งานดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง(palliative care)จากแนวคิดของโครงการส่งเสริมบทบาทพระสงฆ์ โรงพยาบาล และชุมชนในการเยียวยาจิตใจผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และระยะสุดท้ายอย่างมีส่วนร่วมซึ่งเป็นโครงการแรกที่เครือข่ายพุทธิกาได้จัดทำขึ้น โดยเข้าไปสัมผัสทุกข์ของผู้ป่วยและครอบครัว พร้อมกับการให้ความช่วยเหลือเกื้อกุลด้วยความเป็นมนุษย์และธรรมะในยามที่เขาต้องการ จากจดหมายข่าวอาทิตย์อัสดง ก่อให้เกิดแรงบรรดาลใจในหลายเรื่องหลายเหตุการณ์ และที่สำคัญได้ตอกย้ำความคิดสู่การปฏิบัติต่อสังคมของงานจิตอาสามิตรภาพบำบัดโรงพยาบาลสมุทรสาครมากยิ่งขึ้น
การเข้าถึงญาติผู้ป่วยอาการโคม่า ก่อนถึงตัวผู้ป่วยจึงช่วยให้การนำพาความรู้สึกที่ดีแผ่คลุมพื้นที่วิกฤต ก่อให้เกิดความเข้าใจ และประสานใจส่งความห่วงใยให้กันและกัน ได้รับรู้ทุกข์ของญาติ ของคนเฝ้าไข้ ได้เป็นธุระจัดการเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ช่วยให้ญาติได้อยู่กับผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด และเรียนรู้อุปนิสัยใจคอที่แท้จริงของผู้ป่วย ซึ่งช่วยให้เกิดการวิเคราะห์กิจกรรมของการเยี่ยมผู้ป่วยเป็นไปอย่างราบรื่นนำมาซึ่งความสุข
กรณีศึกษารายป้าชอบเต้นท่านหนึ่ง เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ต้องเข้ารับการรักษาด่วนในห้องผ่าตัด
เราพบว่าในขณะที่ผู้ป่วยสลบไปไม่รู้สึกตัว และได้รับการผ่าตัดทันที ห้ามเยี่ยม คนที่ทุกข์ใจมากที่สุดคือคนในครอบครัวผู้ใกล้ชิด
บทบาทของจิตอาสาคือช่วยบรรเทาทุกข์ด้วยกิจกรรมสนทนาบำบัด และร่วมกัยสวดมนต์ภาวนาให้ผู้ป่วยพ้นขีดอันตราย
พวกเราเชื่อว่าพลังความปรารถนาดีและความห่วงใยนั้นจะสามารถขับเคลื่อนกลายเป็นพลังมหัศจรรย์ส่งถึงผู้ป่วย และญาติให้มีกำลังใจที่จะต่อสู้และพร้อมรับสิ่งต่างๆที่จะตามมา
ร่างกายยามเจ็บป่วยจึงมอบไว้ในมือหมอ หากจิตใจเป็นของตนเอง และต้องการกำลังใจสูงมาก
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นของผู้ป่วย เมื่อรู้สึกตัว และรู้ว่าตนเองไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แม้เพียงนิดเดียวเพื่อให้ผู้มาเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ชิด ญาติ เพื่อน มันสุดแสนทรมานจิตใจผู้ป่วย และนี่เป็นงานที่กลุ่มเพื่อนจิตอาสามิตรภาพบำบัดจะเข้าไปเยียวยา
โชคดีที่เราไม่ต้องตามหาคนรู้ใจป้าชอบเต้นท่านนี้ เพราะท่านเป็นจิตอาสาเช่นกัน พวกเราทำงานร่วมกันมาในวันนั้นวันที่ป้าชอบเต้นได้รวมพลวัยใสๆได้ 60 คน และโทรมาหาฉัน ถึงวันนี้ฉันยังสับสนกับเหตุการณ์ แต่ก็ปล่อยวาง มันผ่านไปเป็นเดือนแล้ว และสิ่งที่เรากำลังร่วมกันคือปัจจุบัน
ณ วันนี้ ความเป็นตัวตนที่แท้จริงของป้าชอบเต้นจึงช่วยให้พวกเราเข้าถึงการสนทนาบำบัด ที่สร้างความสุขให้ผู้ป่วยได้ระลึกถึงความดี รวมทั้งการร่วมกันร้องเพลงที่ป้าชอบเต้นชอบ ป้าแก้วพยายามยกมือและเท้าให้เคลื่อนไหวไปพร้อมกับเสียงเชียร์ให้กำลังใจ
เราเห็นความเบิกบานใจ เสียงหัวเราะของครอบครัว และใบหน้าที่ยิ้ม ของผู้ป่วย เราเห็นดวงตาที่ประกายฝัน มันคือความฝันของผู้เสียสละเพื่อสังคม
ขอบคุณเสียงเพลง เสียงโทรศัพท์ตามตัวแล้ววันนี้ฉันมีภารกิจเรื่องการสร้างความสุขจากสองมือแม่ผ่านครรภ์มารดา (แม่วัยใส)เป็นกลุ่มที่ สอง เวลา 11.00-12.00 และตามด้วยผ่อนพักตระหนักรู้
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านค่ะ
...รวมทั้งการร่วมกันร้องเพลงที่ป้าชอบเต้นชอบ ป้าแก้วพยายามยกมือและเท้าให้เคลื่อนไหวไปพร้อมกับเสียงเชียร์ให้กำลังใจ...
The power of motion!
ตามมาเชียร์การทำงานของพี่ต้อยครับ...
ขอบพระคุณค่ะ ท่านSr.
The power of motion!
เป็นพลังที่ต้องใช้พลัง+ความคิด
แล้วปล่อยออกไปเป้าหมายคือการเคลื่อนไหวตอบของผู้ป่วย
และเราก็ถึงซึ่งความเบิกบานใจ เป็นพลังชีวิตที่มาจากการบูรณาการความรู้ +การเข้าถึงจิตใจผู้ป่วยและญาติ
ส่งผลให้พวกเราทุกคนมีความเชื่อมั่นและศรัทธาทั้งในตนเองและทีม
และขับเคลื่อนต่อไปตราบที่เราสามารถสร้างแรงบรรดาลใจให้เกิดขึ้นแล้วเกิดขึ้นเล่า
ความสุขที่หาซื้อไม่ได้ค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
ขอบคุณน้องอ.ดร.ขจิต ค่ะ
วันที่ 5 กย.พี่มีจิตอาสาจากUK มาช่วยงาน 6 คน
ตอนนี้หาเบอร์โทรกลับรร.วัดอ่างทองที่จิตอาสามาไม่เจอ
จะแจ้งให้รร.ทราบ เด็กน้อยคงเฮกันนานแน่เลย
มาให้กำลังใจครูต้อยให้ทำงานดีๆ เพื่อคนไข้ และครอบครัวต่อไปนานๆค่ะ
ขอบคุณค่ะ พี่คุณนุ๊ย nui
กำลังจะได้ทำงานที่ดีเยี่ยมแล้วค่ะ
เป็นงานปลูกพืชสมุนไพร และสวนสมุนไพร
ให้เพื่อนผู้ป่วยด้วยกันได้เรียนรู้ จะได้ออกไถนาแล้วนะคะ
ฝันที่กำลังจะเป็นจริงค่ะ ขอเชิญชมล่วงหน้าเลยนะคะ