว่า "ลองจัดประเภทของส่วนนั้นสิ" ถ้าเป็นทัศนะของผู้เขียนจะมีอยู่ ๓ ส่วนด้วยกัน คือ ราก เเก่น เเละผล หรือ ๒ ส่วน คือ เเก่น เเละเปลือก ซึ่งการที่ต้นไม้จะสามารถเจริญเติบโตขึ้นมาได้จำต้องอาศัยหลายปัจจัย คือ สิ่งเเวดล้อมทางกายภาพเเละชีวภาพที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโต เเล้วนอกจากนั้น "มีทุกต้นจะมี ราก มีเเก่น มีผล ร่วมกันทั้งหมด" ... รากเปรียบเหมือนกับเหตุผลหรือสาเหตุหรือที่มาของสิ่งนั้นๆ ทุกๆสิ่งมีขึ้นหรือเกิดขึ้นเพราะมีสาเหตุ หรือเหตุผลของสิ่งนั้นๆ เช่น "ทำไมเราถึงอยากเป็นหมอ = เพราะหมอคือความฝันของฉัน" "ทำไมเราต้องต่อเรือด้วยวิธีนี้ = ถ้าเราต่อวิธีอื่นจะสามารถทำให้เรือรั่วได้ง่าย" "ทำไมเราต้องทำงานหนัก = เพราะอยากมีเงินเยอะๆเพื่อให้ครอบครัวสบาย" ... ซึ่งทุกสิ่งล้วนมี เหตุผลหรือสาเหตุหรือที่มาของสิ่งนั้นๆ "ถ้าต้นไม้ขาดรากจะทำให้ต้นไม้ล้มลงในทันที" รากจึงเป็นส่วนสำคัญที่สุดของต้นไม้เพราะการดำเนินชีวิตต่างๆของต้นไม้จะไม่สามารถขาดรากได้ เเก่นเปรียบเหมือนเนื้อของไม้เนื้อของสิ่งนั้นๆซึ่งเป็นสื่งที่ได้มาจากรากอีกครั้ง " ความฝันของฉันอยากเป็นนักธุระกิจฉันต้องศึกษางานธุรกิจให้มากที่สุด" "ความรู้ของฉันยังน้อยอยู่ฉันต้องขนขวายให้มากที่สุด" "ความใจร้อนทำให้งานของฉันที่ออกมาไม่ดีฉันต้องใจเย็นให้มากที่สุด" ซึ่งเปรียบได้กับกระบวนการที่มี "ราก" เป็นเหตุเป็นผล เเก่นเป็นลำต้นของต้นไม้ที่คอยเป็นเสาหลักของการทำสิ่งต่างๆในการดำเนินชีวิตถ้าขาดเสาหลักนี้ไป "ต้นไม้จะกลายเป็นพุ่มไม้ในที่สุด" ผลเปรียบเหมือนสิ่งสุดท้ายของลำดับเหตุผลนั้นๆ "ฉันเดินอยู่ที่ริมขอบสระน้ำไม่ทันได้ระวังเท้าจึงตกลงไปในสระน้ำจนทำให้ฉันเปียกทั้งตัว" "เมื่อฉันได้มองเขาเเล้วฉันรู้สึกมีความสุขจากการที่ได้มองทำให้ฉันมีความสุขในการเรียน" "เมื่อวันเวลาได้ผ่านพ้นไปที่มีเรื่องราวนานานับประการผ่านความทรงจำทำให้เรารู้สึกอยากร้องไห้กับความรู้สึกเหล่านั้นที่จากไป ผลจึงเป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งของต้นไม้ที่เเสดงให้เห็นชัดว่าต้นไม้ต้นนั้นเป็นอย่างไร มีความอุดมสมบูรณ์หรือไม่ ... ราก เเก่นเเละผลจะอยู่ด้วยกันถ้าขาดรากไปต้นไม้จะไม่สามารถดำรงอยู่ได้ซึ่งในการทำสื่งๆใดเราจะขาดเหตุผลไม่ได้ ถ้าขาดเเก่นไปจะทำให้ต้นไม้นั้นเป็นพุ่มไม้ในทันใดการขาดเเก่นไม้ไปเท่ากับการขาดเสาหลักของกระบวนการนั้นๆ ถ้าขาดผลจะไม่สามารถมีต้นไม้ต้นใดที่จะงอกออกมาได้อีกทั้งนี้เพราะผล คือ เมล็ดพันธุ์ที่จะเป็นต้นไม้ต้นใหม่ในเวลาต่อมา... ซึ่งเราลองคิดอย่างใคร่ครวญในเรื่องของราก เเก่นเเละผล ....
