"พักใจตรงนี้ เถิดที่รัก" ... (เพราะที่นี่ยังมีรัก : ฤชุดาปารินทร์ พรหมสถิตย์)


 

พักใจตรงนี้ เถิดที่รัก

 

 

...

เชื่อเถิดว่าตรงนี้ยังมีรัก
ที่ทอถักสายใยไม่สุดสิ้น
พร้อมคิดถึงห่วงหาเป็นอาจิณ
อุ่นไอดินโอบจันทร์ตะวันจาง

มีท้องฟ้าสดใดในยามเช้า
ทะเลเว้าเพลงวอนตอนรุ่งสาง
สายฝนพรำโลมไล้ใบไม้บาง
ลมพลิ้วร่างผ่านแก้มแซมไอเย็น

และพื้นที่ตรงนี้ยังมีฝัน
มีตะวันสีทองให้มองเห็น
สงบง่ายเงียบงามตามที่เป็น
แต่โดดเด่นด้วยน้ำใจและไมตรี

ก็เมื่อดินถิ่นนี้มีชื่อ "บ้าน"
กำซาบซ่านหวานรักเป็นสักขี
คือเมืองแก้วแดนทองของชีวี
มาพักใจตรงนี้...เถิดที่รัก

...

 

............................................................................................................................................

 

คิดตามกวี ...

 

...

ตื่นขึ้นมา ... เปิดหน้านี้
อ่านอีกที ... ก็อบอุ่น
ธรรมชาติ ... หอมละมุน
ไอดินกรุ่น ... ไอน้ำเย็น

...

 

แด่ความสุนทรียทางอารมณ์ทุกท่านครับ

บุญรักษา :)...

 

............................................................................................................................................

ขอบคุณกวีนิพนธ์ ...

ฤชุดาปารินทร์  พรหมสถิตย์.  เพราะที่นี่ยังมีรัก.  สุโขทัย : สำนักหนังสือโรงนาบ้านไร่, ๒๕๕๖.

 

หมายเลขบันทึก: 545835เขียนเมื่อ 18 สิงหาคม 2013 10:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 สิงหาคม 2013 11:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

คำว่า'บ้าน'เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย เพราะเรารู้สึกถึงความอบอุ่นได้..เหนื่อยนักก็พักใจได้...คิดถึงบ้าน..คิดถึงคนที่อยู่ที่บ้านด้วยค่ะ

เหนื่อยนัก ... พักหน่อยนะครับ น้องอาจารย์ พิชชา ;)...

ขอบคุณมากครับ ;)...

ไพเราะมากครับ สงสัยต้องไปหามาละเลียดลิ้มรสบทกวี ซะแล้ว..

ความรักสร้างสรรค์ทุกสิ่งอย่างจริงๆนะคะอาจารย์

 

..(...เป็น..โรค..ละเมอ..หารัก"บ้าน"..เห็น..แต่..บ้านว่างเปล่า..ไม่มีรัก..อยู่อาศัย..)...จึงต้อง..อาศัย..จินตนาการ..ว่า..บ้านมี.."รัก".....(แก้โรค..หลง..รัก..ได้ไหมนี่..)..อิอิ...(แอบถาม..ยายธี)

SE-ED มีครับท่าน พ.แจ่มจำรัส ;)...

ขอบคุณมากครับ

สุข กับ ทุกข์ คู่กันไปนะครับ kunrapee ;)...

ขอบคุณมากครับ

ละเมอหลอกตัวเองไปก่อนน่ะครับ คุณ ยายธี ;)...

ขอบคุณมากครับ

"อุ่นไอดินโอบจันทร์ตะวันจาง"จำได้เมื่อสมัยโน้น นานนิดหน่อย ไม่ได้นานมาก บทกลอนนี้จะโรแมนติคมาก ไอดินกลิ่นฟาง พระจันทร์ข้างขึ้น สวยมาก มองดูกลางทอ้งนาลูกชาวนาจะเข้าใจความรู้สึกดี ตีข้าวไปด้วย ยามเหนื่อยนอนบนกองฟาง สอ่งสายตาลอ่งลอยขึ้นไปเบื้องบน หายเหนื่อยและมีความสุข

"ทะเลเว้าเพลงวอนตอนรุ่งสาง"

บรรทัดนี้คิดถึงทะเลตอนเช้าที่พัทยา พัทยาเป็นเมืองที่มีสามฤดูในหนึ่งวัน(ฉันคิดอย่างนี้)

กลางวันเป็นฤดูรอ้น ผู้คนมากหน้าหลายตามาพักผ่อน ตอนเย็นเป็นฤดูฝนไม่ใช่ฝนธรรมดาหอบพายุมาด้วย

รุ่งเช้ากอ่นสามโมงฤดุหนาวนิดนิด สงบเงียบมีเพียงแค่เสียงของทะเลที่บางเบาแต่ชัดเจน

และคนรักสุขภาพออกมาวิ่งรับอากาศบริสุทธ์ ส่วนมากก็ต่างชาติ คนไทยนอ้ยมาก ( วิ่งไปคิดไป เอ เมืองไทยหรือเปล่า)

อยากจะบอกว่า ถ้ามีโอกาสไปอย่าลืมชุดพละไว้สัมผัสบรรยากาศรุ่งสางเมืองทอ่งเที่ยวชว่งเงียบสงบ

ยาวจังมีใครเสียเวลาอ่านไหมคะ สมรักษ์ ไปแล้วคะ("ไม่ได้โม้"


ไม่เป็นไร และยินดีครับ คุณอุนนุน ;)...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท