AAR การมา 3 วัน (2/2)


AAR การมา 3 วัน (2/2) มันยาวเลยตัดเป็น 2 บันทึกค่ะ (ต่อ)

-ความประทับใจ

  ประทับสิ่งที่ครูให้โอกาสได้เรียนนวดกับน้องน้อย ครูเคยเปรยให้ฟัง เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายกับตนเองอยู่ แต่น้องเป็นคนที่เต็มที่กับสิ่งที่ทำ อย่างน่าชื่นชม จิตใจดี ได้เห็นคนอื่นแล้วก็ย้อนมาใจหนูมันยังห่างกับคำว่า “เต็มที่อยู่มาก” เพราะพอจะดันหลังให้มันเต็มที่มันก็ชอบขอพัก แล้วก็เสร็จกัน ไม่ได้ลุยต่อ

  ประทับใจกระบวนการเรียนรู้ เหมือนที่นี่ก็ปรับหมุนวนไปตามธรรมชาติ ใจครูเปิดกว้างมาก ๆ พร้อมให้โอกาสทุกคน ทุกช่วงเวลาที่จะดำเนินการแก้ไข ที่นี่การอบรมเหมือนได้กลืนเข้าไปในวิถีการทำงานไปแล้ว การเดินเข้าออก เพื่อเรียนรู้ฝึกฝน น่าชื่นชมที่ ถ้าติดงานก็ออกไปทำงาน เสร็จงานก็อยากจะเข้ามาเรียนรู้กับครู เป็นการเปิดกว้างทั้งใจครู และใจของผู้เรียนเจ้าค่ะ

  อันนี้เป็นการประทับใจที่เห็นจิตชั่ว ๆ ของตัวเองเจ้าค่ะ การเดินทางเส้นทางเดิม แต่จิตหนูก็สร้างเรื่องด้วย การหลงทาง มันก็น่าทุบกะบาลอย่างไม่ต้องสงสัย จิตนี้มันหาเรื่องได้ไม่วายเว้นจริง ๆ เจ้าค่ะ พอตื่นขึ้นมาเห็นก็รู้สึกยอมรับไม่ได้ อยากหนีไปไกล ๆ การหนีแบบหยาบ ๆ จิตก็ทำให้เหนื่อยเพลียหนักแล้วก็ไปนอน เวลาก็ถูกกิเลสกลืนกินไปเรียบร้อย หนีแบบหนักข้อขึ้นก็เก็บของออกจากวัด หนักข้อขึ้นไปอีกก็ไม่อยากมาวัด หรือละเอียดลงไปอีกก็คงจะมาวัดแบบใจหนัก ๆ ไม่โล่งเบาเพราะใจเป็นอกุศล เหมือนตอนที่พาคนมาภาวนาแต่ไม่ยอมเข้ามาหาครู อันนี้นี่จิตนี้ยังอยู่ขั้น บีบให้เพลียให้ง่วงแล้วก็นอน ทั้ง ๆที่ก็นอนมากแล้ว

   

  ประทับใจสิ่งที่ครูสอน เรื่อง อกุศลเจตสิก หนูได้ยินคำว่า ดูจิต ดูอาการของจิตมาตั้งนาน เขียนถึงตอนนี้ระลึกถึงคำหลวงปู่ว่า

“ต่อไปก็ทำใจให้สบาย กิเลสตัวไหนมาก็จะได้เห็น ได้รู้จัก”

นี่ครูมาแปลให้ พาลงมือทำ พาชี้ให้เห็นแบบจะจะ

ใจหนูไม่ยอมดู ไม่ยอมรับ ครูก็เคี่ยวเข็ญจนได้เห็น แทบร้องไห้กับตนเองที่ใจมันชั่วได้ขนาดนั้น เห็นแล้วก็เบาดับวับ รวมถึงเห็นความมั่ว ๆ ของจิตที่ชอบแถ จากการถามว่า

“แล้วไง แล้ว มันคืออะไร อะไรเป็นสาเหตุ ทำไมมันเป็นแบบนี้”

ประทับใจวิธีที่ครูพาให้รอด จิตหนูมันหนักหนาขนาดที่ครูต้องใช้ไม้แข็ง ฟาดทั้งกะบาลและใจ แต่พอครูลงมือใจมันก็เบา

จิต เป็นเรื่องที่ “ฝึกยาก”

ก่อนหน้านี้เหมือนหนูไม่ได้เห็นกับตนเองถึงอาการ แต่พอมาเริ่มเห็นแบบแหลม ๆ ที่เคยคิดว่า “มันคือ จิต มันไม่ใช่เลยเจ้าค่ะ”

ที่เข้าใจกับตนเอง เหมือนอาการที่ อยู่ข้างในนี่แหละที่มันตอบสนองต่อสิ่งต่าง ๆ ตามความเคยชิน โดยเฉพาะ เสียงเตือนสติของครู ทำให้เห็น

วิธีการตอบสนอง คำพูดของครู แบบแถและเฉไฉ

ทั้ง ๆที่ หนูตั้งใจกับตนเองว่า จะทำตามให้ได้

เผลอ อ้าวผลออกมา จิตชั่วลากไปอีก ทำให้ทำผิด ฮ่วย

แทนที่มันจะโกรธจิตตนเอง ไปโกรธ ครูซ้ำ จิตชั่วมันก็ยังคอยตลบหลัง มาเพ่งโทษ โกรธแค้น ครูที่เตือน

นี่แหละเจ้าค่ะ แทนที่จะรอด กลับลงนรกหนัก คิดขึ้นมากับตนเองก็ ไม่น่าแปลกใจที่ หนูจะเป็นรายต่อไปที่จะต้องรับผล เพราะเหตุนั้นจิตนี้ได้สร้างไว้แล้ว อันนี้แค่เท่าที่พอ ได้คิด ได้เห็นกับตนเองในชาตินี้ ชาติก่อน ๆ คงไม่ต้องเอ่ยถึง บังเอิญแทบไม่มี เชื่อว่า คงจะสั่งสมความชั่วช้ามามาก เขียนมาถึงตรงนี้

ถามตนเอง แล้วแกไม่อยากแก้ไขเหรอ

ถ้าไม่อยากแก้จะมาใช้ชีวิตแบบนี้เหรอ 

ถ้าไม่อยากแก้ก็ไปหลงโลก สนุกสนานเฮฮาแบบชั่วครั้งชั่วคราวไปแล้ว

ไม่มานั่ง เอ๋อ รับประทานไปวัน ๆ ด้วย อยากเข้าใจ แต่ไม่เข้าใจแบบนี้หรอก

หนูปฏิเสธไม่ได้เจ้าค่ะ ว่าตอนที่ครูตี จิตมันเคลื่อนไปที่ความน้อยใจ อันเป็นเชื้อของความโกรธและอัดแน่นเข้าไปเป็นความอาฆาต จิตหนูเคลื่อนไปแบบนี้จริง หากบอกว่าไม่ใช่ศีลก็ขาดกันพอดี ก็คงเหมือนลูกที่ถูกแม่ตี แล้วก็คิดเอาเอง มั่วเองว่า

“แม่ไม่รัก”

ทั้งที่จริงก็เพราะแม่รักนั่นแหละถึงได้ลงมือตี เพื่อให้ได้สติ 

เห็นความจริง แล้วไม่ทำชั่วซ้ำ

และก็เหมือนได้วิธี ทุบก้อนแน่น ๆ ในใจด้วยคำถามว่า มันคืออะไร เห็นชัดว่า สิ่งที่ใจคิดได้ กับการลงมือทำมันก็ยังไม่สัมพันธ์กัน ดูเหมือนได้เห็นมันถนัดทางการ ทำในความคิด แต่เมื่อไม่ได้ลงมือทำก็เท่านั้นเอง เหตุไม่เกิดแต่หวังผลก็จบกันเจ้าค่ะหลากเรื่องราวหลายอย่างเกิดขึ้นให้ได้เห็นได้เรียนรู้ ประมวลกับตนเองก็ยัง “ไม่รอดเจ้าค่ะ เพราะใจมันมีอาการดื้อด้าน ผ่านมาถี่เจ้าค่ะ” กราบขอบพระคุณค่ะ


คำสำคัญ (Tags): #aar#km#แก้ไข#ภาวนา
หมายเลขบันทึก: 540930เขียนเมื่อ 30 มิถุนายน 2013 04:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 มิถุนายน 2013 04:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท