ความลับ


"มันเป็นความลับตรงไหน"

แม่ถามด้วยความข้องใจแกมหงุดหงิด  ที่ลูกสาววัย 10 ขวบบ่นหงุงหงิงๆ ไม่ยอมเลิก 

กับเรื่องที่แม่แบ่งปันเรื่องเล่าของลูก ใน line group วงสนทนาของพ่อแม่

 

"มันเรื่องปกติธรรมดามากเลย  ไม่เห็นมีอะไรเป็นความลับ

แล้วมันก็น่ารักดีเสียด้วย  พวกพ่อแม่ ก็จะได้เข้าใจความรู้สึกของเด็กๆ"

 

แม่ยังงุนงง  เพราะการแบ่งปันแบบนี้ก็ทำมาแต่ไหนแต่ไร 

บางเรื่องเป็นประสบการณ์ที่สด ดีมากๆ เมื่อเกิดปิ๊งแว๊บขึ้นในการสนทนาของเรา

แถมแม่ยังเอาไปเป็นวัตถุดิบในการเขียนหนังสือหรือทำงาน  หาเงินค่าขนมเลี้ยงลูกมาก็เยอะ

ลูกก็รู้ ลูกก็อนุญาต

.....

ความที่แม่ต้องทำงานทั้งที่ทำเงินและไม่ทำเงิน  ในการแบ่งปันกับบรรดาพ่อแม่เกี่ยวกับสุขทุกข์

เรื่องลูก  ประสบการณ์ตรงจากลูกและเด็กรอบตัวนี่แหละที่ได้ผลชะงัดกว่าตำราใดๆ

ที่จะเจาะใจคลายทุกข์ให้พ่อแม่ได้เปิดมุมมองหลากหลายขึ้น  

ถือเป็นการทำงานที่ได้ทำบุญด้วย ได้เพื่อนด้วย

แล้วช่วง 10 ปีของอายุลูก  มันมีการเปลี่ยนแปลงและประสบการณ์ที่สดใหม่

เราใช้เวลาก่อนนอนคุยกันเกือบทุกคืน  บางเรื่องแม่ฟังแล้วก็อึ้งๆ ไม่รู้จะช่วยอย่างไร

แต่ก็ใช้เทคนิคการฟังด้วยหัวใจ  แล้วเวลาผ่านไปลูกก็มาสรุปประสบการณ์ให้ฟังเองว่า

ปัญหาเหล่านั้นมันคลี่คลายไปอย่างไร .... ประสบการณ์แบบนี้ที่อยากสนับสนุนให้พ่อแม่มีบ้าง

ด้วยการรับฟังและให้เวลากับการพูดคุยกับลูกอย่างสม่ำเสมอในเวลาที่พร้อมทั้งสองฝ่าย

อยากเป็นแรงบันดาลใจให้พ่อแม่สังเกตเวลาทองที่เรียกว่า "ส้มหล่น" แบบนี้บ้าง

มันทำให้เกิดการเรียนรู้ด้วยกัน  ได้ดีกว่าเวลาที่เราตั้งใจอบรมบ่มนิสัยลูกเสียอีก

.....

ในที่สุด  ลูกสาวก็พูดเบาๆ ด้วยเสียงกระเง้ากระงอดว่า

"ก็มันเป็นเรื่องความรู้สึกของหนู...หนูเล่าให้คุณแม่ฟังคนเดียว  ถ้าจะเล่าต้องขออนุญาตหนูก่อน"

.....

แม่เลยจบ...เข้าใจแล้วค่ะ

มันไม่ใช่ความลับทั่วๆ ไป  แต่มันเป็นความไว้ใจ  ที่จะแบ่งปันเรื่องราวประจำวัน

และอารมณ์ความรู้สึก....เฉพาะกับคนที่ไว้ใจ...คือแม่เท่านั้น

(พ่อเอาไว้เล่นอย่างเดียว)

.....

เป็นอีกครั้งที่แม่เรียนรู้ว่า "ฟังด้วยหัวใจ" มันต้องใช้ใจเขาไม่ใช่แค่ใจเรา

ต้องเตือนตัวเองว่าลูกเริ่มโตและมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

แม่เลยต้องงดแบ่งปันเรื่องลูกเรื่องเพื่อนลูก (อย่างเปิดเผย) 

แม้จะมีคนรอฟังและแม่เห็นว่ามันจะช่วยคนอื่นได้มาก

เพราะลูกช่างเล่าและวิเคราะห์ให้แม่เห็นสุขทุกข์ของเด็กๆ ได้ดี 

.....

และนี่เป็นที่มาของบันทึกลึกลับใน gotoknow นี้ค่ะ 

โดยนักเขียนลึกลับ  ตัวละครลึกลับ  มิใช่จะอยากลึกลับ 

แต่ต้องเลือกที่จะรักษาความไว้วางใจของลูกไว้ก่อน

เพราะมันสำคัญมากที่สุดที่ลูกมีให้

แต่ด้วยความเสียดายประสบการณ์สดๆ แบบนี้ที่น่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้าง

และเป็นบันทึกในช่วงชีวิตที่เมื่อผ่านไปแล้วก็จะลืมเลือน หมดความหมาย

เล่าใหม่ก็ไม่ได้อรรถรส

....

โอม!! จงเป็นบันทึกลึกลับ  ไม่รู้ลูกใคร ไม่รู้แม่ใคร  

โอม!! ลูกและเพื่อนลูกคงไม่เข้าเว็บ gotoknow หรอก

เพี้ยง!!

 

 

 

 

 

 

 


 

หมายเลขบันทึก: 543579เขียนเมื่อ 25 กรกฎาคม 2013 13:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 กรกฎาคม 2013 13:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

   .... พ่อแม่ .... ที่เข้าใจความรู้สึกของเด็กๆ ..... เป็น พ่อ แม่ ตัวอย่างที่ดี นะคะ  ขอบคุณมากค่ะกับบทความดีดีนี้ค่ะ ...

ใจตรงกันเลยครับ..

เคยโพส เรื่องลูกสาวลงในเฟส ลูกคอมเม้นท์บอกว่า... พ่อจ๋าาาาสงสารหนูเถอะ...ประมาณว่าเป็นความลับของเขา แม้จะเป็นเรื่องดีๆไม่เสียหายก็ตาม

ทุกวันนี้เวลา จะเฟส ต้องระวัง

ส่วนในg2k ก้มีบอกลูกบ้าง ก็ไม่ซีเรียสเท่าเฟสครับ คงเพราะเพื่อนๆลูกสาวคงไม่เข้ามาดูกันเท่าไหร่...

เฮ้อ..

ก็หนีจาก fb มา g2K แทนนี่แหละค่ะ  

แค่เสียดาย  อยากบันทึกไว้  อนาคตเขาคงไม่ว่าอะไรถ้าได้อ่าน

เขียนลงสมุดมันก็ไม่ได้อารมณ์น่ะค่ะ

เมื่อคืนก็มีเรื่อง "ขโมย ... เราต้องสรุปบทเรียนด้วยนะคุณแม่"

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท