ขอไหว้สาในบารมีธรรมของบรรดากัลยาณธรรมและรัตนมิตรของลุงเหมยทุกท่านครับ
เป็นอย่างไรบ้างครับ..หลังจากการกำหนดจิตให้แน่วแน่ได้แล้ว เอาจิตไปที่การกระทำ รู้กำหนดและจำได้ว่าขวาย่าง ซ้ายย่าง สติรู้กำหนดว่าเดินช้า เดินเร็ว ทั้งหมดนี้คืออินทรีย์ คือ ความเป็นใหญ่ในหน้าที่ของตนเมื่อเข้าไปทำหน้าที่ในทางปฏิบัติ ก็จะเจาะลึกเข้าไป การทรงใจให้อยู่กับรูปนาม ปัจจุบัน คือ ศีล สมาธิ ปัญญา เป็น การตั้งใจทำให้ต่อเนื่องกัน ไม่คุย ไม่อ่านหนังสือ ไม่นอนมาก แต่ปฏิบัติให้ให้มาก การผูกจิตจับอยู่ในอารมณ์ใด ให้ยึดมั่นในอารมณ์นั้น เรียกว่าสมาธิของเราเป็น สมาธินทรีย์ ถึงตอนนี้แล้วก็แสดงว่าจิตของเราเข้าสู่สมาธิแล้ว จิตมีสมาธิแล้ว...ฝึกต่อไป ฝึกต่อไป และฝึกต่อไป....เพื่อให้เกิด พละ ๕ ... คือธรรมอันเป็นกำลัง ๕ ประการ ได้แก่..
๒. มีความพากเพียรในการปฏิบัติ ( เป็นวิริยะ )
๓. มีความระลึกรู้อยู่ในการปฏิบัติ ( เป็นสติ )
๔. มีความตั้งใจแน่วแน่ในอารมณ์ที่กำหนด ( เป็นสมาธิ )
๕. จิตที่เข้าไปรู้เท่าทันในอารมณ์ ( เป็นปัญญา )
ขอเป็นกำลังใจมอบไว้ ณ ปลายเท้าของท่านกัลยาณธรรม โปรดก้มตัวลงมารับเอาไว้เพื่อเป็นฐานกำลังในการปฏิบัติ อย่างน้อยถ้าเราไม่คิดอะไรมากก็คิดว่าทำให้กิเลสของเราเบาบางและหมดไปในที่สุดก็แล้วกัน ขอให้พลังจิตจงตั้งมั่นในดวงใจของท่านผู้เป็นที่เคารพนับถือของอีตาลุงเหมยทุกคนก็แล้วกัน...กราบสาธุครับ
วันนี้ "วันพระ" ธรรมสวัสดี นะคะ คุณลุงเหมย
สาธุ..จ้ะลุงเหมย