กรอบความคิด( paradigm)แตกต่าง วิธีคิดแตกต่าง การกระทำแตกต่าง บุคลิกแตกต่าง วิถีชีวิตแตกต่าง ผลลัพธ์ย่อมแตกต่าง ?


"ความคิดและการกระทำในอดีตกำหนดความเป็นไปในปัจจุบัน  ความคิดและการกระทำในปัจจุบันกำหนดความเป็นไปในอนาคต"

  ปัจจุบันการจะเป็นเศรษฐีมีการผ่อนแรง 2 แบบ คือ

1.คนรวยผ่อนแรงด้วยเงินโดยการลงทุน(Inventor) ใช้เงินต่อเงิน โดยการกู้เงินจากสถาบันการเงินมาลงทุน  

2. ส่วนคนทั่วไปผ่อนแรงด้วยเวลาและความสัมพันธ์ โดยการสร้างเครือข่าย(Network) ใช้การผ่อนแรง ใช้การเติบโตแบบทวีคูณไม่ใช่รายได้แบบเส้นตรง ใช้การทบต้นทางอิเล็กทรอนิกส์ ทำงานแบบฉลาด ใช้ปัญญา โดยการเป็นเจ้าของกิจการ(Business Owner) ในธุรกิจการตลาดแบบเครือข่าย(Network Marketing)

อิสรภาพทางการเงินและเวลา ถ้าไม่ใช้เงินต่อเงิน ไม่ใช้ปริญญา แล้วใช้อะไรล่ะ?   คำตอบคือ เจ้าของกิจการ(Business  Owner) ในการตลาดแบบเครือข่าย      ใช้ความฝัน ความปรารถนาอันแรงกล้า  แรงบันดาลใจจากส่วนลึกในตัว ไฟในตัว เสียงจากภายใน เป็นเสียงของผู้ใหญ่ไม่ใช่เสียงเด็ก ใจทั้งใจที่พร้อมจะเรียนรู้และทำความเข้าใจจากบุคคลต้นแบบไม่ใช่จากที่ปรึกษาและความสามารถในการนำความรู้ ประสบการณ์ ความชำนาญที่มีออกมาพัฒนา มาใช้ให้ถูกต้องเหมาะสม โดยการลงมือกระทำ และต้องรู้ว่าคุณจะสามารถทำเงินได้ดีที่สุดจากการเป็นเจ้าของกิจการ( Business Owner )

การเปลี่ยนแปลงของแต่ละคนเน้นที่ "ความคิดหรือวิธีคิด" มากกว่า " การกระทำ" เงินที่ได้มาในแต่ละด้าน ต้องใช้

วิธีคิด วิธีการ และบุคลิกที่ต่างกัน  การเปลี่ยนด้าน แม้จะเป็นคนเดียวกันแต่กรอบความคิด(paradigm) และวิธีคิดจะต้องเปลี่ยนไป

การเปลี่ยนด้านจึงเหมือนกับการเปลี่ยนชีวิตจิตใจเลยทีเดียว เหมือนหนอนที่เปลี่ยนตัวเองเป็นผีเสื้อ เพื่อนรอบๆตัว

ก็เปลี่ยนไป คนที่คบหาสมาคมด้วยจะเป็นอีกประเภทหนึ่ง เหมือนหนอนที่ไม่สามารถทำอะไรๆได้เช่นเดียวกับผีเสื้อ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ซึ่งหลายๆคนรับไม่ได้

"เงินสี่ด้าน - คนสี่ประเภท สร้างรายได้จากวิธีที่ต่างกัน รายได้ของคุณมาจากด้านไหนของ "เงินสี่ด้าน"

"เงินสี่ด้าน" หมายถึง รายได้จากการทำงานสี่ประเภท 1.รายได้แบบ Active Income  ถ้าคุณมีรายได้จากการรับเงินเดือน คุณคือลูกจ้าง(Employee)คำพูดของลูกจ้าง มักจะพูดว่า "ฉันชอบงานมั่นคง เงินเดือนดี พร้อมผลตอบแทนอื่นๆ" คนกลุ่มนี้ต้องการ "ความชัดเจน" "ความมั่นคง" และ "ผลประโยชน์" เป็นกลุ่ม "ฉันทำเอง" ส่วนคนทำธุรกิจส่วนตัว( Self - employed) มีรายได้จากการทำงานหรือทำธุรกิจของตัวเอง หยุดทำงานรายได้หยุด คนทำธุรกิจส่วนตัว ตัวเขาก็คือระบบ ดังนั้นเขาจึงไปไหนไม่ได้ คนประเภทนี้ต้องการเป็นอิสระ จะไม่ยอมให้ใครมาควบคุมรายได้เขาเด็ดขาด เป็นกลุ่ม "ฉันทำตามวิธีของฉัน"  2.รายได้แบบ Passive  Income  เจ้าของกิจการ( Business Owner) มีรายได้จากกิจการที่เขาเป็นเจ้าของ เขาทำงานอย่างฉลาด ไม่ใช่ทำงานหนัก เหนื่อยครั้งเดียวสบายตลอดชีวิต หยุดทำงานรายได้ไม่หยุดเพราะระบบ(System) ของบริษัทยังทำงานอยู่ รายได้ของนักธุรกิจเครือข่ายเหมือนท่อส่งน้ำ เขาทำงานครั้งเดียวแต่ได้รับผลตอบแทนไม่รู้จบ ท่อส่งน้ำมีเวลาเปิด  24/7/365 นั่นคือทำงานตลอด 24 ชั่วโมงในหนึ่งวัน สัปดาห์ละ 7 วัน ปีละ 365 วัน ซึ่งหมายความว่าท่อส่งน้ำจะสามารถทำเงินให้คุณได้ แม้ในยามที่คุณหลับ หรือเวลาคุณพักผ่อน หรือหลังเกษียณอายุราชการ ในยามที่คุณเจ็บไข้ได้ป่วย ทุพพลภาพหรือไปทำงานไม่ได้หรือแม้ในยามฉุกเฉินคับขัน

  เจ้าของกิจการในธุรกิจการตลาดแบบเครือข่ายจะเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ(Partner) กับบริษัทที่ทำธุรกิจแบบเครือข่ายที่มั่นคง เขายอมเหนื่อยชั่วคราวเมื่อประสบความสำเร็จสบายตลอดชีวิต รายได้ไม่มีเพดานจำกัด เป็นกัปตันนาวาชีวิตของตัวเอง

ทั้งรายได้และตำแหน่งสามารถโอนได้และเป็นมรดกตกทอดถึงลูกหลานได้โดยไม่ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ คติประจำใจของเจ้าของกิจการคือ "จะทำเองไปทำไมในเมื่อมีคนอื่นทำได้และทำได้ดีกว่าเสียด้วย" กฏทองคำคือ " ถ้าอยาก

ประสบความสำเร็จต้องช่วยเหลือผู้อื่นให้ประสบความสำเร็จ" เขาต้องค้นพบเสียงภายในและช่วยผู้อื่นให้ค้นพบเสียงภายในเช่นกัน เขาไม่เพียงสร้างการประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ แต่เขาต้องสร้างความเป็นเลิศด้วย  เจ้าของกิจการ(Business Owner) ต้องเข้าใจทั้งคนและระบบต้องถนัดเรื่องหาคนเก่ง - คนฉลาดมาร่วมงาน วิธีเรียนเพื่อเป็นเจ้าของกิจการ คุณต้องหาต้นแบบ

ต้นแบบคือ คนที่มีประสบการณ์ เคยทำและประสบความสำเร็จมาแล้ว  อย่าหาที่ปรึกษา เพราะที่ปรึกษารู้แต่วิธีให้

คำปรึกษาแต่ไม่เคยลงมือทำเอง ที่ปรึกษาส่วนมากอยู่ด้านลูกจ้างหรือธุรกิจส่วนตัว เขาอาจขโมยความฝันของคุณไป ส่วนนักลงทุน( Investor) มีรายได้จากการลงทุนต่างๆ เช่น ที่ดิน ทรัพย์สิน หุ้น  บริษัท โดยใช้เงินทำเงิน หรือใช้เงินต่อเงินทำรายได้มากขึ้น

สรุป " ถ้าคุณเปลี่ยนวิธีคิด ชีวิตก็เปลี่ยน " " ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก " แต่มีน้อยคนมากที่ข้ามฟากจากลูกจ้าง

มาเป็นผู้ประกอบการได้สำเร็จ ทำไมน่ะหรือ เพราะความรู้ ความเข้าใจ ด้านเจ้าของกิจการ (Business Owner) ไม่มี

สอนในโรงเรียน หลายคนมีความรู้ความเข้าใจทางเทคนิค แต่ขาดวิธีคิดที่ถูกต้อง

พวกเขาไม่รู้ว่าแต่ละด้านต้องใช้ " วิธีคิด " ไม่เหมือนกัน หากต้องการประสบความสำเร็จ คุณต้องเข้าใจวิธีคิดของคนแต่ละด้านเสียก่อน

บรรณานุกรม 

   - เงินทองไหลมาเทมา( ตามท่อ ) เบิร์ก  เฮ็ดเจส บริษัท เน็ทเวิร์ค ลิ้ดเดอร์ชิพ จำกัดม,2537

   - การตลาดลอกเลียนแบบ 101 ธุรกิจแบบเครือข่าย "วิธีการลอกเลียนแบบเพื่อนำคุณไปสู่ความมั่งคั่ง"

เบิร์ก เฮ็ดเจส บริษัท เน็ทเวิร์ค ลิ้ดเดอร์ชิพ จำกัด , 2537

  - พ่อรวยสอนลูก # 2 เงินสี่ด้าน ( พ่อรวยชี้ทางสู่อิสรภาพทางการเงิน) บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด ( มหาชน), 2544

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 


 

คำสำคัญ (Tags): #mba
หมายเลขบันทึก: 540507เขียนเมื่อ 25 มิถุนายน 2013 17:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 มิถุนายน 2013 17:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท