ทุกบ่ายวันพุธครูนกจะประจำฐานที่มั่นคือ ลานอิฐบล็อกบริเวณหน้าเสาธงเพื่อสอนกิจกรรมในเครื่องแบบคือลูกเสือ - เนตรนารี ระดับชั้นม.๑ ม.๒ และ ม.๓ ระหว่างช่วงเปลี่ยนคาบหันไปด้านหน้าตึกอีกฟากหนึ่งพบศิษย์เก่าห้อง ม.๖/๔ กำลังจับกลุ่มกันเล่นแบบเด็กๆ ระดับประถม ทำให้ใครๆ ที่เดินผ่านต้องเหลียวมอง เหล่าน้องๆ ก็หยุดดู
ภาพที่ครูนกมองเห็นคือ สมาชิกในห้องมี ๓ กลุ่มคือกลุ่มเล่นงูกินหาง กลุ่มเล่นแบดมินตัน และกลุ่มสังคมก้มหน้าอยู่กับสมาร์ทโฟน
จากสิ่งที่มองเห็น...จากสัมผัสทางเสียงที่ได้ยิน นั่นคือ การละเล่นงูกินหาง (อ่านได้ที่นี่)
พ่องู : แม่งูเอ๋ย
แม่งู : เอ๋ย (ลูกงูช่วยตอบ)
พ่องู : กินน้ำบ่อไหน
แม่งู : กินน้ำบ่อโศก
ลูกงู : โยกไปก็โยกมา (แม่งูและลูกงูโยกตัว ขยายแถวทั้งแถว)
พ่องู : แม่งูเอ๋ย
แม่งู : เอ๋ย..........
อีกภาพที่ถัดไปบริเวณใกล้ๆ กัน สังคมก้มหน้าซึ่งเป็นสังคมที่ครูนกอยากเห็นน้อยที่สุดในโรงเรียน หรือแม้แต่ในการประชุม
กลุ่มสังคมก้มหน้าจะหันมามองกลุ่มที่เล่นงูกินหางในช่วงที่กลุ่มงูเสียงดังมาก จากนั่นก็ก้มหน้าอยู่กับสมาร์ทโฟนต่อ ประหนึ่งเพื่อนเราเล่นไม่รู้จักโต
สำหรับครูนกดีใจค่ะที่เห็นภาพนี้ เด็กๆได้พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ที่เรียกสั้นว่า EQ : Emotional Quotient เตรียมความพร้อมในการเข้าสังคม การเคารพกฏ กติกา การสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อผู้อื่น การรู้จักแพ้รู้จักชนะ และครูนกเชื่อว่าการละเล่นที่ครูนกเห็นวันนี้จะจุดประกายให้น้องๆ อยากเล่นแบบพี่ๆ ซึ่งทำได้ยากในโรงเรียนของเราซึ่งพื้นที่จำกัด แต่ก็ไม่ยากจนกระทั่งเป็นไปไม่ได้
ทำไมครูนกคิดแบบนี้
เพราะในช่วงเวลาถัดมา
เด็กๆ ที่มารอเรียนลูกเสือมีการละเล่นแบบนี้ค่ะ
กลุ่มสาวน้อยเริ่มใช้สิ่งในธรรมชาติมาเล่นกันแบบเด็กสมัยโบราณ....สำหรับครูนกยกให้เป็นภาพน่ารักค่ะ ร้องเตือนอย่างเดียวว่า "ระวังหน่อยนะค่ะ...เราใส่กระโปรง" และสังเกตว่า ความสามัคคีเริ่มแล้ว..ดูจากเครื่องแบบของสาวน้อยมีตั้งแต่เนตรนารีเหล่าเสนา(สีเขียว) เนตรนารีเหล่าอากาศ(สีฟ้ากรมท่า) เนตรนารีเหล่าสมุทร (สีขาว)เกือบครบทุกเหล่าของโรงเรียนเลยค่ะ
สรุปภาพที่เห็นเป็นภาพที่แสดงว่าลูกศิษย์เรายังมีความฉลาดทางอารมณ์ รอจังหวะและสถานที่เหมาะแสดงออกมา เหนืออื่นใดอยากเห็นเด็กๆ ลดปริมาณชั่วโมงในการอยู่กับสังคมก้มหน้าที่นั่งก้มดูเฉพาะหน้าจอ มือน้อยๆ ก็สไลด์และสไลด์ ครูยังอยากได้ยินเสียงหัวเราะและรอยยิ้มร่วมกันค่ะ
กิจกรรม สอน/แฝง แง่คิด + ส่งเสริมการออกกำลังกายด้วยนะคะ ....
การละเล่นพื้นบ้านของเด็กไทยหลาย ๆ อย่าง ช่วยเตรียมพร้อมให้เด็ก ๆ เป็นพลเมืองที่มี
คุณภาพ รู้จักเคารพกฎ กติกา มารยาท ยอมรับฟัง มีเหตุมีผล น่าเสียดายที่แทบไม่มีเด็ก
ไทยรู้จักกับการละเล่นเหล่านี้แล้ว ดีใจที่ลูกศิษย์ครูนกยังสืบทอดไว้จ้ะ
ชื่มชมค่ะ...ครูบางคนไม่ชอบให้เด็กเล่นส่งเสียงดังในระหว่างพักกลางวัน...ชอบให้เด็กเข้าห้องสมุดอ่านหนังสือ...ซึ่งผิดอย่างมหันต์เพราะการที่เด็กได้เล่นได้ส่งเสียงหัวเราะดังๆเป็นการผ่อนคลายและออกกำลังกายที่ดีที่สุด...ที่สำคัญเด็กได้พัฒนาการครบทั้ง 4 ด้านนะคะ...ขอบคุณค่ะ
ชื่นชมกับคุณครูนกค่ะ ที่มองเห็นแง่งามนี้ของเด็ก ๆ และความประณีตของครู ขอบคุณค่ะ
การละเล่นแต่ดั้งเดิมมักมีกุศโลบายสอนอยู่ นอกจากทำให้เด็กได้เคลื่อนไหว ออกกำลังกายแล้ว สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ของ ๆ ไทย ก็เป็น ของ ๆ ไทยค่ะ หากคนไทย เด็กไทย ไม่เห็นคุณค่าที่มีอยู่นี้ ก็คงเห็นทีว่า ของ ๆ ดี คงเก็บไว้เป็นเรื่องเล่าและความทรงจำนะคะ
(@^_________^@)
มองภาพแล้วคิดถึงตัวตนในอดีตนะค่ะ
ดีจังค่ะที่ลูกศิษย์ครูนก ยังรู้จักการเล่นแบบนี้อยู่
น่าจะจัดกลุ่มสาธิตการเล่นแบบอื่นๆ ดูบ้างนะค่ะ
ดีใจค่ะที่เห็นเด็กๆ ยังเล่นแบบนี้อยู่
ชื่นชมนะคะครูนก
ขอบคุณครับ ที่นำบันทึกกิจกรรมดีๆมาแบ่งปัน
เอามาฝากหนึ่งภาพครับ
สวัสดีวันแม่...และขอบคุณทุกๆท่านสำหรับดอกไม้กำลังใจค่ะ
อาจารย์ อ.นุ |
พี่ โอ๋-อโณ |
คุณหมอ nui |
คุณ เขียวมรกต |
คุณ Wahoo_KrooKay |
คุณ เพชรน้ำหนึ่ง |
อาจารย์ ชยพร แอคะรัจน์ |
คุณหมอ Dr. Ple |
คุณ พ.แจ่มจำรัส |
คุณ ครูมะเดื่อ |
อาจารย์ บูรพากรณ์ |
อาจารย์ ดร. พจนา แย้มนัยนา |
คุณ นิตยา |