IQ (ไอคิว)_____บ่งบอกชาติไหนจะก้าวไปไกล


ภาพที่ 1: แผนที่โลก แสดงสัดส่วนผู้ใหญ่ที่กินนมแล้วท้องอืด-ท้องเสียง่าย เนื่องจากการขาดน้ำย่อยนม (lactase intolerance) จาก "วิกิมีเดีย"

กลุ่มคนที่กินนมตอนเป็นผู้ใหญ่ได้มากที่สุด (หรือท้องอืด-ท้องเสียน้อยที่สุด) เรียงจากมาไปน้อยได้แก่

(1). สีชมพู = 0-20% > ยุโรปตอนเหนือ-กลาง+สหรัฐฯ​

(2). สีเหลือง = 20-40% > ยุโรปกลาง ค่อนไปทางใต้-ตุรกี-รัสเซีย-แคนาดา-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์

(3). สีฟ้า = 40-60% > ยุโรปใต้ เม็กซิโก

(4). สีเทา = 60-80% > อเมริกากลาง-ครึ่งบนของอเมริกาใต้-ครึ่งบนของอาฟริกา-ตะวันออกกลาง-เอเชียใต้-กรีนแลนด์

(5). สีดำ = 80-100% > ครึ่งล่างของอเมริกาใต้-ครึ่งล่างของอาฟริกา-จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลี-กลุ่มประเทศอาเซียน

.

ภาพที่ 2: แผนที่โลก แสดงสัดส่วนผู้ใหญ่ที่กินนมแล้วท้องอืด-ท้องเสียง่าย เนื่องจากการขาดน้ำย่อยนม (lactase intolerance) จาก "FIN" แต้มแถบสีตามหน่วยร้อยละ (%)

.

นิตยสาร "ป๊อปซาย (PopSci)" ตีพิมพ์เรื่อง "แถบใดในโลกที่มีคนกินนมไม่ได้ (กินแล้วท้องอืด ท้องเสียง่าย) มากที่สุด", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

นิตยสารเนเชอร์ (Nature) รายงานว่า ผู้ใหญ่ที่มีพันธุกรรม หรือชุด DNA ที่ช่วยย่อยน้ำตาลนม (แลคโทส / lactose) ได้มีประมาณ​1/3 ของประชากรโลกทั้งหมด

.

นักวิทยาศาสตร์พบว่า เดิมผู้ใหญ่ทั่วโลกน่าจะย่อยน้ำตาลนมไม่ได้ ทำให้เกิดอาการท้องอืด แน่นท้อง ท้องเฟ้อ หรือท้องเสียเวลาดื่มนม

การค้นพบวิธีหมักนม ทำให้เกิดโยเกิร์ต นมเปรี้ยว เนยครั้งแรกในตะวันออกกลางประมาณ 11,000-10,000 ปีก่อน ทำให้คนเราเก็บสารอาหารจากนมได้นานขึ้น

.

และที่สำคัญ คือ ทำให้มีแหล่งอาหารโปรตีน (อาหารกลุ่มเนื้อ นม ไข่ ถั่ว โปรตีนเกษตร งา ฯลฯ) และสารอาหารอื่นๆ เกือบครบทุกหมู่ สำรองในยามที่ล่าสัตว์ไม่ได้

องค์ความรู้นี้แผ่ขึ้นไปสู่ทางเหนือตามลำดับเวลาดังนี้

(1). 11,000-10,000 ปี > แผ่ไปในตะวันออกกลาง

(2). 8,400 ปี > ไปกรีซ

(3). 8,000 ปี > ไปคาบสมุทรบอลข่าน (ประเทศทางเหนือของตุรกี)

(4). 7,500 ปี > พบการกลายพันธุ์ ทำให้ผู้ใหญ่ดื่มนมได้ครั้งแรกทางตอนกลางยุโรป ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในฮังการี หรือประเทศใกล้เคียง

พบหลักฐานการทำเนยแข็ง (cheese) ชัดเจนประมาณ 7,000 ปีก่อน

(5). 6,500 ปี​ > วิธีการทำ "โยเกิร์ต-นมเปรี้ยว-เนย" แผ่ไปถึงตอนกลางยุโรป

การกลายพันธุ์ที่ทำให้คนส่วนหนึ่งดื่มนมตอนเป็นผู้ใหญ่ได้เกิดมาน้อยกว่า 10,000 ปีก่อน

.

การมีแหล่งอาหารสำรองทำให้ผู้หญิงตั้งครรภ์ ทารก และเด็กเล็ก มีโอกาสได้รับสารอาหารดีขึ้น ป่วยน้อยลง มีโอกาสรอดชีวิตจนเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และที่สำคัญ คือ ไอคิว (IQ) สูงขึ้น จากการได้รับสารอาหารที่ให้กำลังงาน และไอโอดีนมากขึ้น

ไอคิวที่สูงขึ้น ทำให้ยุโรปมีโอกาสพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ เช่น การหลอมโลหะ (ทำอาวุธ ฯลฯ) และองค์ความรู้อื่นๆ ได้มากขึ้น

.

นี่อาจเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ยุโรปก้าวไปสู่การสร้างอาณาจักร (จากเทคโนโยลีอาวุธที่เหนือกว่า), การพิมพ์ ปฏิวัติอุตสาหกรรมได้ในเวลาต่อมา

.

ภาพที่ 3: หนังสือ 'IQ and the Wealth of Nations' = "ไอคิวกับความมั่งคั่งของชาติ" ตีพิมพ์ในปี 2002/2845 ทำการวิเคราะห์เจาะลึกให้โลกรู้ว่า ชาติที่ประสบความสำเร็จสูงกว่า โดยเฉพาะรวยกว่า มีผลผลิตประชาชาติ (GDP) สูงกว่า เป็นกลุ่มประเทศที่คนในชาติมี IQ สูงกว่า หรือฉลาดกว่า [ wikipedia ]

ภาพที่ 4: แผนที่แสดงไอคิว (IQ) ของประเทศต่างๆ จากการสำรวจเร็วๆ นี้ เรียงจากสีม่วง (สูงสุด) ไปยังแถบสีฟ้า เหลือง ไปจนถึงสีแดง (ต่ำสุด)

แผนที่นี้บอกเราว่า ภูมิภาคตะวันออกไกลได้แก่ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น เป็นกลุ่มประเทศที่มีไอคิวสูงสุด, รองลงไปเป็นแคนาดา ยุโรปกลาง ยุโรปเหนือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ รัสเซีย อาร์เจนตินา เวียดนาม

ประเทศที่มีไอคิวสูงน้องๆ ตะวันออกไกล คือ มองโกเลีย

มาเลเซียและไทยติดแถบสีฟ้า ทว่า... ดูจะมีสีจางกว่าเวียดนามหน่อย

ภาพที่ 5: แสดงผลผลิตประชาชาติต่อหัว (แนวตั้ง = GDP per capita), เทียบกับไอคิว (IQ = ค่ากลางประมาณ​ 100)

.

ตอนนี้ประเทศทั่วโลกแข่งกันสร้างคนรุ่นใหม่ให้มีไอคิว (IQ) สูงขึ้น

ประเทศไทยแม้จะมีปัญหาเด็กรุ่นใหม่ไอคิวต่ำ และแก้ปัญหานี้ไม่ได้ก็เริ่มพบแล้วว่า

.

ปัจจัยที่น่าจะมีส่วนทำให้เด็กไทยมี IQ ต่ำได้แก่

(1). ขาดไอโอดีน ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่จนถึงวัยเด็กเล็ก

(2). ได้รับสารพิษ โดยเฉพาะสารตะกั่ว จากหม้อน้ำซุป หม้อก๋วยเตี๋ยว ตู้น้ำกดที่เชื่อมด้วยสารตะกั่ว

แหล่งสารพิษอื่นๆ ได้แก่ สารตะกั่วจากสี เช่น สีทาบ้านรุ่นเก่า ฯลฯ จากหมึกพิมพ์ เช่น จับหนังสือพิมพ์ แล้วไม่ล้างมือด้วยสบู่ก่อนกินอาหาร-ดื่มน้ำ ฯลฯ

.

การฝากครรภ์ (ฝากท้อง) มีส่วนช่วยให้เด็กไทยได้รับไอโอดีนเสริมตั้งแต่อยู่ในท้องแม่แล้ว แต่ก็คงยังไม่พอ

การที่เราจะแข่งขันกับนานาชาติได้... จำเป็นต้องรีบปฏิรูปการศึกษาพื้นฐาน โดยเฉพาะการจัดทำห้องสมุดดีๆ แบบ TK park ทั่วประเทศ ให้ครบทุกจังหวัด (อาจเน้นจังหวัดที่ไม่เสี่ยงระเบิดก่อน)

.

กระจายโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา ทั้งอินเตอร์เน็ต (ให้บ้านนอกมีโอกาสเข้าถึง), โทรทัศน์ช่องฟรี ทำเว็บไซต์การศึกษาติวทุกระดับ ตั้งแต่อนุบาล-ประถม-มัธยม-อาชีวะ-วิชาช่าง-ภาษาต่างประเทศ ในรูปสื่อฟรีออนไลน์

ให้เด็กไทยมีโอกาสเรียนสาขาที่จบมาแล้วมีงานทำ โดยเพิ่มการผลิตนักบิน นักบัญชี หมอฟัน พยาบาล เภสัชกร วิศวกร สถาปนิก และสาขาขาดแคลนหลายๆ เท่า

.

ซึ่งจะทำให้ไทยเป็นฮับ หรือศูนย์กลางด้านการศึกษาของอาเซียนได้ในระยะยาว

ทั้งนี้...​ ระยะแรกคงต้องให้โอกาสเด็กไทยก่อน ขั้นต่อไป คือ ทำให้สถาบันการศึกษาเป็นแบบอินเตอร์ เรียนผ่านภาษาอังกฤษ เพื่อให้เด็กไทยแข่งขันกับนานาชาติได้

.

โจทย์ด้านการพัฒนาไอคิว (IQ) เด็กไทย รวมทั้งผู้ใหญ่ไทยที่ไอคิวต่ำลงจากการไม่เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ

หรือไอคิวต่ำลงจากการดื่มหนัก หัวกระเทือน (จาก "เมาแล้วขับ + ง่วงแล้วขับ + นอนไม่พอ"), สมองขาดเลือดจากโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันเลือดสูง โคเลสเตอรอลหรือไขมันในเลือดสูง ฯลฯ เป็นโจทย์สำคัญของไทย

.

ถ้าทำได้...​ ประเทศไทยจะแข่งขันกับนานาชาติได้ในระยะยาว

เรียนมาด้วยความเคารพครับ

 

.

Thank PopSci & PopSci Sources > http://www.nature.com/news/archaeology-the-milk-revolution-1.13471#/lactasemap; http://www.ucl.ac.uk/mace-lab/publications/articles/2012/leonardi-IDJ-2012.pdf; http://www.popsci.com/science/article/2013-08/infographic-day-where-people-can-digest-milk

 

 


หมายเลขบันทึก: 544835เขียนเมื่อ 6 สิงหาคม 2013 23:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 สิงหาคม 2013 23:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

1) We started with yoghurt and within a week, we could drink fresh cow milk without any side-effect.

2) I had at one stage suggested (in a blog in Vicharkarn.com) a +I program in school. All food supplies to school children should have iodine (by using iodine salt at the minimum). The +I is for iodine and intelligence. It didn't get attentions.

3) You have ...อาหารโปรตีน (อาหารกลุ่มเนื้อ นม ไข่ ถั่ว โปรตีนเกษตร งา ฯลฯ)...  what is โปรตีนเกษตร?

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท