Evidence based practice: Autism spectrum disorder
จากการศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมบำบัด และ Autism Spectrum Disorders ทำให้เกิดความสนใจในการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ทางกิจกรรมบำบัด และสรุปองค์รวมความรู้ต่างๆ ดังนี้
Autism spectrum disorder เป็นกลุ่มอาการที่มีพัฒนาการล่าช้าในด้านสังคม การสื่อความหมายและภาษา มีพฤติกรรม ความสนใจและพัฒนาการที่ไม่เป็นปกติ โดยสามารถแบ่งประเภทได้ดังนี้
1. Autistic disorder
2. Rett's disorder
3. Childhood disintegrative disorder
4. Asperger's disorder
5. PDD-NOS
ซึ่งส่งผลกระทบในการทำกิจกรรมการดำเนินชิวิตของเด็ก เช่น การเรียน การเล่น การสื่อสาร มีส่วนร่วมในสังคมหรือครอบครัว รวมถึงการทำกิจวัตรประจำวัน เป็นต้น โดยจากการศึกษางานวิจัยได้มีการกล่าวถึงกระบวนการรักษาเกี่ยวข้องกับ Sensory integration โดยได้ทำการวัดผลหลังจากการรักษาในทันที ซึ่งจากผลการรักษาไม่มีความแตกต่างกันมากกับกลุ่มเด็กเล่นตามปกติ แต่อย่างไรก็ตามการรักษาก็อาจมีผลให้เห็นเมื่อรักษาอย่างต่อเนื่องและในสิ่งแวดล้อมที่บ้าน (Renee L. Watling and Jean Dietz, 2007)
Frame of reference ที่เกี่ยวข้องในการรักษากลุ่มอาการ Autism spectrum disorder เช่น
- Developmental frame of reference
- Psychosocial
- PEOP
- Domain & Process
เพื่อส่งเสริมความสามารถและพัฒนาการของเด็กในด้านต่างๆ และเกิดกระบวนการเรียนรู้ในการทำกิจกรรมการดำเนินชีวิตทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา
ความเห็น (2)
ดิฉันมีความคิดเห็นว่า เราสามารถใช้ Frame of reference อื่นร่วมกับการทำการรักษาโดยใช้ Sensory integration เช่นการใช้ PEOP ในการคำนึงถึงบริบทของสิ่งแวดล้อม และมีการปรับให้เหมาะสมกับเด็กแต่ละคน รวมถึงเมื่อกลับไปบ้าน ผู้ปกครองสามารถประยุกต์อุปกรณ์ที่มีมาใช้เพื่อการฝึก โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อของเพื่อใช้ฝึกน้องเหมือนในห้องฝึก และนอกจากนี้ควรมีการ Support ด้านจิตใจของผู้ดูแล ให้มีความเข้าใจในอาการของโรค ไม่เกิดความวิตกกังวล หรือความเครียดในการดูแลเด็ก ซึ่งความเครียดอาจส่งผลถึงทั้งผู้ดูแลและเด็กได้
เป็นงานงานที่ดีจังเลยครับ ขอบคุณที่ให้ความรู้ครับ..