อ. หมอปรีดา มาลาสิทธิ์ ส่งบทความนี้มาให้ ไม่เคยนึกว่าจะมีผลการวิจัยแบบนี้ และตีพิมพ์ในวารสาร Science (๓๐ ส.ค. ๕๖) เสียด้วย อ่านบทความได้ ที่นี่
บทความนี้ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๔๙ ที่แพทย์ช่วยชีวิตหญิงชราอายุ ๘๑ ปี ที่ป่วยเป็นโรคท้องร่วงอย่างแรงจากเชื้อ Clostridium difficile หลังจากได้รับยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน จนยาไปฆ่าเชื้อ แบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ออกไปหมด เชื้อ C. difficile จึงขยาย
สะท้อนภาพชีวิตที่พึ่งพาอาศัยกันเป็นห่วงโซ่ ... ห่วงโซ่แห่งชีวิต ... ชีวิตที่พึ่งพาอาศัยกันและกัน
นิทานอีสป เรื่องราชสีห์กับหนู สอนเราว่า ผู้น้อยที่ไม่มีอำนาจหรือฤทธิ์เดช ก็อาจช่วยเหลือชีวิตผู้ยิ่งใหญ่หรือมีอำนาจมากได้ ในบางโอกาส บทความเรื่อง The promise of Poop (ความหวังจากอุจจาระ) ยิ่งสอนเราว่า ความช่วยเหลือ หรือคุณประโยชน์ อาจมาจากสิ่งที่เรารังเกียจ หรือมองเห็นแต่โทษ
เวลานี้วิธีปลูกถ่ายอุจจาระ (fecal transplantation) ได้แพร่หลายไปมาก มีคนทำด้วยตัวเอง และมีคำแนะนำ วิธีทำใน YouTube ด้วย และมีคนทดลองในโรคต่างๆ ประมาณ ๑๕ โรค ทำให้มีข้อกังวลความปลอดภัย เพราะมีรายงานผลข้างเคียงด้วย
จึงมีคนแยกเชื้อแบคทีเรียในอุจจาระ เลือกเอาเฉพาะชนิดที่คิดว่าเหมาะสม มาทำเป็นน้ำผสมแบคทีเรียหลายชนิด (ประมาณ ๓๐) เพื่อลดผลข้างเคียง แต่ก็มีคนกังวลว่า ทำแบบฝืนธรรมชาติอย่างนี้แหละ ที่อาจจะยิ่งมีผลข้างเคียงได้ง่าย วิธีการนี้มีคนตั้งชื่อให้ดูดีว่า microbiota restoration therapy (การรักษาโดยฟื้นประชากรจุลชีพ)
เป็นจุดเริ่มต้นของการรักษาโรค หรือสร้างเสริมสุขภาพ โดยวิธีฟื้นประชากรจุลชีพในช่องต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งน่าจะมีพัฒนาการต่อไปอีกมากมาย
เป็นการยืนยันหลักการ ชีวิตที่พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
วิจารณ์ พานิช
๑ ต.ค. ๕๖
ไม่มีความเห็น