๑๗๕. มารยาทในสังคมการทำงาน


         สำหรับบางคนอาจคิดว่า "เป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ" แต่ความเป็นจริง "มันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ" แต่ปัจจุบันในสังคมรุ่นใหม่ไม่ค่อยให้ความสำคัญ...สังเกตได้จาก เด็ก ๆ ที่มีอายุน้อย ๆ คิดจะทำอะไรกันก็ทำ ไม่แคร์ความรู้สึกของผู้อาวุโสกว่า เพื่อนบางคนทำงานพลาดก็แสดงอาการยิ้มเยาะ แอบซุบซิบบ้าง การนินทาหรือแทงคนข้างหลังบ้าง...ทำให้เห็นถึงความเสื่อมทางด้านสังคมการทำงาน ถ้าพูดถึงสมัยก่อนในช่วงที่ผู้เขียนยังเป็นเด็ก ๆ เข้าทำงานใหม่ จะทราบทันทีว่าไม่ควรทำกิริยาดังกล่าวข้างต้น เพราะในเบื้องต้นผู้เขียนก็ได้เรียนตามที่โรงเรียนหรือวิทยาลัยบรรจุเข้าไว้ในหลักสูตรด้วยแล้ว จึงทำให้ผู้เขียนทราบว่าสิ่งใดควรทำและไม่ควรทำ...มา ณ ปัจจุบันสังคมเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินไป จึงทำให้เห็นภาพต่าง ๆ ที่กล่าวมา ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ไม่ควรเกิดขึ้นในที่ทำงานเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้คนทำงานร่วมกันไม่มีความสุข

มารยาทที่ควรปฏิบัติในสังคมการทำงาน  :

         ๑. รู้จักทักทายผู้อื่น สบตาและยิ้มอย่างเป็นมิตร ทักทายด้วยใจจริง

         ๒. ต้องเก็บความลับเรื่องเงินเดือนไว้ เรื่องนี้เป็นมารยาทที่คนไทยไม่ค่อยมี คือ เรื่องรักษาความลับ เพราะความอยากรู้ อยากเห็นที่มักชอบจะถามเรื่องเงินเดือนที่ได้รับ เหตุที่อยากรู้เพราะต้องการนำมาเปรียบเทียบกัน และจะนำไปสู่ทุกข์ในใจเรา

         ๓. ต้องขออนุญาตทุกครั้งที่ลา ขอความช่วยเหลือ ขอความเป็นส่วนตัว ขอใช้ทรัพย์สินของผู้ร่วมงานและขอใช้สิทธิที่ไม่ได้รับอนุญาต

         ๔. ถ้าทำผิดก็ต้องขอโทษ ต้องมีศิลปะในการใช้ภาษาและท่าทางอย่างดี

         ๕. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ร่วมงาน คิดบวก รักษาความลับ ศึกษาผู้บังคับบัญชาที่สูงกว่า เรียนรู้ผู้อื่นและทำความเข้าใจ

         ๖. พัฒนาตนเองโดยไม่คำนึงถึงผลตอบแทนจนมากเกินไป

มารยาทที่ควรหลีกเลี่ยงในสังคมการทำงาน  :

         ๑. การขอให้ผู้อื่นทำงานแทนโดยไม่ได้แจ้งให้หัวหน้าได้ทราบล่วงหน้า

         ๒. การตำหนิผู้อื่นโดยตรงต่อหน้าผู้อื่น ทำให้ได้รับความอับอาย

         ๓. การนินทาหรือแทงคนข้างหลัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือส่วนตัว

         ๔. การทำเป็นเข้าใจ แต่ไม่เข้าใจ ซึ่งจะนำพาไปสู่การทำงานที่ผิดพลาด

         ๕. การหัวเราะในความผิดพลาดของผู้อื่น โดยคิดว่าตัวเองจะไม่มีทางทำงานผิดพลาด

         ๖. การทำตนเป็นผู้หวังดีแต่จิตใจประสงค์ร้าย

         ๗. การเป็นคนขี้ขลาด ไหลไปตามสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

         ๘. การมีอคติระหว่างผู้ร่วมงาน ปะปนเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว

         ๙. การไปทำงานสาย โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

         สำหรับเด็กยุคใหม่ที่ทำงานอยู่ ควรรู้และนำไปปฏิบัติด้วยค่ะ เพราะจะทำให้การทำงานอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข...สิ่งสำคัญของการทำงานร่วมกัน นั่นคือ..."การให้เกียรติซึ่งกันและกัน" สมัยนี้หาดูยากมาก ๆ ค่ะ...

 

 

หมายเลขบันทึก: 547435เขียนเมื่อ 4 กันยายน 2013 22:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 กันยายน 2013 22:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

...ขอบคุณค่ะ...ต้องพยายามปรับปรุงในเรื่องการหัวเราะ...เพราะมักจะขำเวลาที่คนอื่นทำผิด...2วันก่อนเห็นคนเดินชนประตูกระจกที่ปิดอยู่ก็นึกขำ(ยังดีที่่ยิ้มๆไม่ได้หัวเราะออกมา)...ไม่ได้คิดว่าเขาโง่ที่มองไม่เห็น...แต่มีความรู้สึกว่าตลกดีเท่านั้น...ซึ่งไม่ถูกต้องนะคะ...

ขอขอบคุณสำหรับดอกไม้กำลังใจจากทุก ๆ ท่านค่ะ

และขอขอบคุณ ดร.พจนา  ค่ะ บางครั้งเรื่องที่เราคิดว่า เป็นเรื่องเล็ก แต่อาจเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบค่ะ บางคนก็ไม่ทราบว่า กิริยาแบบนี้ คือ การแสดงมารยาทในสังคม ซึ่งตอนนี้อ่อนด้อยไปมากค่ะ ขึ้นอยู่กับพวกเราทุกคนต้องร่วมกันแก้ไขแล้วค่ะ เพราะไม่เช่นนั้น เราจะเห็นอะไรที่ไม่มีมารยาทในสังคมอีกมากมายค่ะ

มีประโยชน์ค่ะ อ่านแล้วพิจารณาตนเองคิดว่าใช้ได้ แต่คนรู้จักหรือเพื่อนร่วมงานที่ทำแบบไม่ถูกไม่ควรกับเราก็พอมี

ถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทเราก็ไม่เจ็บ แค่รู้แล้วระวังตัว

สำหรับคนเป็นหัวหน้า ชอบของบิ๊กจ๊อดง่าย ๆ คือ ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อนค่ะ

ถูกต้องค่ะ คุณ GD เป็นหัวหน้าคนต้องไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนายและก็ต้องไม่ขายเพื่อนค่ะ จึงจะเป็นผู้นำที่ดีและมีคุณธรรมไงค่ะ

ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท