แก้ปัญหา...ถูกหรือผิด
ในชีวิตของเราย่อมพบกับปัญหาต่าง ๆ อยู่เป็นประจำ เมื่อเกิดปัญหาก็ต้องแก้ไข เริ่มต้นด้วยการแก้ปัญหาด้วยตนเอง ถ้าแก้ไขไม่ได้ด้วยตนเองก็ต้องหาคนอื่นมาช่วยแก้ให้ การแก้ไขปัญหาโดยอาศัยคนอื่น ในบางครั้งแม้เราอาจจะไม่ค่อยจะเห็นด้วยก็ต้องยอม เพราะเราไม่สามารถแก้ไขด้วยตัวเองได้
ตัวอย่างแรก ที่เพิ่งเกิดเมื่อไม่นานมานี้ คือ ปัญหาที่เกิดจากปั้มน้ำ ที่ทำหน้าที่ปั้มน้ำจากถังพักเข้าไปใช้ในบ้าน เป็นปั้มน้ำยี่ห้อดัง ที่เป็น ที่นิยมกัน ที่จริงก็ใช้มานานเกิน ๑๐ ปีแล้ว เมื่อมีปัญหาต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ก็เรียกว่าใช้เกินคุ้มแล้ว แต่ที่รู้สึกไม่ค่อยดีก็เพราะว่า ปั้มตัวเดิมยังทำงานได้ปกติ ปัญหาที่เกิด เกิดจากฝาปิดท่อระบายแรงดันถังของปั้มปิดไม่อยู่เท่านั้น เนื่องจากท่อมันผุเท่านั้น (ดูตามรูป) ถ้าเพียงแต่แก้ไขตำแหน่งท่อที่ผุ ให้ฝาปิดอยู่ได้ก็ใช้ได้เช่นเดิม โดยไม่ต้องเปลี่ยนทั้งเครื่อง การแก้ไขโดยเปลี่ยนเครื่องปั้มใหม่ครั้ง ต้องจ่ายไป รวม ๘,๐๐๐ บาท เป็นค่าเครื่อง ๖,๙๐๐ บาท ค่าอุปกรณ์ (ท่อและวาวน์) ๔๐๐ บาท ค่าเดินทาง+ค่าแรง ๗๐๐ บาท
รู้สึกเสียดายปั้มตัวเดิม ที่ใช้มามากกว่า ๑๐ ปี ยังคงทำงานได้อย่างดี แต่ต้องตัดออกมา วางไว้เฉย ๆ เพราะท่อระบายแรงดันถังผุไปเท่านั้น ถ้าเป็นสมัยที่ยังทำงานอยู่ที่ มทส. คิดว่า ช่างที่ศูนย์เครื่องมือฯ คงซ่อมท่อระบายแรงดันถังที่ผุนี้ได้....โดยไม่ต้องเปลี่ยปั้มตัวใหม่....และปั้มตัวใหม่จะทนเหมือนตัวเก่าหรือไม่ ? ก็ยังไม่แน่ใจ....ต้องรอดูกันต่อไป.....ประสบการณ์เรื่อง...เครื่องรุ่นใหม่ ไม่ทนทานเหมือนเครื่องรุ่นเก่า เคยเจอมาแล้ว ก่อนหน้านี้....คือ เรื่องแอร์บ้าน และ แอร์รถยนต์
แอร์รถยนต์ ที่ติดตั้งพร้อมกับการซื้อรถใหม่ เมื่อกว่า ๑๕ ปี มาแล้ว มาเมื่อปีที่แล้ว มีปัญหาเรื่องน้ำยาแอร์รั่วซึม ต้องเติมน้ำยาแอร์บ่อยขึ้น จากต้องเติม ๓-๔ เดือนครั้ง ก็เหลือ ๑-๒ เดือนครั้ง ร้านแนะนำว่า คอมเพรสเซอร์แอร์เก่ามีรอยรั่ว ควรเปลี่ยนเครื่องใหม่ ปรึกษากับช่างอู่ซ่อมรถที่ใช้บริการอยู่ประจำ ว่าสามารถซ่อมคอมเพรสเซอร์แอร์ที่รั่วได้หรือไม่ ช่างก็แนะนำร้านซ่อมให้ จึงนำรถไปซ่อมคอมเพรสเซอร์แอร์ตามที่ได้รับการแนะนำ ผลที่ได้คือไม่ถึงเดือนก็เกิดปัญหาต้องกลับไปแก้ไขอีก ๒-๓ ครั้ง จ่ายค่าซ่อมไปรวมแล้วแพงกว่าการเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์ตัวใหม่.....ในที่สุดก็ต้องตัดสินใจเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์แอร์ตัวใหม่.....รวมจ่ายเงินไปประมาณ ๒ หมื่นบาท
ไม่นานเกิดปัญหากัยแอร์รถยนต์คันเดิมอีก คราวนี้คือ ปัญหามีน้ำหยด ใส่เท้าคนขับ เพราะตู้แอร์ผุ เนื่องจากเป็นตู้รุ่นเก่าเป็นเหล็กหรือสังกะสี เมื่อใช้นานก็จึงเกิดสนิมผุเป็นรูรั่ว เนื่องจากเป็นรุ่นเก่าไม่มีอาหลั่ยเฉพาะตัวตู้เปลี่ยนแล้ว การแก้ปัญหาที่ได้รับการแนะนำก็คือ ต้องเปลี่ยนทั้งตัวตู้พร้อมตัวคอยด์ทำความเย็น เป็นชุดใหม่ทั้งชุด (แม้ว่าตัวคอยด์ทำความเย็นเดิมยังใช้ได้ดี).....คราวนี้ตัดสินใจเปลี่ยนตามคำแนะนำของช่างทันที ในราคา ๖,๐๐๐ บาท ผลการแก้ปัญหาไม่ค่อยจะถูกใจเท่าไหร่ เพราะแอร์ชุดใหม่ไม่เย็นเท่าชุดเดิม กลับไปให้ช่างแก้ไขสองครั้งก็ไม่ดีขึ้น ก็ต้องยอมรับ....แต่สิ่งที่ทำให้ผิดหวังมากก็คือประมาณ ๓ เดือนกว่าๆ ต่อมา แอร์ไม่เย็นแล้ว...กลับไปที่ร้าน ตรวจเช็ค ปรากฏว่า ตัวคอยด์เย็นรั่ว ต้องเปลี่ยนใหม่....เลยสอบถามว่าก็เพิ่งเปลี่ยนไปประมาณ ๓ เดือนนี้เอง ไม่อยู่ในระยะประกันหรือ ช่างบอกว่า ตัวคอนด์เย็นนี้ เขาประกันแค่ ๓ เดือนเท่านั้น และพูดให้ฟังว่า คอยด์เย็นแอร์เดี๋ยวนี้ทำด้วยท่ออะลูมิเนี่ยมบางมาก ไม่เหมือนคอยด์เย็นสมัยก่อนที่ทำด้วยท่อทองแดง....ต้องเสียค่าเปลี่ยนคอยด์เย็นใหม่ในราคา ๕,๐๐๐ บาท........อีก ๔ เดือนต่อมา แอร์รถยนต์ก็หายเย็นอีก ก็คิดว่า โอเค น้ำยาแอร์คงรั่วซึม แวะไปเติมน้ำยาแอร์ที่ ร้านซ่อมแอร์ใกล้บ้าน....เติมเสร็จขับรถกลับบ้าน ระยะทางไม่ถึง ๑ กิโลเมตร รุ่งเช้ามา สตาร์ทรถจะออกไปทำธุระ แอร์ไม่เย็น แต่ก็จำเป็นต้องขับไปทำธุระก่อน ช่วงบ่ายจึงแวะกลับมาที่ร้านซ่อมแอร์ ช่างทำการตรวจสอบอย่างละเอียดและ แจ้งว่า คอยด์เย็นคงจะรั่ว ต้องเปลี่ยคอยด์เย็นใหม่ ผมก็เล่าให้ฟังว่าเพิ่งเปลี่ยนใหม่ มาไม่นานนี้เอง และสอบถามราคา ได้รับคำตอบว่า ประมาณ ๔,๐๐๐ บาท ผมจึงแจ้งว่าจะขอกลับไปถามร้านที่เปลี่ยนให้เดิมดูก่อน.....วันรุ่งขึ้นจึงเดินทางไปที่ร้านที่เคยเปลี่ยนให้....ผลการตรวจสอบก็เป็นไปตามที่ช่างร้านข้างบ้านวินิจฉัยจริง....คือคอยด์เย็นรั่วอีก เป็นชุดที่ ๒ ก็ต้องเปลี่ยนชุดใหม่อีก เป็นชุดที่ ๓ ในรอบไม่ถึง ๑ ปี.....คราวนี้คิดในราคาพิเศษ เพียง ๓,๐๐๐ บาท.......ก็ต้องทำใจ....ไม่มีทางเลือกเป็นอย่างอื่น....จะใช้ได้นานเท่าไหร่ ?.....ตามดวงคร๊าบ....เล่าสู่กันฟัง…อิอิ
ความเห็น (1)
มีปัญหา ใช้ ปัญญา พอไหว ครับ ท่านพี่