ตื่นตัว : ตื่นตูม..
-การเปลี่ยนเเปลงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของสิ่งต่างๆ ภายนอกหรือสิ่งที่เป็นตัวตนของตนเอง
-การยอมรับต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทั้งสองอย่างเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ไม่ว่าจะยินยอมหรือจำยอมก็ต้องเป็นเช่นนั้นแล.
-การยอมรับการเปลี่ยนแปลงสิ่งหนึ่งที่ต้องตามมานั้นคือ การตื่นตัว การตื่นตัวกับตื่นตูม ย่อมเป็นสิ่งที่ความระยะไม่ห่างกันมากนัก
-การตื่นตัวมาพร้อมกับสติ-สัมปชัญญะคือความรู้ตน อย่างเท่าทัน ต่อสิ่งภายนอกและสิ่งภายในนั้นคือจิตใจของตนเองด้วย ว่าเป็นเช่นไร
-ส่วนการตื่นตูม ย่อมมีใจที่ดิ้นรน กระวนกระวาย ร้อนรน ไปกับกระเเส การเป็น การอยากให้เป็น การจะเป็นในสิ่งอื่นๆ อย่างปราศจากสติ-สัมปชัญญะ การรู้ตัวทัน...ไม่มีสติ ในการฉุดรั้งในสิ่งต่างๆ อย่างรู้เท่าทัน
-ดังนั้นการเปลี่ยนแปลง อย่างไรเสียก็เป็นสิ่งจำเป็น เป็นธรรมดาที่เป็นไป และดูเหมือนว่า เป็นความเท่าเทียมที่ทุกคนอาจจะได้รับอย่างเท่าเทียมกัน....ซึ่งอาจจะขึ้นกับว่า มองจากมุมใดได้ด้วย..
เมตตาธรรม..
กราบนมัสการค่ะ...ตื่นตัวแต่ไม่ตื่นตูมนะคะท่าน...ขอบพระคุณค่ะ
กราบนมัสการค่ะ
การเปลี่ยนแปลงของสังคม เช่น เด็กติดยาเสพติด โรคเอดส์มีเพิ่มมากขึ้น ท้องในวัยเรียน คอรัปชั่นของนักการเมือง คนขาดคุณธรรมจริยธรรม ฯลฯ เราจะทำอย่างไรกับสิ่งเปลี่ยนแปลงนี้ ยอมรับหรือ ตื่นตัวอย่างไร หรือตื่นตูมอย่างไรเพราะใกล้กันจริงๆ
สิ่งที่เป็น กับ สิ่งที่อยากให้เป็น
บางครั้งก็ว่ากันว่าเป็นอย่างเดียวกันได้
บางครั้งก็คงไม่ได้เป็นไปเช่นนั้น
..การใช้เกณฑ์ดูเหมือนว่าขึ้นอยู่ใครเป็นคนใช้เกณฑ์ สังคมใดใด จะดำรงอยู่ได้ย่อมมีเกณฑ์ กติกาในการอยู่ร่วมกัน และต้องเป็นเกณฑ์ กติกาที่ทุกคนพร้อมที่จะปฏิบัติตาม
...สังคมใดใด ก็ย่อมจะมีเกณฑ์และมาตรฐานบางอย่างของตน....แต่บางสังคมก็อาจไร้เสียซึ่งสิ่งที่เคยภาคภูมิใจ อาจจะหลงอยู่เพียงว่า เคยมี...และก็ยังคงจะเชื่อว่าอยู่เช่นนั้นจริง...ซึ่งก็เป็นเรื่องเช่นนั้น...แล.
...การใช้เกณฑ์อีกเกณฑ์หนึ่ง ก็คือ สิ่งที่ตนเองต้องมีประจำตน ซึ่งย่อมจะแตกต่างกันของแต่ละวิสัยของแต่ละคน ซึ่งก็เป็นธรรมดา...เมื่อเป็นธรรมดา ก็อาจจะไม่ได้ช่วยอธิบายอะไรให้ดูดีนัก.....อาจเป็นแค่การปลอบประโลมใจก็ได้กระมัง..
..ส่วนตนคิดว่า ขณะนี้ การพยายาที่จะเข้าใจสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป นั้น..คงยังทำไม่ได้.
อนุโมทนา