"จิตประภัสสร" ... (แด่ลมหายใจ...ที่ไม่เคยรู้สึก : ดร.ปภัสสร กิมสุวรรณวงศ์)


 

จิตประภัสสร

 

ประภัสสร แปลว่า สว่างไสว เจิดจรัส บริสุทธิ์ ปราศจากความขุ่นมัว
เดิมทีจิตใจของคนเรานั้นมีความสว่างใส
ปราศจากความโลภ ความโกรธ ความหลงใด ๆ ทั้งสิ้น
เป็นจิตที่บริสุทธิ์หรือจิตประภัสสร ไม่มีสิ่งใดมาเจือปนให้หมองมัว
แต่เมื่อเวลาผ่านไป จิตถูกครอบงำด้วยกิเลส
จิตที่เคยใสสะอาดบริสุทธิ์ก็เริ่มขุ่นมัว
ขุ่นมัวไปด้วยความโลภ ความโกรธ ความหลง
หรือแม้กระทั่งความอยากจนเกินพอดี
สิ่งเหล่านี้ค่อย ๆ เข้ามาครอบครอง ซึมซับเข้าไปในจิตใจโดยที่เราไม่รู้ตัว
นานวันจิตที่ขุ่นมัวด้วยกิเลสก็เริ่มแผลงฤทธิ์
ทำให้เราสามารถทำทุกอย่างได้ตามแต่ใจต้องการ
โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อผู้อื่นหรือผลลัพธ์ที่จะตามมา
ที่สังคมวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้
อาจเพราะส่วนหนึ่งเกิดจากสภาพจิตใจทีุ่ขุ่นมัวและเจือปนไปด้วยกิเลสนี่เอง

 

โลภ

อยากได้ทุกสิ่ง
ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นของใครก็ตาม
ความโลภสั่งใหัคนตะเกียกตะกายเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ
เมื่อได้สิ่งนั้นก็สุขใจ
หากไม่ได้ก็ทุกข์ใจ

 

โกรธ

ความโกรธมักติดตามด้วยความโมโห อาละวาด อาฆาต เคียดแค้น
พร้อมที่จะทำร้ายทุกสิ่งที่ทำให้โกรธ
อารมณ์โกรธที่รุนแรงนี้หากไ่ม่มีสติกำกับแล้ว
มักก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้คนรอบข้างได้

 

หลง

หลงในรูปร่าง หน้าตา กลิ่น สี เสียง สัมผัส
อันเป็นสาเหตุให้เราทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่หลง
เช่น หลงคนรักจนมองไม่เห็นข้อบกพร่องของคนรัก
กระทำทุกวิถีทางเพื่อได้คนคนนั้นมาครอบครอง

 

กิเลสหรือสิ่งที่ทำให้จิตใจขุ่นมัวนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน
ทุกเวลา
ทุกสถานที่
และทุกโอกาส
สั่งสมพอกพูนมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้ตัว
จนกลายเป็นบ่อเกิดแห่งทุกข์ ความเร่าร้อนใจ
เมื่อกิเลสย้อมใจจนขุ่นมัวมากขึ้น
ก็เหมือนผ้าที่แช่อยู่ในน้ำโคลนตม เ่น่าเปื่อย
ใจที่เคยสดใสกลับกลายเป็นรังของความทุกข์ ความเศร้าหมอง
ผู้ที่มีจิตใจเต็มไปด้วยกิเลสมักจะหาความสุขไม่ค่อยได้
สุขอยู่ได้ไม่นานก็ต้องกลับมาทุกข์อยู่เรื่อยไป
เพราะจิตใจบ่มเพาะไปด้วยความโลภ ความโกรธ ความหลง
แล้วจะเป็นเช่นนี้ตลอดไปหรือ?

ไม่

แล้วต้องทำอย่างไร ถ้าหากต้องการมีความสุข
ล้างใจสิ!
ล้างใจให้ใสสะอาด
ให้ความโลภ ความโกรธ ความหลง ค่อย ๆ จางไปจากใจ
เริ่มจากการมีความคิดที่ถูกต้อง (สัมมาทิฎฐิ) เห็นตรงตามสภาพความเป็นจริง
มองทุกสิ่งตามจริงโดยไม่มีอคติ และมีสติคอยกำกับ
ซึ่งจะช่วยให้เราไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง ไปกับสิ่งนั้น ๆ
เมื่อพิจารณาแล้วจะพบว่า สิ่งที่ถูกต้องคืออะไร
สิ่งไหนบ้างที่ไม่เ่หมาะสม
ไม่ไหลไปตามอำนาจของกิเลส
เมื่อจิตเริ่่มเห็นตามความเป็นจริงเมื่อใด
แสดงว่ากิเลสค่อย ๆ เริ่มหลุดออกจากใจเราแล้ว
หากหมั่นพิจารณาบ่อย ๆ ไม่นานจิตที่เคยขุ่นมัวก็จะกลายเป็นจิตประภัสสรอีกครั้ง
จิตที่ไม่ได้ัรับการฝึกมักจะถูกแรงโน้มถ่วงดึงดูดให้ตกลงสู่ที่ต่ำเสมอ
หากยังปล่อยไว้ก็จะตกต่ำ แช่อยู่ในโคลนตมเรื่อยไป
การฝึกจิตให้ฝืนแรงโน้มถ่วงจึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำอย่างยิ่ง
ฝึกฝืนจิตใจเพื่อไม่ได้กิเลสเข้ามาเกาะกุม

 

การฝืนนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
เหมือนผ้าขาวที่ฝังด้วยสิ่งสกปรก
กว่าจะขยี้ออกได้ก็เล่นเอาเหนื่อยทีเดียว
ยิ่งผู้ใดมีิกิเลสครอบงำมาก ก็เหมือนผ้าที่ดำ สกปรกมาก ต้องฝืนใจมากหน่อย
หมั่นซักหมั่นขยี้บ่อย ๆ ไม่นานกิเลสก็จะค่อย ๆ สลายไป
กลายเป็นผ้าที่ขาวสะอาดหรือเป็นจิตประภัสสรได้ดังเดิม
ผ้าที่ขาวสะอาดมีคุณค่าน่าชมฉันใด
ก็เหมือนใจที่ใสสะอาดบริสุทธิ์ฉันนั้น

 

ถ้าเปรียบกิเลสเป็นใบไม้
ใจเราก็เหมือนพื้นดินรองรับเศษใบไม้
ยิ่งใบไม้ร่วงมาก
พื้นดินก็เต็มไปด้วยเศษใบไม้
นานวันพื้นที่เคยสะอาดก็จะถูกปกคลุมไปด้วยเศษใบไม้จนมองไม่เห็นพื้น
แต่ถ้าหากเราหมั่นกวาดพื้นให้สะอาด
ถึงแม้ใบไม้จะร่วงหล่นมากเพียงใด
พื้นดินก็ยังคงเป็นพื้นที่สะอาดปราศจากเศษใบไม้เสมอ

 

เราห้ามหรือสั่งไม่ให้กิเลสเข้ามาในใจเราไม่ได้
แต่เราเลือกที่จะค่อย ๆ กำจัดกิเลสออกไปทีละน้อยได้
ปกติเรากวาดบ้านทำความสะอาดทุกวันอยู่แล้ว
อย่าลืมกวาดกิเลสในใจของเราด้วย
ถ้าขยันกวาดบ่อย ๆ
ไม่นานจิตที่เคยขุ่นมัวก็จะกลับเป็นจิตประภัสสรดังเดิม

 

................................................................................................................................................

 

การฝึกจิตให้ห้วงของกิเลส
ต้องค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป
ค่อยเรียนรู้ ค่อยค่อยฝึก

เพียงรู้ ดูให้เห็น
แล้วค่อยวางทีละน้อย

มองทุกอย่างตามสภาพความเป็นจริง
เมื่อพื้นสะอาด ทุกสิ่งอย่างก็จะสะอาดตามมา

บุญรักษา ทุกท่านครับ ;)...

 

 

..............................................................................................................................................

ขอบคุณหนังสือดี ๆ ...

ปภัสสร กิมสุวรรณวงศ์.  แด่ลมหายใจ...ที่ไม่เคยรู้สึก.  กรุงเทพฯ : สยามปริทัศน์, ๒๕๕๖.

 

หมายเลขบันทึก: 547172เขียนเมื่อ 1 กันยายน 2013 16:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 กันยายน 2013 17:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

จิตประภัสสร 

ตามความเข้าใจผม ผู้ที่มี จิตเป็นประภัสสร ผู้นั้นถึงนิพพาน แล้ว........ 

ยังไม่กระจ่างนัก พยายามจะกระจ่างให้ได้ในเร็ววันค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ถ้าเปรียบกิเลสเป็นใบไม้
ใจเราก็เหมือนพื้นดินรองรับเศษใบไม้
ยิ่งใบไม้ร่วงมาก
พื้นดินก็เต็มไปด้วยเศษใบไม้
นานวันพื้นที่เคยสะอาดก็จะถูกปกคลุมไปด้วยเศษใบไม้จนมองไม่เห็นพื้น
แต่ถ้าหากเราหมั่นกวาดพื้นให้สะอาด
ถึงแม้ใบไม้จะร่วงหล่นมากเพียงใด
พื้นดินก็ยังคงเป็นพื้นที่สะอาดปราศจากเศษใบไม้เสมอ

ชอบมากเลยครับ อาจารย์วัต ครับ

ขอบคุณครับ

นานวันไป…. “จิตใจ ขุ่นมัวด้วย กิเลส” …. โลภ โกรธ หลง ….. ต้องหมั่นกวาดๆ ….และกวาด “กิเลส” ในใจออกบ่อยๆ นะคะ

ขอบคุณบันทึกดีดีนี้ค่ะ

มีเพื่อนชื่อประภัสสร แต่ไม่รู้ความหมาย รู้จากที่นี่ ความหมายดีมากสมกับเพื่อนคนนั้น                                                   

มีลูกมีหลานคนใหม่จะให้ชื่อนี้ถึงแม้จะเป็นศควรรษที่ 21 แล้วก็ตาม

ชอบแง่คิดในบันทึกนี้ค่ะ

ยินดีและขอบคุณคุณแสง แสงแห่งความดี เช่นกันครับ ;)...

ขอบคุณมากครับ พี่เปิ้น Dr. Ple ;)...

ยินดีและขอบคุณครับ ท่านอาจารย์  GD ;)...

ขอบคุณ "จิตประภัสสร"  ที่ทำให้ข้าพเจ้า  ตระหนักเตือนตน  ด้วยสติตื่นรู้  ตลอดเวลา

ÄÄ..อ่านมาว่า..นายแบ้งค์..ผู้จัดการที่มีตำแหน่งสูงๆรายได้ดีๆ..และอื่นอื่นๆในประเทศญี่ปุ่น..รวม..ตัวกัน..ไป..ขัดล้าง..ส้วม..สารธารณะ..เพื่อ..ฝึกจิต..ให้..ประภัสสร..(บ้านเรา..คงเกิด..ยากไม่มีใครอยากเอาอย่าง..อ้ะะๆ)...ยายธี

 อ่านแล้วได้เตือนตน เตือนใจ ฝึกใจ สู่การล้างใจ ขอบคุณมากค่ะอาจารย์

ยินดีและขอบคุณมากครับ คุณ ถาวร ;)...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท