Cambodia


เที่ยวกัมพูชา เยือนปราสาทโบราณ ซัมซับวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ เพื่อนบ้านชาวเขมร

เที่ยวกัมพูชา ช่วงสงกรานต์ 13-15 เมษายน 2556

   ครั้งนี้เดินทางไปกับทัวร์ด้วยเหตุการณ์เจ็บป่วยของคุณสามีที่ขายังไม่แข็งแรง  ตอนแรกที่คิดไปเที่ยวที่นี่เพราะไม่รู้จะไปไหน  อยากไปไหนก็ได้ช่วงวันหยุดสงกรานต์  ก็เลยเปลี่ยนบรรยากาศด้วยที่นี่ซะเลย  หนีร้อนเมืองไทย ไปเจอร้อนกว่าที่กัมพูชา  ช่วงที่ไปก็เป็นช่วงที่กำลัง hot เกี่ยวกับการขึ้นศาลโลกของไทยกับกัมพูชาเลยค่ะ  บอกตรงๆ ว่าไม่เคยเกลียดคนเขมร (แต่ไม่ชอบคนไทยหัวใจเขมร)  ยิ่งไปได้เห็นว่าจริงๆ แล้วพวกเค้าอยู่กันยังไง ยิ่งน่าเห็นใจมากเลยค่ะ ทริปนี้ไปกัน เด็ก 1 ผู้ใหญ่ 2 ค่ะ

   ครั้งนี้เราไปทัวร์ของบริษัทไทยสไมล์อีโคทัวร์ ด้วยราคามิตรภาพมากเลยประมาณสี่พันกว่าบาท อันที่จริงแล้วเป็นราคาที่ไม่ต้องจ่ายอะไรอีกแล้ว แต่ปรากฏว่าหลังผ่านด่านที่ปอยเปต ไกด์ได้เรียกเก็บเงินเพิ่มอีกคนละ 300 บาทสำหรับเป็นค่าผ่านด่านแบบ VIP งงมาก แต่ก็จ่ายไปเพราะว่าไม่รู้จะทำยังไงล่ะ  เค้าขอเก็บเราก็ให้สิ  ยังมีอีกค่ะเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่จะไปกับทัวร์  คือว่าเราก็จองทัวร์กันทางโทรศัพท์และโอนเงินไปก่อนคนละ 1000 บาทรวมเป็น 3000 บาท  ที่เหลือให้จ่ายวันเดินทาง  บริษัทก็แจ้งรายละเอียดว่าใกล้ๆ วันเดินทางเดี๋ยวไกด์จะโทรมาติดต่องั้นงี้  ปรากฏว่าอีก 3 วันจะเดินทาง ยังไม่มีผู้ใดโทรมาเลย  เราก็เลยโทรไปค่ะ  เค้าก็บอกว่าอ้าว ไกด์ยังไม่โทรหาพี่อีกเหรอ  ก็งั้นสิ  เค้าก็บอกว่า เดี๋ยวหนูจะติดต่อไกด์ให้โทรหาพี่ด่วนเลย ขอเบอร์โทรไปใหม่อีก  ไกด์ก็เงียบ ไม่มีวี่แวว  ก่อนวันเดินทางเราก็โทรไปบริษัทอีก  ทางบริษัทก็ยืนยันว่าทัวร์มีแน่นอน  จะให้ไกด์โทรหาเช่นเดิม ก็เงียบอีก  คือสรุปว่าไม่มีผู้ใดติดต่อเรา  แม้ว่าเราจะโทรไปยังบริษัทนั้นอีกประมาณ 3 ครั้งและจนกระทั่งจะเดินทางพรุ่งนี้อยู่แล้ว ก็ยังไม่มีไกด์โทรมา  จนกระทั่งเกือบ 5 โมงของวันก่อนเดินทางเราก็ได้เบอร์โทรไกด์มาจากบริษัททัวร์ และเป็นคนโทรไปหาไกด์เอง  เริ่ดมากเลยค่ะ ประทับใจตั้งแต่ยังมิเริ่มเดินทาง...ช่างมันเถอะ คิดไรมาก

   เริ่มเดินทางจากประเทศไทยโดยรถบัสของบริษัททัวร์ แวะกินอาหารเช้าที่ปั๊มที่ไหนซักที่นึง

ไปถึงตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว ก็ลงจากรถเพื่อมารอเอกสารกัน รออย่างตั้งใจมากเลยค่ะ รูปนี้

สักพักก็ให้เดินไปยังด่านปอยเปตเพื่อผ่าน ตม. แล้วก็เปลี่ยนไปขึ้นรถบัสของกัมพูชา เพื่อเดินทางต่อไปยังเสียมเรียบ

ซุ้มประตูฝั่งไทย อลังการ...

ท่าบริหารเวลาปวดขาของคุณสามี...

เดินผ่านด่านไปก็เจอเลยค่ะ ขอทานเขมร

เดินข้ามกันแบบนี้เลยค่ะ

ซุ้มประตูเข้าเมืองกัมพูชา อลังการไม่แพ้กันเลย  สองข้างทางก็จะเป็นโรงแรมที่มีคาสิโน  หรูอยู่ค่ะ

รถขายขนมปังบาแก้ด  น่ากินจัง

 

   สภาพบ้านเมืองของกัมพูชาก็คล้ายกับชนบทบ้านเรา  มีการประดับธงชาติตามสถานที่ต่างๆ แต่สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้ก็คือว่า จะพบรูปของพระมหากษัตริย์ของกัมพูชาไม่มากนัก ไม่ว่าจะตามถนนหนทาง ตามป้าย ตามร้านอาหาร ภัตตาคาร  นั่นสิ ไม่มีที่ไหนอีกแล้วที่ประดับรูปพระมหากษัตริย์ไว้เคารพบูชามากเท่าเมืองไทย ขอพระองค์ทรงพระเจริญ...

 

 

 

ระหว่างทางก็จะมีจุดแวะพักให้เข้าห้องน้ำ  เป็นร้านขายของที่ระลึก พวกหินแกะสลักต่างๆ มีกล้วยฝานบางๆ ปิ้ง กลิ่นหอม รสชาติอร่อยมากค่ะ 20 บาท

 

   อาหารกลางวันกินที่ภัตตาคารในกัมพูชา อาหารหลายอย่างมาก  จากนั้นเดินทางต่อไปยังโตนเลสาบ ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ระหว่างการเดินทางไปยังโตนเลสาบ ก็ได้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนชนบทในเขมร  บ้านของคนเขมรเป็นที่อยู่ที่เป็นคำนิยามของคำว่าบ้านจริงๆ 

 

 

   มาถึงก็จะรอลงเรือเพื่อไปยังโตนเลสาบ จะเห็นเด็กเล็กๆ ที่ควรจะเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียน มาช่วยงานบนเรือนักท่องเที่ยว ถ้าจะทิปก็ให้ทิปเด็กพวกนี้ดีกว่าให้เงินขอทานนะคะ

 

   สีของน้ำเป็นสีเหมือนโอวัลติน เป็นน้ำโคลนสีแดงค่ะ  คนที่นี่อยู่กันบนน้ำ  ขณะอยู่บนเรือนั่งดูทิวทัศน์อยู่ คุณลุงคนนึงในคณะที่มาคุยด้วยก็พูดออกมากว่า “รู้สึกดีใจมากเลยที่เกิดมาแล้วมีแผ่นดินอยู่” เราเพิ่งได้รู้ได้เห็นนี่แหละว่า มีคนอีกกลุ่มที่เค้าไม่มีแผ่นดินอยู่กัน  ขณะอยู่บนเรือ ก็จะมีคนขับเรือมาขอทาน  เด็กเล็กๆ เอางูมาพาดคอเพื่อเรียกร้องความสนใจ  ไม่ก็พายกาละมัง มาเกาะขอบเรือ เพื่อขอทาน

 

 

 

  ตอนเย็นได้แวะไปสักการะ องค์เจ็ด  องค์จอม  พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวเสียมเรียบมาช้านานและเป็นที่เคารพนับถือของคนเขมร

 

กลับมากินอาหารเย็น แล้วก็เข้าโรงแรม  โรงแรมที่กัมพูชานี่ไม่ธรรมดานะคะ มีแบบหรูๆ อยู่เยอะเลย  ช่างขัดกันเหลือเกินกับบ้านหลังเล็กๆ ที่อยู่ข้างๆ โรงแรม

   มาแล้วค่ะ โปรแกรมทัวร์ปราสาทต่างๆ ที่เคยใฝ่ฝันว่าจะมาเยือนสักครั้ง  หลายๆ คนที่อายุอานามก็เลยวัยกลางคนมาแล้วคงจะนึกออกว่า ตอนเด็กๆ ปราสาทที่เขมรที่ชื่อว่านครวัด นครธม เป็น 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกเลยทีเดียว ตอนแรกสุดต้องไปถ่ายรูปทำบัตรผ่านเข้าชมประสาทเสียก่อน  ไกด์ก็แนะนำว่าตอนไปยืนถ่ายรูปให้ยิ้มน้อยๆ เรียกว่ายิ้มแบบ บายน เราก็ไปต่อแถวเพื่อทำบัตรผ่านประตูกันค่ะ ช่วงเทศกาลสงกรานต์นักท่องเที่ยวมีจำนวนค่อนข้างมาก เค้าก็คงจะมาเที่ยวกันวันหยุดเหมือนกับเรานี่แหะ  แดดดีมากเลยค่ะ คงไม่ต้องบอกว่า อากาศตอนนั้นเป็นยังไง...

เนื่องจากเป็นเทศกาลของชาวเขมรเหมือนกัน จึงมีการปิดถนนหลายสายเพื่อจัดงานเฉลิมฉลอง  เราจึงต้องเปลี่ยนจากรถบัส เป็นรถสกายแลบ ก็คือเป็นมอไซค์และมีมีรถพ่วงด้านหลังนั่งกันได้ประมาณ 4 คน  ไกด์แจกผ้าปิดจมูกด้วยเผื่อว่าจะเจอฝุ่น  และแจกหมวกกันแดด  ผ้าพันคอสีชมพูเหมือนกันหมู่คณะกันหลง  พอใส่เต็มยศแล้วก็จะเป็นแบบนี้

ระหว่างการเดินทางก็สังเกตุสิ่งต่างๆ ทุกอย่างมีเหมือนบ้านเราเลยค่ะ มีร้านขายของ มีรถขายทุเรียน

 

   เริ่มต้นที่ปราสาทนครธม หรือเมืองพระนคร เป็นปราสาทหินที่มีหินสลักรูปใบหน้าอยู่เต็มไปหมดเลยค่ะ  วันนี้ที่เราไปเป็นวันปีใหม่ของชาวเขมรเหมือนกัน ก็เลยมีพิธีไหว้ ของไหว้ แบบนี้อยู่ตรงทางเข้าเลยค่ะ

 

ต่อไปเป็นวิวชุดใหญ่ของปราสาทนครธมค่ะ  สวยงามมาก ฟ้าเปิด แดดดี แสงสวย เสียอย่างเดียว ร้อนมั่ก

 

 

   สักพักทัวร์ก็พาเราออกมาด้วยพาหนะเดิม  มุ่งหน้าต่อไปยังปราสาทตาพรหม  ตามมาเลยค่ะ

 

ทางเข้าปราสาท  ตะวันสาดแสงเป็นสายเลยค่ะ

ปราสาทนี้เค้าเด่นเรื่องความเก่าแก่และต้นไม้สูงใหญ่ที่มีรากปกคลุมลงมายังตัวปราสาท  สวย  แปลกตา  ค่ะ

 

 

   ต่อไปเป็นปราสาทบันทายสรี  ซึ่งเป็นปราสาทกลุ่มเล็กๆ ที่สร้างด้วยหินทรายสีชมพู  ตอนที่ไปอากาศร้อนมั่กๆ ร่มอันเล็กๆ ช่วยได้ค่ะ  ก่อนที่จะได้เข้ายังปราสาทต่างๆ จะมีเจ้าหน้าที่ชาวเขมรตรวจบัตรผ่านว่ารูปบนบัตรเหมือนกันคนที่จะเข้าหรือเปล่า พวกเขาจะพูดคำว่า “ฉัดโบ ฉัดโบ”  แปลว่า  “โชว์บัตร” ค่ะ

กลุ่มประสาทแห่งนี้น่ารักสวยงาม เหมือนหญิงสาวเลยค่ะ

 

สองพ่อลูกคู่นี้พากันยืดขาแก้เมื่อยอยู่หน้าปราสาทเลย

 

   และสุดท้ายที่ปราสาทนครวัด  กว่าจะเดินเข้าไปถึงตัวปราสาทก็ไกลเอาการอยูค่ะ นี่เป็นทางเดินเข้าด้านนอกเท่านั้น  ยังไม่ถึงสะพานเดินเข้าปราสาทเลยค่ะ  แค่เห็นก็เหนื่อยละ

 

ทางเดินเข้า และผู้คน  เดินไปก็คิดไปว่า  คนโบราณก็ใช้เส้นทางนี้เดินเข้าปราสาทเหมือนกัน ผ่านด่านแรกแล้วอย่าคิดว่าจะเจอปราสาทนะคะ  ต้องเดินเข้าไปอีกค่ะ

เข้าไปเดินด้านในเก่าแก่ อลังการมากเลยค่ะ คนสมัยโบราณเขาสร้างสิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้ยังไงกันหนอ

 

ต่อแถวขึ้นด้านบนปราสาท  อ้อ เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีขึ้นไม่ได้นะคะ เค้าไม่อนุญาต เจ้าลูกชายบอกว่า เดี๋ยวตอนอายุ 12 เค้าจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง น่าสงสารจังต้องนั่งรอกะไกด์อยู่ด้านล่าง พ่อกับแม่ขอขึ้นไปดูข้างบนก่อนนะจ๊ะ  สูงเอาการนะคะเนี่ย 

ด้านบนก็สวยงามไม่แพ้กันเลยค่ะ มีนางอัปสรามากมาย  แหม ถ้าเรามาเอง  จะอยู่ดูถ่ายรูปนางอัปสราให้ครบทุกตนเลย  เสียดายจัง เดินสักแป๊ปเดียวก็ได้เวลาที่จะต้องลงไปแล้วค่ะ

 

 

 

   กลับโรงแรมกันแบบอ่วมซะทีเดียวเชียวค่ะ คืนนี้พวกเราก็เลยหนีกรุ๊ป ที่มีงานเลี้ยงร้องเพลงคาราโอเกะกัน ไปตลาดถนนคนเดินของเสียมเรียบค่ะ  เรียกรถสกายแล็บ ไปกันเองโดยความช่วยเหลือของไกด์ชาวเขมร  ค่ารถเที่ยวละ 200 บาท เงินไทยเค้าก็รับนะคะ นั่งไป 4 คน หารกันก็คนละ 50 บาท  บรรยากาศเป็นแบบนี้เองค่ะ

ดูเหมือนการเอาเท้าแช่ในอ่างปลา  ในอ่างก็จะมีปลาตัวเล็กๆ คล้ายๆ สปาเท้า กำลังเป็นที่นิยมของที่นี่ค่ะ

นวดก็มีนะคะ

แวะเข้าซุปเปอร์มาเก็ตซื้อนมให้ตัวเล็ก  โอ้โห  ราคาติดเป็นดอลลาร์ค่ะ  แต่จะจ่ายเป็นเงินไทยก็ได้  เค้าจะคำนวณให้เราเสร็จเลย  ดีนะ ติดดอลลาร์ไปนิดหน่อย เลยได้ซื้อพอเป็นประสบการณ์

มีร้านขายของที่ระลึกอยู่หลายร้านเหมือนกันค่ะ ของที่ระลึกส่วนใหญ่ก็จะเป็นหินแกะสลัก หรือพวกของที่ทำจากไม้ เป็นรูปหน้าบายน หรือรูปนางอัปสรา นี่ค่ะเจ๋ง โมเดล นครวัด แต่ทำจากหินค่ะ หนักมั่ก ราคาก็สูงตามน้ำหนักซะด้วย

 

   อีกเรื่องที่อยากเล่าก็คือ วันสุดท้ายก็ได้แวะยังวัดที่มีหัวกะโหลกของคนเขมรสมัยที่มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์  เป็นวันที่เขย่าความรู้สึกมาก  เพราะผู้เขียนเป็นพวกอ่อนประวัติศาสตร์ มิได้เคยสนใจประวัติศาสตร์เพื่อนบ้านว่าเค้ามีเหตุการณ์สำคัญอะไรบ้าง  สิ่งทีได้รับรู้ในวันนี้ทำให้ถามตัวเองว่า เราไปอยู่ไหนมานิ ถึงไม่รู้เลยว่ามีเรื่องโหดร้ายเช่นนี้เกิดขึ้นกับคนเขมร  ทำให้สิ่งแรกที่กลับมาถึงบ้านก็คือ เข้าไปค้นคว้าประวัติศาสตร์ช่วงที่เขมรมีการปฏิวัติฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มาอ่านศึกษา  น่าสงสารคนเหล่านั้นจริงๆ  ทำให้มาคิดอีกแล้วว่า  โชคดีจังที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย  เกิดผิดไปนิดเดียวนี่มีชะตากรรมแบบนี้แน่ๆ เลย 

 

สำหรับทริปนี้ก็จบลงด้วยดีค่ะ เหนื่อยปนความประทับใจ ถึงจะเป็นประเทศเล็กๆ แต่เนื้อในก็ไม่เล็กนะคะ เจอกันทริปหน้าค่ะ

คำสำคัญ (Tags): #กัมพูชา#นครวัด
หมายเลขบันทึก: 547429เขียนเมื่อ 4 กันยายน 2013 21:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 กันยายน 2013 22:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ขอบคุณมากๆครับ

น่าไปเที่ยวมากๆๆๆๆๆๆ

...ขอบคุณภาพที่บอกเรื่องราวได้ละเอียดมากๆนะคะ

 

..... ขอบคุณภาพถ่าย สวยๆ ค่ะ...

เยี่ยมมากค่ะ หากจะไปจะได้เตรียมรับมือได้ถูกต้อง

ภาพสวยครับ....ยกนิ้วให้ช่างภาพครับ

เคยไปกับบริษัทนี้เหมือนกันตอนนี้ไปเที่ยวเหนือ นานแล้วครับเกิน10ปีแล้วมั้งครับ

รู้สึกว่าจะเจอคล้ายๆ กัน

แต่ไม่ถึงกับกระชั้นชิดมากขนาดนี้

แถมคนขับรถ ขับเร็วมากผู้โดยสารพากันเสี่ยว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท