ก่อนเลิกงานวันนี้ เข้าไปดูโน้ตส่วนตัวเพื่อจะส่งเป็นบันทึก มีอยู่โน้ตหนึ่งเขียนไว้เมื่อ 4 วันแล้ว ว่า...
...ทุกข์ อยากหนี ด้วยความอยาก (ชื่อโน้ต)
พอสุข กลับนิ่งเฉย อยากอยู่นิ่งๆ อย่างนี้ ทั้งสุข ทุกข์ ต่างมีความอยาก เป็นตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา...
มานั่งนึกทบทวนว่าเป็นเค้าโครงจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับอะไร ก่อนจะลบทิ้งเลยโยงเข้าเรื่องที่ผ่านมา
1.
2 ปีที่ผ่านมา...
มีความทุกข์มาก ทั้งจากเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องส่วนตัว ด้วยความเขลาจึงหาทางออกด้วยวิธีทางโลกทั่วๆไป
คงเป็นบุญเก่าที่พอจะให้รับรู้ว่านั่น ไม่ใช่ทางออกที่แท้จริง
จากการได้อ่านหนังสือเก่าเก็บที่เตรียมชั่งกิโลขาย เล่มนี้...
เป็นเป็นจุดให้เกิดความอยากที่มีคำถามในใจว่า ผ่านมากว่า 40 ปี ทำไมถึงเพิ่งพบพระธรรม ทำไมเพิ่งจะเข้าใจในธรรมของพระตถาคต จนขึ้นอยากบวช เลยทีเดียว
คงประเด็นนี้หรือเปล่าที่โน้ตได้เขียนไว้ว่า ทุกข์ อยากหนี ด้วยความอยาก
หรือนี่คือ ...ภวตัณหา...
2.
ปัจจุบัน...
ผ่านช่วงวิกฤติมาได้ หยุดการใช้ยาฉีด ไม่มีอาการข้างเคียงรุนแรง รู้สึกดีใจ ลิงโลดใจที่จะได้กับมาปกติเหมือนเดิม ไม่อยากกลับไปพบเจอกับอาการแบบนั้นอีก
หรือนี่คือ ความไม่อยาก ตามที่โน้ตไว้ว่า พอสุข กลับนิ่งเฉย อยากอยู่นิ่งๆ อย่างนี้
เป็น วิภาวะตัณหา หรือไม่
และความสุข ความดีใจ คือ...กามตัณหา... หรือเปล่า
3.
ณ ปัจจุบันขณะ ควรกลับไปอ่าน ...แก่นพุทธศาสตร์ ของท่านพุทธทาส...
อีกครั้งหรือเปล่า
................
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามและขอให้มีความสุขสงบ
ในเย็นย่ำของค่ำคืนหนึ่ง
23 สิงหาคม 2556
พ.แจ่มจำรัส
ความอยาก ไม่อยาก คือ ปกติกิเลศของสามัญมนุษย์จ้ะ รักษาสุขภาพนะจ๊ะ
อิอิ โน่น นี่ นั่น เยอะๆๆ คึกคักไว้
ได้ข้อคิดนะคะ อนิจจัง แล้วมันก็ผ่านไป
ขอบคุณค่ะ
-สวัสดีครับ..
-ตามมาละความอยากได้ อยากมี อยากโน่น อยากนี่..
-เลิกยากจริงหนอ?? ขอ ลด ละ เลิก ค่อยเป็นค่อยไป..
-ขอบคุณครับ...
"กิเลศ=ความอยาก" เป็นสิ่งที่ทุกคนเป็นค่ะ แก้ไขยาก ต้องฝึกฝน
ขอบคุณครับทุกท่าน
คุณมะเดื่อ
krutoiting
เพชรน้ำหนึ่ง
kunrapee
มันเป็นธรรมะชาติ ที่ฝึกยากน่ะครับ ที่จะรู้ทัน
...ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมะนะคะ
ความอยากเป็นสิ่งที่ไม่เคยหมดไปในช่วงชีวิตที่กำลังสร้างครอบครัว โดยเฉพาะอยากให้ลูกๆเป็นดั่งใจปรารถนา นะคะ ท่าน อิอิ