อาม่าไซเง็ก (๑๑) พิธีไหว้ครบ ๑ ปี และ ๒ ปี
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว อาม่าจากลูกหลานไปครบ ๒ ปีแล้ว ตามปฏิทินจีน ในวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๖ ที่ผ่านมา ลองมาย้อนดูบันทึก ไม่พบบันทึก พิธีไหว้เมื่อครบ ๑ ปี แต่พบว่ามีรูปที่ถ่ายไว้บนเฟสบุ๊ค จึงถือโอกาส นำมารวมกันไว้ในบันทึกนี้ด้วย
พิธีไหว้ครบ ๑ ปี ของการจากไปของอาม่า ทำขึ้นในวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๕ ของไหว้ต่าง ๆ ก็มี พวก หมู เป็ด ไก่ ปลา อาหารต่าง ๆ ทั้งคาวและหวาน ผลไม้ต่าง ๆ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ เงินทอง เสื้อผ้า และของใช้ต่าง ๆ ที่ทำด้วยกระดาษ รวมทั้ง เสื้อจริง ๑ ตัว ที่ต้องนำมาเผาร่วมด้วย เมื่อเสร็จพิธี พวกเงินทอง เสื้อผ้า ของใช้ต่าง ๆ ที่จัดส่งไปให้ ลูกหลานจะต้องทำเครื่องหมาย โดยการพิมพ์ลายพิมพ์นิ้วมือ ลงไปบน สิ่งของเหล่านั้นทุกชิ้นก่อนที่จะนำไปเผาส่งไปให้ผู้ตาย......เชื่อกันว่าจะได้ไม่สับสนว่าถูกส่งมาโดยลูกหลานของท่านใด....เลยทำให้หลาน ๆ ของอาม่า ยกนิ้วโป้งถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก หลังจากการพิมพ์ลายนิ้วมือกันเรียบร้อยแล้ว
สำหรับพิธีไหว้ครบ ๒ ปี ของการจากไปของอาม่า ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๖ ที่ผ่านมานี้เอง ของไหว้พื้นฐานก็มีคล้าย ๆ กับการไหว้ครบ ๑ ปี และก็มักจะมีของไหว้ใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามา ตามที่ลูกหลานอยากให้อาม่าได้ชิม จึงมีของสมัยใหม่เพิ่มมาตามแต่ลูกหลานจะสรรค์หามากัน
อาม่าไซเง็ก จากพวกเราไปก่อนถึงวันสารทจีนและวันถือศีลกินเจ ๕ วัน ดังนั้นพอถึงวันสารทจีน ปีนี้ซึ่งตรงกับวันพุธที่ ๒๑ สิงหาคม ลูกหลานที่มาทำพิธีไหว้ บรรพบุรุษ ของครอบครัวเรา จึงเป็นลูกหลานที่อยู่ใกล้ ๆ ในโคราชเท่านั้น.....
ในช่วงเย็นวันสารทจีน นักเรียน สว. ยังคงขยันไปเรียนภาษาจีน ที่ ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน (กศน) ตามปกติ ครูสอนภาษาจีน เลยถือโอกาสเล่าเรื่องของประเพณีการไหว้บรรพบุรุษ ที่ทำกันในปัจจุบันในประเทศจีน และ ไต้หวัน ให้นักเรียนฟัง ผมก็เลยได้รับอนิสงส์ ได้รับทราบด้วยว่า ปัจจุบัน การไหว้บรรพบุรุษ ในประเทศจีนและฮ่องกง ทำกันน้อยลงมาก ของไหว้กลายเป็นกระดาษหมดแล้ว บางแห่งเหลือเป็นการเผากระดาษแผ่นเดียว ที่มีรูปทุกอย่างอยู่ในนั้น บางแห่งยังมีสิ่งของเครื่องใช้ที่ทำด้วยกระดาษอยู่แต่มีขนาดจิ๋ว เท่านั้น ไม่มีขนาดใหญ่เหมือนที่ทำกันในเมืองไทย และ ไม่มีการใช้ของไหว้ที่เป็นของจริงเลย......สาเหตุคงจะมาจากการสืบทอดประเพณีในประเทศจีนและฮ่องกง ถูกตัดตอนลงในช่วงประเทศจีนเกิดการปฏิวัติวัฒนธรรม ในยุคที่คนไทยเรียกว่า ยุคคอมมิวนิสต์ นั่นเอง.....เท็จจริงอย่างไร ไม่มีข้อมูลยืนยันนะครับ...ฟังเขาเล่ามาอีกที.....
เรื่องนี้ทำให้คิดต่อไปว่า.....อาจจะเกิดขึ้นได้ในประเพณีของหลาย ๆ ชาติ ที่ประชาชนที่ไปอยู่ต่างแดนเป็นกลุ่มเล็ก ๆ จะพยายามสืบทอดประเพณีและวัฒนธรรมของตนให้ลูกลาน ในขณะที่คนในชาติเองกับให้ความสนใจในเรื่องนี้น้อย ทำให้ในระยาว ประเพณีหรือวัฒนธรรม ของทั้ง สอง ที่จึงมีความแตกต่างกัน.....เลยคิดเล่น ๆ ไปถึงประเพณีบางอย่างของไทย เช่น การลอยกระทง.....ในเมืองไทยตอนนี้ เริ่มมีการส่งเสริมการลอยกระทงออนไลน์ กันมากขึ้น....ต่อไปอาจเหลือแค่ การลอยกระทงออนไลน์ โดยไม่มีการลอยกระทงจริง ๆ เหลืออยู่ ในประเทศไทยก็ได้.....ถ้าอยากดู ประเพณีลอยกระทงจริง ต้องไปดูที่ แอลเอ ประเทศสหรัฐอเมริกา.......เช่นเดียวกับประเพณีไหว้บรรพบุรุษ ที่คนจีนในประเทศจีน ต้องเดินทางมาดูที่เมืองไทย ในปัจจุบัน.....หวังว่าจะไม่เกิดอย่างที่คิดนะคร๊าบ.....
ความเห็น (1)
555 ไม่แน่นะคะ อีกหน่อยอาจจะมีการ ไหว้แบบ online จริงๆ ก็เป็นได้นะคะอาจารย์