คราวนี้ได้บอกไว้แล้วว่าจะเล่าเรื่องประสบการณ์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในเพิร์ธและเมืองอื่นๆในรัฐออสเตรเลียตะวันตก (Western Australia) ถึงแม้ว่าจะไปอยู่ที่เพิร์ธมาถึง 6 ปีกว่า ครอบครัวเราก็ไม่ได้ไปไหนไกลเกินกว่ารัฐออสเตรเลียตะวันตกที่พวกเราอยู่ สาเหตุที่สำคัญนอกเหนือจากว่าตัวเองเป็นคนไม่ค่อยกระตือรือร้นเรื่องเที่ยว ให้เริ่มขวนขวายเองนั้นจะเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าไม่มีใครมาชักชวนจริงๆก็คงไม่ได้ไปไหน แล้วให้ไปไหนโดยไม่ไปกันทั้งครอบครัวเราก็ไม่อยากไปอีก ครอบครัวก็ไม่เล็กเสียด้วย หอบหิ้วกันทีสนุกสนานวุ่นวายมากค่ะ
สภาพรถก็สำคัญในการท่องเที่ยว
โชคดีที่ในเพิร์ธเองก็เป็นเมืองท่องเที่ยวอยู่แล้ว ทั่วทั้งเมืองมีสารพัดสถานที่น่าสนใจ ในรัศมีที่เราสามารถขับรถของเราที่เรียกเล่นๆกันว่า many many hands car (ไม่ใช่แค่ secondhand ) ไปถึงได้ โดยไม่โดนตำรวจเรียก ที่เพิร์ธนั้นกฎการใช้รถใช้ถนนของเขาค่อนข้างเคร่งครัด สภาพรถก็เป็นสิ่งที่สำคัญ รถเก่าๆมากๆคันไหน โดนเรียกโดนเช็คแล้วพบว่ามีปัญหาที่อาจเป็นอันตรายต่อการใช้รถใช้ถนน แล้วโดนสั่งให้ไปแก้ไขอะไรละก็ จะโดนติดตามกันจริงๆจังๆทำเป็นเล่นไม่ได้เลย ยิ่งถ้าโดนติดป้ายว่าห้ามใช้ด้วยแล้วละก็ หมดสิทธิเถียงเลยแหละ ห้ามเอาไปปรับสภาพใดๆเสียด้วย เคยมีคนโดนมาแล้ว เวลาทำผิดทีนึงก็โดนปรับชนิดที่เข็ดกันไปทั้งตัวคนโดนและคนใกล้ชิดที่ได้รู้เรื่องการปรับ อย่างที่เคยเล่าไว้แล้วเรื่องถอดเข็มขัดคนนั่งตอนรถกำลังจะจอดแท้ๆแต่ยังจอดไม่สนิท ก็โดนไปตั้ง 150 เหรียญ
รถเราตอนที่น้องฟุงยังตัวเล็กๆก็ต้องใส่ baby seat ให้ เป็นที่นั่งเด็กติดกับเบาะต่างหากที่สามารถคาดเข็มขัดได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นถ้าจะไปเที่ยวไกลๆสิ่งที่ควรทำก็คือ เช่ารถขับ มีบริษัทให้เลือกมากมายหลายแบบ หลายราคาให้เหมาะกับการเที่ยวของเรา สะดวกปลอดภัยไร้กังวลกว่าขับรถเก่าๆของเราไปเยอะเลยค่ะ แต่ต้องดูรายละเอียดปลีกย่อยของการเช่าให้ดีๆ เพราะราคาที่บอกว่าถูกบางทีก็จะไปมีการชาร์จค่าอื่นๆแอบอิง รวมทั้งเงื่อนไขเวลาคืน การประกัน ฯลฯ
บริการรถเมล์ฟรีในเมืองเพิร์ธ
สำหรับที่เที่ยวในเมืองนั้นยิ่งสะดวกใหญ่ เพราะเขามีรถ CAT (Central Area Transit) ที่เขาก็ติดรูปแมวตัวใหญ่เอาไว้จริงๆ แบ่งเป็น 3 สาย โดยมีแผนที่บอกไว้ว่าไปตรงไหนบ้างอยู่ตามป้ายรถเมล์ที่ให้เราขึ้น ซึ่งก็จะผ่านสถานที่น่าเที่ยวทั้งหลายแหล่ทั่วทั้งบริเวณกลางเมือง ส่วนรอบๆเมืองเริ่มตั้งแต่ชานเมืองเล็กน้อย เขาจะมีบริเวณที่กำหนดเป็น Free Transit Zone ซึ่งภายในบริเวณนี้ เราจะสามารถขึ้นลงรถเมล์ทุกสายได้ฟรีตลอด จะมีป้ายสัญลักษณ์ FTZ ติดไว้ที่ป้ายรถเมล์ด้วย ดังนั้นถ้าจะไปเที่ยวบริเวณในเมือง เราก็จะขับรถไปจอดตามที่จอดรถสาธารณะ (ซึ่งมีทั้งแบบหยอดเหรียญเสียเงิน และแบบจอดฟรี ไม่ต้องบอกก็รู้นะคะว่าเราจะเลือกแบบไหน) ที่เราสามารถจะขึ้นรถ CAT ไปไหนๆได้ เราจะสะพายเป้ที่มีเสบียงอาหารและน้ำไปด้วย เพราะเมืองเพิร์ธนั้นเป็นสถานที่ที่มีบริเวณให้เราได้นั่งพัก หาที่กินของที่เราเตรียมไปเองได้ไม่ยากเลย เพราะอาหารการกินของเขาที่มีขายตามร้านนั้น ราคารับไม่ได้สำหรับพวกเราเอาเสียเลย เพราะหากเราซื้อของมาทำเองจะถูกกว่าหลายเท่าทีเดียว อาจเป็นเพราะค่าแรงคนของเขาแพงก็เป็นได้
ต่อมาจาก series นี้ค่ะย้อนรอย PhD
ชื่่นชมกับความสำเร็จที่ผ่านมาด้วยความอุตสาหะ ครับ
สวัสดีค่ะ baby seat น่ารักทุกแบบนะคะ
แต่ที่ชอบมากก็เห็นจะเป็น Bike Seat ค่ะ
เป็นการใช้ชีวิตและเวลาที่มีคุณค่าเป็นแบบอย่างที่ดีมากๆนะคะ
ทุกวินาทีมีค่ามหาศาล และดูเหมือนจะเก็บรายละเอียดของเส้นทางการเดินทางทั้งการศึกษา
และการเลี้ยงลูกได้ดีชนิดที่เรียกว่าเป็ฯยอดคุณแม่เลย ชื่นชมมากนะคะ
ขอบคุณสำหรับดอกไม้จากทุกท่านนะคะ ขอบคุณอ. JJ สำหรับคำชื่นชม และพี่ krutoiting ที่เป็นผู้อ่านที่น่ารักมากค่ะ ตามลิงค์ที่โอ๋ตั้งใจหามาแปะเป็นข้อมูลไปดูด้วย รู้แล้วชื่นใจเลยค่ะ คิดว่าตัวเองโชคดีมากค่ะที่ทำอะไรก็ทำเต็มที่และมีความสุขกับทุกสิ่งที่เข้ามาในชีวิต ก็เลยอยากถ่ายทอดเอาไว้เผื่อแผ่สำหรับทุกท่านด้วย ดีใจที่มี GotoKnow นะคะ ทำให้เราไม่ต้องประชาสัมพันธ์อะไรมาก แค่ลงมือเขียนๆเอาไว้ สักวันก็คงได้เกิดประโยชน์ต่อๆไป และที่ต้องขอบคุณมากๆอีกท่านก็คืออ.หมอปารมีหัวหน้าภาควิชาพยาธิวิทยาของโอ๋เอง ที่ท่านเป็นคนต้นคิดว่าให้เขียนลงในวารสารของภาควิชาฯตั้งแต่สมัยกลับมาใหม่ๆ เลยยังคงมีรายละเอียดเพียบ ถ้าเริ่มตอนนี้ก็คงไม่ได้แบบนี้แล้วค่ะ ย้อนรอย...ของย้อนรอยเส้นทาง PhD ของโอ๋-อโณทัย ในวารสารสายใยพยา-ธิ เห็นคุณค่าของการบันทึกทันทีเลยนะคะ พอตอนนี้มาอ่านจะทบทวนเพิ่มเติมรายละเอียดได้ง่ายมากเลยค่ะ