ต้นไม้นี้ถ้าเราลองมาคิดเเบบต้นไม้ในการทำงานว่าทุกสิ่งต้องมี ราก มีเเก่น เเละมีผล โดยในการทำสิ่งๆใดเราจะต้องมีความเป็นเหตุเป็นผลที่เหมาะสมกับสิ่งๆนั้น "จำต้องมีรากฐานที่มั่นคง หากเรามีรากฐานที่มั่นคงเเล้วจะทำให้ต้นไม้สามารถทนทานตต่อกระเเสลมได้" รากฐานของตึก คือ อิฐ รากฐานของชีวิต คือ การศึกษา ทุกสิ่งที่เราทำจะต้องมีรากฐานถ้ารากฐานเราชอนไชออกมาตื้นเราจะล้มได้ง่ายเเเต่ถ้ารากฐานของเราหยั่งลึกจะทำให้เรามั่นคง ไม้ป่ากับไม้เมืองจะต่างกันในเรื่องของความเเข็งเเกร่งซึ่งไม้เมืองจะลำต้นเล็กรากตื้นที่เมื่อเปรียบเทียบกับไม้ป่าเเล้วที่มี ลำต้นสูงไม้เป็นไม้เนื้อเเข็งเเละรากจะเเข็งเเรงมากจนสามารถทะลุทะลวงผ่านชั้นหินต่างๆเพื่อจะหาอาหารมาเลี้ยงตน ไม้ป่าจะเเข็งเเกร่งกว่าไม้เมือง คนในป่าจะเเข็งเเกร่งกว่าคนในเมือง รากฐานของป่าจะเเข็งเเกร่งกว่ารากฐานของเมือง ฯ เเล้วรากนี้จะดูดซับอาหารเข้ามาสู้เเก่นหรือลำต้นโดยที่เเก่น คือ เเกนหลักของการทำสิ่งต่างๆโดยถ้าเเก่นเป็นไม้เนื้อเเข็งเเล้วจะมีความมั่นคงสูงที่จะทนทานต่อเเรงลมที่เข้ามาตลอดเวลาโดยที่มีจุดยอดสูงสุด คือ ผลหรือใบของลำต้นเมื่อใบร่วงลงไปสู่พื้นดินเเล้วจะเกิดกลายเป็นปุ๋ยให้กับลำต้นใหม่เเละเมือ่ผลได้ร่วงลงสู่ดินเเล้วจะทำให้เกิดกลายเป็นต้นไมเต้นใหม่ที่มี "ชีวิต มีจิตวิญญาณ" ของการเจริญเติบโตต่อไปได้อีกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ต้นไม้โมเดล
ราก = เหตุผล/สาเหตุ/ที่มา
การวางรากฐานของงานโดยเป็นการปูพื้นฐานของงานด้วยวีธีการต่างๆที่ทำให้งานสามาารถสำเร็จลุล่วงไปได้อย่างมีคุณภาพมากที่สุด หลายคนทำงานที่วางรากฐานเป็น "ภูมิคุ้มกัน" ของงานที่จะเกิดขึ้น เช่น การให้ข้อมูลไปก่อนเพื่อสักวันหนึ่งเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆข้อมูล นั้นอาจไม่เหลืออยู่เลยที่เมื่อเขาได้รับรู้เเล้วเขาจะกลับมาย้อนมองถึงข้อมูลของเราใหม่อีกครั้งที่เมือ่ถึงตอนนั้นเเล้วข้อมูลจะสามารถเข้าถึงเขาได้ง่ายเเละอย่างทันท่วงที หรือ หลายคนวางเเผนงานในระยะเวลาสั้นของบริบทนั้นๆเพราะเนื่องด้วยจุดนั้นมีการเปลี่ยนเเปลงอยู่ตลอดเวลา เเละหลายๆคนวางเเผนงานด้วยการเน้นการเข้าถึงเเละการมีส่วนร่วมของทุกคน มากที่สุด ซึ่งในการวางแผนนี้เป็นสิ่งที่ไม่ตายตัวซึ่งเราสามารถปรับแผนได้ตลอดงานเนื่องจากความเหมาะสมของเเผนงานนั้นๆต่อเป้าหมายที่เราดำเนินงาน..การที่รากจะสามารถเเข็งเเกร่งได้นั้นขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัยที่คอยมาหนุนเสริม อาทิ พลังกลุ่มหรือพลังองค์กรการคิดวิเคราะห์ ทุนต่างๆ เป็นต้น รากฐานของงานทุกงานไม่เหมือนกัน รากฐานของคนทุกคนไม่เหมือนกันเพราะบริบทของเราต่างกันออกไป ...
เเก่น = กระบวนการของงาน
กระบวนการในการดำเนินงานซึ่งมาจาก "รากของงาน" โดยเป็นกระบวนการในการทำงานที่จะทำให้บังเกิดผลออกมาอย่างมีคุณภาพ เเก่นของงานเปรียบเหมือนเสาหลักของการทำงานถ้าเสาหลักมั่นคงจะสามารถทำให้ต้นไม้นี้มั่นคงได้ เเก่นจะมีกระบวนการทำงานจากล่างขึ้นบนโดยอาจเป็นลำดับของการทำงานในระยะที่ ๑ - ๒ -๓ ซึ่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรากเป็นส่วน สำคัญที่จะทำให้เเก่นเเข็งเเกร่ง หลายๆคนวางกระบวนการเเบบการใช้การมีส่วนร่วมเข้าช่วยหลายๆวางกระบวนการเเบบการใช้ศิลปะเข้าช่วย เเละหลายๆคนวางกระบวนการเเบบเน้นความเป็นข้อมูล ฯ "ในการดำเนินงานนั้นถ้าเรามองที่เเก่นเราจะได้คุณภาพที่เหมาะสมเเต่ถ้าเรามองที่เปลือกเราจะได้เพียงเเค่ปริมาณเพียงเท่านั้น" ฉะนั้นเเก่นของงานจึงเป็นเสาหลักสำคัญที่จะทำให้งานบังเกิดผลได้อย่างเหมาะสมกับความคาดหวัง
ผล = ผลผลิตของงานนั้นๆ
ผลที่ได้จากการดำเนินงานในงานนั้นๆ "ผล" คือสิ่งที่เกิดขึ้นเเล้วสามารถดำเนินต่อไปได้เสมอโดยอาจเป็นการต่อยอดเเนวคิดจากเดิมให้ดีขึ้นซึ่งอีกมุมหนึ่งจะอยู่ในมุมมองของการต่อยอดงาน ผลของงานจะดำเนินมาจากรากเข้ามาสู่เเก่นเเล้วเเก่นจะพัฒนาเกิดกลายมาเป็นผลซึ่งผลนี้จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับทั้งรากเเละเเก่นที่จะผลิตงานให้ผลออกมามีความเหมาะสมกับเป้าหมายของงานที่ได้ตั้งเป้าไว้ "คนที่ทำงานหวังผลมีทุกคน" เพราะผลนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากกระบวนการทำงานมาทั้งหมด เเล้ว "ผล" นั้นจะเป็นประโยชน์ จนเกิดกลายเป็น คำว่า "ผลที่เป็นประโยชน์" (ทัศนะของผู้เขียน) ... ซึ่งผลที่เป็นประโยชน์นี้คือบริบทของทุกผลิตที่ได้ เพราะในทุกบริบทของผลผลิตที่ได้เป็นการเรียนรู้ที่จะเกิดขึ้นเป็นต้นไม้ต้นใหม่ได้อย่างมั่นคง เช่น "ปีนี้ถึงเเม้ว่าเราจะทำงานไม่สำเร็จเเต่เด็กทุกคนได้พัฒนาตนเองขึ้นอีกก้าวหนึ่งของความเป็นผู้ใหญ่" ซึ่งทั้งนี้ผลที่ออกมาจะไปในทิศทางที่ดีหรือไม่ดีเเต่เขาสามารถนำไปเป็นบทเรียนที่จะพัฒนางานต่อได้ในที่สุดทำให้ผลนี้เกิดกลายเป็นต้นไม้เล็กๆที่เกิดขึ้นเป็นต้นไม้ใหม่ได้นั่นเอง
ปัจจัยที่เอื้อต่อการเจริญเติบโต
สภาพเเวดล้อมต่างๆที่มีความอุดมสมบูรณ์จะทำให้ต้นไม้มีความอุดมสมบูรณ์ตามไปด้วยโดยเป็นปัจจัยที่คอยหนุนเสริมให้ต้นไม้โมเดลนี้สามารถเจริญเติบโตได้อย่างเหมาะสม
ทุน - เปรียบเหมือนดินที่คอยพยุงโดยที่ดินนี้จะเเน่นหนาหรือจะคอยยึดรากได้ดีก็ต่อเมื่อเรามีทุนในการทำงานสามารถพัฒนางานได้ดี อาทิ การที่เราอยู่ในบทบาทที่สามารถเข้าถึงเเละสามารถทำงานได้ง่าย การมีผู้รู้เป็นที่ปรึกษาอยู่ตลอดเวลาหรือ สภาพเเวดล้อมต่างๆเอื้ออำนวยต่อการพัฒนา เป็นต้น ซึ่งทุนเปรียบเหมือนปัจจัยที่ทำให้งานสำเร็จลุลุ่วงไปได้ด้วยดี
หน่วยงานที่หนุนเสริม - เปรียบเหมือนปุ๋ยที่คอยเพิ่มเสริมเติมเต็มให้ต้นไม้สามารถเจริญเติบโตได้ดี หากเราทำงานอย่างมีส่วนร่วมจากการดึงหน่วยงานต่างๆเข้ามาเสริมจะสามารถทำให้งานเราออกมาอย่างมีประสิทธิผล เนื่องเพราะหน่วยงานต่างๆเป็นเเรงที่ช่วยให้เราสามารถทำงานได้โดยง่าย หน่วยงานที่เข้ามาช่วยจึงเปรียบเหมือนกับปุ๋ยที่คอยเร่งการเจริญเติบโต
ปัญหา/อุปสรรค - เปรียบเหมือนลมที่คอยพัดพาให้ต้นไม้โมเดลนี้ล้มหรือโค่นลงเเต่ถ้าเราลองมองในอีกทัศนะหนึ่งเเล้วจะเห็นว่าลมนี้ซึ่งเป็นปัญหาเเละอุปสรรคจะคอยพัดพาให้ต้นไม้โค่นก็จริงเเต่เมื่อเราได้ฝ่าฟันลมเเรงนั้นมาได้เราจะรู้สึกว่าเราเย็นเพราะลมที่พัดผ่านไป
พลังกลุ่ม - เปรียบเหมือนคนที่คอยดูเเลต้นไม้โมเดลที่คอยรดน้ำพรวนดินให้ปุ๋ยคอยหาไม้ค้ำเพื่อที่จะพยุงต้นไม้เมื่อลมพัดเเรงหรือมีพายุเข้าจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้งานสามารถสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีโดยที่งานสำคัญที่พลังกลุ่มถ้าพลังกลุ่มดีจะทำให้งานมีคุณภาพที่เหมาะสมทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยที่คอยมาหนุนเสริมต่างๆ "พลังกลุ่ม" เป็นทุนที่สำคัญที่สุดในการทำงาน
* ต้นไม้โมเดล เป็นหลักในการคิดที่ มีคีย์เวิร์ด ๓ คำ คือ ราก เเก่น ผล ซึ่งเป็นอีกหลักหนึ่งของการคิดในการทำงาน " ทุกสิ่งล้วนมีราก มีเเก่น เเละมีผล " การเจริญเติบโตของต้นไม้ขึ้นอยู่กับการดูเเลเป็นหลักสำคัญ" จากรากที่เป็นเหตุผลหรือที่มาสู่เเก่นที่เป็นกระบวนการทำงานจากผลสู่ผลที่เป็นผลของงาน สามารถใช้โมเดลที่เปรียบเหมือนธรรมชาตินี้ในการทำงานให้มีคุณภาพได้อย่างมีรากฐานที่มั่นคง มีเสาหลักที่เป็นจุดยืนเเละมีผลที่สามารถเกิดเป็นต้นไม้ต้นใหม่ได้ หากเพียงดำเนินงานเเบบต้นไม้ ...
เป็นโมเดลที่ให้หลักคิดที่ดีทีเดียวครับ
-สวัสดีครับ
-ขอบคุณสำหรับ โมเคล ดีๆ นี้ครับ..
..มาชื่นชม...ต้นไม้..ปริทัศน์...กับการ..ต่อยอด..ให้คุณค่า..ต้นไม้..เป็น..โมเดล..ที่..ยอดสุดๆ
...ขอปรบมือ..กับ..ข้อเขียน..ความคิด..ดี..ๆ..เจ้าค่ะ...ยายธี
เอ๊า >. เอาไป 100 คะแนนเต็ม A ++++++
ขอขอบคุณมากๆ... สำหรับคำติชมข้างต้นครับ...