M- learning?


m-learning เทคโนโลยีสื่อในยุคปัจจุบัน

 


 

 

 

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

m-Learning (mobile learning) คือ การจัดการเรียนการสอนหรือบทเรียนสำเร็จรูป (Instruction Package) ที่นำเสนอเนื้อหาและกิจกรรมการเรียนการสอนผ่านเทคโนโลยีไร้สาย (wireless telecommunication network) และเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกที่และทุกเวลา โดยไม่ต้องเชื่อมต่อโดยใช้สายสัญญาณ ผู้เรียนและผู้สอนใช้เครื่องมือสำคัญ คือ อุปกรณ์ประเภทเคลื่อนที่ได้โดยสะดวกและสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์โดยไม่ต้องใช้สายสัญญาณแบบเวลาจริง ได้แก่ Notebook Computer, Portable computer, Tablet PC, Cell Phones ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน.....

 

 

m-learning เทคโนโลยีสื่อในยุคปัจจุบัน

แนวโน้มของเทคโนโลยีการศึกษา
Mobile Learning/ M-Learning

ความหมาย
m-learning คือ การศึกษาทางไกลผ่านทางอุปกรณ์เคลื่อนที่แบบไร้สายต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ , PDA และ laptop computer

พัฒนาการของ m-Learning
ในช่วงปี ค.ศ. 1995 – 2000 การศึกษาแบบ e-Learning โด่งดังเป็นอย่างมากไม่ว่าจะทั้งในประเทศไทยเราเอง และต่างประเทศ แทบทุกคนก็คิดว่า e-Learning คงเป็นเทคโนโลยีสุดท้ายที่ทันสมัยที่สุดสำหรับการศึกษาทางไกล แต่ความไม่แน่นอนก็เกิดขึ้น เมื่อเทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สาย (wireless) ได้เข้ามามีบทบาทและเติบโตอย่างมากในช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา อุปกรณ์แบบไร้สายต่างๆ ได้เข้ามาแทนที่อุปกรณ์แบบมีสาย (wired) ที่เราเห็นได้ชัดเจนคือ โทรศัพท์มือถือ เมื่อมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีแบบไร้สาย เทคโนโลยีสำหรับอุปกรณ์ไร้สายต่างๆ ก็ถูกพัฒนาตามขึ้นไปด้วย ซึ่งได้แก่ Bluetooth, WAP (Wireless Application Protocol), GRPS (General Packet Radio System) และ UMTS (Universal Mobile Telecommunications System) เมื่อเทคโนโลยีได้ก้าวหน้าไป วิธีการศึกษาหาความรู้ก็ถูกพัฒนาตามไปด้วย m-Learning จึงเกิดขึ้น m-Learning ย่อมาจาก mobile learning ซึ่งเป็นการพัฒนาอีกขั้นของ e-Learning เป็นการผสมผสานที่ลงตัวของการพัฒนาการศึกษาเรียนรู้ โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วย เทคโนโลยีที่กล่าวถึงนี้ก็คือ เทคโนโลยีการสื่อสารแบบไร้สาย เราเรียกการเรียนแบบนี้ว่า Wireless Learning , Mobile Learning หรือ m-Learning  


ดังนั้น m-learning คือ การศึกษาทางไกลผ่านทางอุปกรณ์เคลื่อนที่แบบไร้สายต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ , PDA และ laptop computer
ในปัจจุบันวิธีการศึกษาแบบ m-Learning นั้นยังไม่ปรากฏให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมมากนัก คงเห็นเพียงแต่การวิจัยของสถาบันการศึกษา และบริษัทที่ให้บริการด้านโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ไร้สายต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น บริษัท ERICSSON และ NKI Distance Education หรือ NKI อินเทอร์เน็ต College ประเทศนอร์เวย์ เป็นวิทยาลัยที่มีการเรียนแบบทางไกลตั้งแต่ปี ค.ศ. 1987 ทั้งสองหน่วยงานได้ร่วมมือกันเพื่อทำการศึกษาและวิจัยเรื่อง m-learning ว่ารูปแบบวิธีการเรียนจะเป็นอย่างไรโดยผ่านอุปกรณ์ไร้สายต่างๆ
นอกจากนี้บริษัท ERICSSON ได้มีการวิจัยและรวบรวมข้อมูลตั้งแต่เรื่อง d-learning , e-learning จนกระทั่ง m-learning ในขั้นต้นบริษัท ERICSSON ได้ลองทดสอบการเรียนรู้แบบ m-learning กับโทรศัพท์มือถือรุ่น R320, R380 และ R520 โดยเครื่องรุ่น R380 หน้าจอเป็นแบบแนวนอน นอกนั้นเป็นแนวตั้ง และจากการศึกษาก็พบว่าโทรศัพท์รุ่น R380 สามารถแสดงผลได้ดีกว่าอีกสองรุ่น เพราะหน้าจอที่เป็นแนวนอนจะสามารถแสดงผลข้อมูลตัวอักษรและข้อมูลรูปภาพได้ดีและมากกว่าหน้าจอที่เป็นแนวตั้ง

องค์ประกอบของm-learning

 

การเรียนแบบ m-learning 
จากข้อมูลการวิจัยร่วมของบริษัท ERICSSON และ NKI อินเทอร์เน็ต College ประเทศนอร์เวย์ สามารถสรุปได้ดังตัวอย่างต่อไปนี้ 
ตัวอย่าง วิธีการเรียนรู้เนื้อหาของวิชาที่เรียนผ่านโทรศัพท์มือถือหลังจากที่ ดาวน์โหลด บทเรียนมาเรียบร้อยแล้ว
อาจารย์ประจำวิชาจะจำแนกเรื่องที่จะสอนเป็นบทและหัวข้อย่อยต่างๆ เช่น เรื่องความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ก็จะจำแนกเป็นหัวข้อย่อยๆ ดังนี้
1. ประวัติและความเป็นมา
2. หน่วยความจำ
2.1. หน่วยความจำหลัก
2.2. หน่วยความจำเสมือน
3. อุปกรณ์เชื่อมต่อต่างๆ 
3.1. Input
3.2. Output
4. ………………………….................
4.1………………...............
4.2………………...............
ผู้เรียนสามารถเข้าไปอ่านข้อมูลต่างๆ ได้โดยผ่านหัวข้อหลักก่อนแล้วจึงเข้าไปในหัวข้อที่ย่อยลงไปได้อีกเรื่อยๆ จนพบรายละเอียด ลักษณะการทำงานเช่นนี้เหมือนกับการเลือกเมนูต่างๆ บนโทรศัพท์มือถือ 
เช่น อยากรู้เรื่องหน่วยความจำหลัก บนเมนูจะปรากฏหัวข้อ
 
ผู้เรียนต้องเลือกหัวข้อที่สอง เรื่องหน่วยความจำ 
 
หลังจากนั้นหน้าจอก็จะปรากฏรายละเอียดที่มีในหัวข้อหน่วยความจำ นั่นก็คือ 2.1 หน่วยความจำหลัก 2.2 หน่วยความจำเสมือน
 
ผู้เรียนก็เลือก 2.1 หน่วยความจำหลัก เพื่อเข้าไปอ่านรายละเอียด 
 
 
เราจะเห็นได้ว่าลักษณะการเข้าถึงข้อมูลนั้น คล้ายกับการที่เราเข้าไปยังฟังก์ชันต่างๆ ของโทรศัพท์มือถือและสิ่งที่นักเรียนสามารถกระทำผ่านการเรียนแบบ m-learning มีดังนี้
• เรียนรู้เนื้อหาของวิชาที่เรียน
• จดโน้ตย่อ
• ทำรายงาน
• ดาวน์โหลด เอกสารการเรียน
• หาข้อมูลเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่เรียน
• ส่ง และ รับ อีเมล์ จากเพื่อนๆ ที่เรียนด้วยกัน อาจเป็นการซักถามกันถึงหัวข้อที่ไม่เข้าใจ
• รับ อีเมล์ การสั่งงานหรือการบ้านจากอาจารย์ประจำวิชา
• ส่งรายงานหรือการบ้านผ่านทาง อีเมล์
• รับ อีเมล์ รายงานหรือการบ้านที่อาจารย์ประจำวิชาได้ตรวจแล้ว

m-learning เหมาะกับใคร / กลุ่มเป้าหมาย
คณะผู้จัดทำสื่อการศึกษาของหน่วยงานพัฒนาและฝึกอบรมของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ได้กล่าวถึงข้อดีของการเรียนรู้ผ่านอุปกรณ์แบบไร้สาย หรือ m-learning ว่า มีลักษณะของความเป็นส่วนตัวสูง ดังนั้นวิธีนี้จะสามารถช่วยเหลือและส่งเสริมทักษะการอ่านและเขียน ให้กับผู้ที่ไม่สามารถอยู่ร่วมกับสังคมและเรียนรู้ตามระบบการศึกษาปกติได้ ไม่ใช่ว่า m-learning จะมีประโยชน์เฉพาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องการเข้าสังคมเท่านั้น คนปกติอย่างเราๆ ก็สามารถเรียนรู้ผ่าน m-learning ได้เช่นกัน โดยเฉพาะคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง, หาที่เล่น อินเทอร์เน็ต ลำบาก และสะดวกที่จะใช้อุปกรณ์ไร้สายต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือ PDA การศึกษาแบบ m-learning ก็ดูเหมาะสมกว่าการเรียนรู้แบบอื่น

 

ลักษณะเด่น / ลักษณะด้อย ของการศึกษาแบบ m-learning
ลักษณะเด่น
1. มีความเป็นส่วนตัวสูง 
2. สามารถเรียนรู้ได้ทุกเวลาและสถานที่ เพราะใช้เทคโนโลยีแบบไร้สาย
ลักษณะด้อย
1. อุปกรณ์แบบไร้สายมีหลายรุ่น หลายยี่ห้อ คุณสมบัติของแต่ละเครื่องก็แตกต่างกัน การใช้งานก็ย่อมแตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น หน้าจอที่เล็ก หน่วยความจำที่มีจำกัดและน้อย ทำให้ไม่เอื้ออำนวยต่อการ ดาวน์โหลด ข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลรูปภาพ และเสียง ที่ต้องใช้หน่วยความจำมาก 
2. ค่าใช้จ่ายสูง เพราะ 
• การ ออนไลน์ ผ่านอุปกรณ์ไร้สายจำพวกโทรศัพท์มือถือและ PDA มีค่าใช้จ่ายที่มากกว่าการเล่น อินเทอร์เน็ต บนเครื่องคอมพิวเตอร์แบบ PC หลายเท่า
• อุปกรณ์เชื่อมต่อ (input / output ต่างๆ ) ก็ต้องเป็นอุปกรณ์เฉพาะของรุ่นใดรุ่นหนึ่งเท่านั้น ทำให้สิ้นเปลือง

อนาคตของ m-learning
 เนื่องจากข้อด้อยของการเรียนรู้แบบ m-learning อุปกรณ์ไร้สายส่วนมากมีหน้าจอเล็ก , การประมวลผลช้า ,หน่วยความจำที่จำกัดและน้อยกว่าในเครื่องคอมพิวเตอร์ PC และ มีค่าใช้จ่ายที่สูงมากหากเทียบกับการเรียนรู้ทางไกลแบบอื่นๆ (d-learning และ e-learning) ข้อจำกัดเหล่านี้ทำให้การพัฒนาวิธีการเรียนรู้โดยผ่านโทรศัพท์มือถือ และ PDA นั้นอาจเติบโตได้ช้า แต่หากเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาจริงๆ การเรียนแบบนี้ ก็จะเอื้อประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการเรียนและสำหรับผู้ที่มีปัญหาในการเข้าสังคม เรียกได้ว่าเป็นการขยายโอกาสการเรียนรู้ให้กว้างขวางขึ้น ซึ่งคาดว่าคงอีกไม่นานที่ผู้พัฒนาทั้งหลายจะสามารถผลิตอุปกรณ์ไร้สายที่เหมาะสำหรับการเรียนและวิธีการเรียนที่มีประสิทธิภาพได้

ที่มา :  http://blog.prachyanun.com/view.php?article_id=122

แหล่งค้นคว้าเกี่ยวกับ M-learning
http://www.m-learning.org/  ข้อมูลจะเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
http://internet.se-ed.com   ให้ข้อมูลเป็นภาษาไทย

คำสำคัญ (Tags): #m learning
หมายเลขบันทึก: 547774เขียนเมื่อ 9 กันยายน 2013 15:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 กันยายน 2013 15:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

บ้านเราก็มีนะครับ

แต่คนใช้มักจะใช้ผิดวัตถุประสงค์

อาจารย์มาเขียนบ่อยๆนะครับ

ดีใจที่พบครูภาษาอังกฤษจากห้วยยอด

อยากให้อาจารย์มาเขียนเรื่องการเรียนการสอนภาษาอังกฤษบ้างครับ

เอามาฝาก

Flipped classroom ห้องเรียนกลับทาง(1)

ค่ายภาษาอังกฤษผู้บริหาร สพป.นครปฐมเขต 2 (2)

ขอบคุณคุณขจิต  ฝอยทอง  มากคะ 

ชื่อคุ้น ๆ เหมือนเคยเจอเห็นที่ไหน แต่นึกไม่ออก โทษทีนะคะ 

พอดีกำลังค้นคว้าหาความรู้เรื่องนี้อยู่คะว่ามันคืออะไร เอาไปใช้ได้อย่างไร 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท