หากใช้ PAR มาประยุกต์ในการทำงานปกติต้องทำอย่างไรบ้าง


ข้อดีข้อเสียของรูปแบบทั้ง 3 รูปแบบ แตกต่างกัน

     สืบเนื่องจาก จะนำ PRA มาใช้ใน PAR ให้แยบยลได้อย่างไร, PRA ดีไม่ดีอย่างไร และ หลักการของ PRA

          ส่วนการใช้ PAR มาประยุกต์ในการทำงานปกติ (แบบทำงานไปด้วย วิจัยไปด้วย อย่างที่คุณลูกหมูอ้วน สนใจ) จะมีรูปแบบหรือกระบวนการอย่างไรบ้าง เอาเป็นว่าผมลองยกมาสัก 2 – 3 อย่างก่อนนะครับ
          อย่างแรก คือ เอาปัญหาหนัก ๆ ของชุมชน (บางทีนักวิจัยหรือนักพัฒนาเอามาใส่เข้าไปในชุมชนเองก็ได้ แต่ต้องเป็นปัญหาในกระแสสังคม เช่นปัญหายาเสพติด) มาตั้งเป็นปัญหาเดียว เพื่อเป็นโจทย์เลย แล้วดำเนินการต่อปลาย หรือนำการเชื่อมโยงไปยังปัญหาอื่น ๆ ที่หลัง
          อย่างที่สอง คือ นำเอาปัญหาที่ชุมชนเห็นว่าเป็นปัญหาส่วนบุคคล ไม่ใช่ปัญหาของชุมชน แต่เป็นปัญหาที่รุนแรง มาดำเนินการเป็นโจทย์เริ่มต้น อย่างเช่นปัญหาโรคเอดส์ จากนั้นก็ดำเนินการต่อปลาย ต่อข้าง หรือนำการเชื่อมโยงไปยังปัญหาอื่น ๆ ทีหลัง เหมือนอย่างแรก
          อย่างที่สาม คือ ไม่มีการกำนดปัญหาใด ๆ ขึ้นมาก่อน รอให้ชาวบ้านหรือชุมชนเลือกเอง โดยให้ผ่านกระบวนการระบุ ผ่านกระบวนการวิเคราะห์ ของชุมชนเอง ในที่สุดก็จะได้ปัญหาที่รุนแรงอย่างน้อย 1 ปัญหาขึ้นมา ที่เกิดจากสมาชิกของชุมชนเห็นพ้องต้องกันว่าต้องได้รับการแก้ไข
          จะเห็นได้ว่าข้อดีข้อเสียของรูปแบบทั้ง 3 รูปแบบ แตกต่างกัน หากใครเห็นว่าอย่างไร จะได้ต่อท่ายไว้ในข้อคิดเห็นนะครับ

หมายเลขบันทึก: 5477เขียนเมื่อ 17 ตุลาคม 2005 07:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มีนาคม 2015 08:30 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท