รักการอ่าน..กิจกรรมอมตะ

พูดได้ว่า..ไม่มีโรงเรียนไหนในประเทศไทย ที่ไม่ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมให้นักเรียน"รักการอ่าน" จัดกันในหลายๆรูปแบบแตกต่างกันไปตามบริบทของโรงเรียน ถ้าเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ ก็มักจะจัดกิจกรรมที่หลากหลาย ด้วยชื่อกิจกรรมที่ทันสมัยและใช้ห้องสมุดเป็นฐาน จัดบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการอ่านของเด็กได้ง่าย

โรงเรียนขนาดเล็ก ใช่ว่าจะจัดไม่ได้ แม้ว่าบางครั้งห้องสมุดอาจไม่เลิศหรูอลังการ ก็สามารถมอบหมายให้ครูประจำชั้นไปดำเนินการ หรือให้ครูวิชาการ เป็นแม่งาน และจัดได้ตลอดทั้งปี โดยไม่ต้องรอเทศกาลหรือวันสำคัญใดๆ

การอ่าน..เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยต่อยอดการเรียนรู้ จึงเห็นได้ว่า โรงเรียนใดก็ตามที่ให้ความสำคัญกับโครงการ/กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน มักจะพบภาพแห่งความสำเร็จเป็นส่วนใหญ่ ทั้งในส่วนของโรงเรียน ครูและนักเรียน...อาจเป็นเพราะว่าเมื่อนักเรียนอ่านได้ อ่านคล่อง จึงส่งผลดีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในทุกระดับ การอ่านจึงเป็นทักษะหนึ่งที่ช่วยนำพาการศึกษามุ่งสู่ "คุณภาพ"ได้

ในภาพใหญ่ของโรงเรียนที่มี"แบรนด์" คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ก่อนหน้านั้น ต้องสร้างงานอันสร้างสรรค์เกี่ยวกับการส่งเสริมนิสัย"รักการอ่าน"มาอย่างยาวนานและต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนในฝัน โรงเรียนดีศรีตำบล โรงเรียนรางวัลพระราชทาน โรงเรียนสองภาษา โรงเรียนมาตรฐาน....ฯลฯ รวมทั้งความสำเร็จในงานประกันคุณภาพภายใน ล้วนต้องอาศัยนักเรียนที่รักการอ่าน โดยมีครูเป็นผู้ส่งเสริมสนับสนุนทั้งสิ้น

ดังนั้น การจัดกิจกรรมทุกอย่าง ที่ช่วยให้นักเรียนรักการอ่าน จึงเป็นอะไรที่ทันสมัย ทันยุคทันเหตุการณ์เสมอ เรียกว่า "อมตะ" ตลอดกาล และจะอยู่คู่โรงเรียนไปอีกนานเท่านาน

พูดถึงการอ่านที่โรงเรียนบ้าง..ตอนนี้ที่โรงเรียนห้องสมุด(ขนาดจิ๋ว)ทรุดโทรมมาก งบประมาณก็น้อย แต่จะไม่คอยให้เสียเวลา ให้นักเรียนอ่านที่ศาลาท่าน้ำ(เถียงนาน้อย) โดยให้พี่สอนน้อง ตอนนี้พี่ก็จะต้องซ้อมดนตรี เพื่อต่อเพลงใหม่ ผมก็เกรงว่าน้องจะตกน้ำ จึงต้องเรียกให้ไปอ่านที่สนาม ซึ่งมีโต๊ะหินวางเรียงราย

โต๊ะหินที่ว่านี้ ก็อยู่มานานหลายปี มีอาการแตกร้าวทุกตัว จะหักพังเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ตอนนี้จึงเตรียมจัดหาเพิ่มเติม เพื่อใช้เป็นที่อ่านหนังสือใต้ร่มไม้ เป็นที่ซ้อมดนตรีได้ด้วย ถ้าได้เพิ่มอีกสัก ๓ ชุด ก็คิดว่าน่าจะเพียงพอครับ

ท่านผู้อ่านที่เคารพรักทุกท่าน..ท่านใดมีจิตศรัทธาที่จะร่วมส่งเสริมกิจกรรม"รักการอ่าน"ของโรงเรียน ผมก็ยินดีนะครับ รับบริจาคเป็นเงินเพื่อไปจัดซื้อ ซึ่งตอนนี้ โต๊ะหินชุดละประมาณ ๑,๐๐๐ บาท มีสีสันลวดลายสวยงาม คงทำให้นักเรียนอยากอ่านหนังสือมากยิ่งขึ้น นะครับ

เขียนใน GotoKnow โดย ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
ใน เรื่องเล่า....จากโรงเรียนเล็ก

คำสำคัญ (Tags): #บ้านพอเพียง#ห้องสมุดขนาดเล็ก#รักการอ่าน

หมายเลขบันทึก: 546298เขียนเมื่อ 22 สิงหาคม 2013 23:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม 2013 19:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่าน