สังคมเพื่อการฝึกฝนหรือการแสวงหา คือ กลุ่มคนผู้ซึ่งหลงใหลสิ่งใดสิ่งหนึ่งร่วมกันสนใจร่วมกันและทำงานใกล้ชิดกันในสภาวะใดสถานะหนึ่งภายใต้การเรียนรู้
ภายในสังคมของมหาวิทยาลัยหรือคณะรวมถึงสังคมของนิสิตในมหาวิทยาลัย ต่างก็เป็นสังคมเพื่อการเรียนรู้ เป็นสังคมของการแสวงหาภายในมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมีหน้าที่หลักเสมือนเป็นหุ้นส่วนขององค์ความรู้ที่แข็งแกร่งร่วมกับการจัดการ จะเห็นได้ว่าการจัดการแหล่งความรู้มีความสำคัญเช่นเดียวกัน
แหล่งข้อมูลความรู้ เป็นกุญแจไขไปสู่สภาพแวดล้อมของการสอนและการเรียนรู้ อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่า มีแหล่งข้อมูลและความรู้มากมายที่จะสามารถเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะเป็นทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่รอการท้าทายในการแสวงหาข้อมูลความรู้ต่างๆ การให้ความสำคัญเกี่ยวกับการทำงานเพื่อให้ไปสู่จุดมุ่งหมายมากขึ้นในปัจจุบัน ประกอบกับความก้าวหน้าของสภาวการณ์การศึกษาทำให้เกิดระบบการจัดการความรู้
ระบบการจัดการความรู้ ช่วยในการส่งเสริมและสร้างสรรค์ เป็นตัวผลักดันองค์กร ข้อมูล ข่าวสารและความรู้ (ทั้งในทางตรงและทางอ้อม) ในสังคมต่างๆ ที่มีความสนใจและความต้องการที่คล้ายคลึงกัน การจัดการข้อมูล และการพัฒนาความรู้เป็นแนวคิดหลักซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนการทำงานขององค์กรเพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ รับส่งข้อมูลจากภายในสังคมสู่ภายนอก และจากภายนอกสังคมสู่องค์กร
ระบบการจัดการความรู้ เป็นการเชื่อมโยงและผสมผสานด้วยองค์ประกอบที่สำคัญที่ต้องอาศัยประสบการณ์ การเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ นั่นคือ ระบบสังคมที่ครูผู้สอนและนิสิตสามารถจัดการและแลกเปลี่ยนความรู้หรือข้อมูลไม่ว่าจะเป็นในด้านหลักสูตร การจัดการหลักสูตร รวมทั้งกิจกรรมการเรียนการสอน แก่กันและกัน
ความท้าทายของระบบการจัดการความรู้ นั่นคือ ความยากในการจัดการทางเทคนิค เนื่องจากความรู้มักจะต้องเกี่ยวข้องกับความแตกต่าง/ความหลากหลาย ของความชอบ/ความต้องการในการฝึกฝนในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่แตกต่างกันไปในสังคม ในบางสังคมสามารถเข้าถึงการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ได้โดยง่าย แต่เราต้องแน่ใจว่าระบบการจัดการความรู้นั้นๆ ตรงกับ/สามารถสนองต่อความต้องการของสมาชิกในสังคมนั้นๆ โดยต้องเป็นการสนองต่อความต้องการพื้นฐานด้วย
ระบบการจัดการความรู้ สร้างขึ้นจากพื้นฐานการร่วมมือของสังคมที่มีความชอบ/หลงใหลในการที่คนเราต้องการฝึกฝน ในด้านการสร้างสรรค์เพื่อการใช้ประโยชน์ของความรู้นั้นๆ Rosenberg (2001) กล่าวว่า ความสำคัญของสังคมไม่สามารถกล่าวได้หมด นั่นคือ สังคมมักจะสร้างโอกาสให้กับผู้คนได้มีการปฏิสัมพันธ์กันในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง/สิ่งใดสิ่งหนึ่ง จึงทำให้เกิดการกระจายและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การจัดการความรู้ กระตุ้นให้สมาชิกในสังคมได้สร้างสรรค์ความคิดและสรรค์สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ตัวอย่างเช่น
Learning Object Repositories (LOR) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้อย่างหนึ่งของการจัดการและพัฒนาความรู้ คือ แนวคิดในเรื่อง LOR – การเก็บข้อมูลความรู้ เสมือนห้องสมุด/คลังหนังสือ เป็นการรวบรวมข้อมูลที่เป็นที่ต้องการ ตามความต้องการของศูนย์ข้อมูลนั้นๆ เช่น เพื่อการวิจัย เพื่อการศึกษาที่สามารถสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ในรูปแบบต่างๆ
Learning object คือ แหล่งข้อมูลที่ประกอบด้วยหน่วยย่อยต่างๆ ที่นำมารวมกัน โดยเราสามารถรับส่งข้อมูลด้วยการใช้ตัวเลขหรือเครื่องหมายสัญลักษณ์ เพื่อให้ง่ายต่อการศึกษาและถ่ายทอด เนื่องจากมีความหลากหลายของข้อมูล ที่ได้จากประสบการณ์การสอนซึ่งได้รวบรวมจากสภาวการณ์ต่างๆ
Sharing Knowledge คือ การร่วมกันแบ่งปันแลกเปลี่ยนเรียนรู้
Learning Objective - ลักษณะการแบ่งปันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ที่ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในด้านต่างๆ
LOR – เป็นกุญแจไขไปสู่การแลกเปลี่ยนแบ่งปันข้อมูลความรู้ต่างๆ เพื่อการค้นหา แบ่งปันการจัดการความรู้
การคำนึงถึงความรู้กับการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม บ่อยครั้งที่ข้อมูลความรู้ที่มีอยู่มักไม่สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ เนื่องจากมันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งหรือไม่สามารถตอบสนองต่อสังคมนั้นๆ ได้ การจัดการองค์ความรู้ให้เกิดประโยชน์และได้ผลจึงต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม/สภาพแวดล้อมนั้นๆ ด้วย รวมทั้งลักษณะของบุคคลด้วย จึงมีคำถามเกิดขึ้นว่า เทคโนโลยีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมนั้นสามารถตอบสนองต่อความต้องการของสถาบันในสังคมนั้นๆ หรือไม่ ความท้าทายจึงเป็นการออกแบบรูปแบบการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนองค์กรที่สามารถนำไปปรับใช้ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันออกไปและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา การพัฒนาของ E-Learning และการจัดการความรู้ ในสถาบันการศึกษาจึงเริ่มจากความรู้ในห้องเรียนด้วยกลไกลของสภาพแวดล้อม
ความรู้ในระบบนิเวศน์ หรือการจัดการความรู้ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นลักษณะการผสมผสานของเนื้อหากับสภาพแวดล้อม ได้แก่ การกระทำ/การแสดงกลับ การแยกตัว/การร่วมมือ การตอบสนอง/การถูกควบคุม
ความรู้ในระบบนิเวศน์ หรือการจัดการความรู้ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความชอบ/หลงใหลในคุณค่าของธรรมเนียม จารีต แบบอย่าง ของการวิจัยค้นคว้าในมหาวิทยาลัย ยิ่งไปกว่านั้น ยังแสดงถึงยุทธศาสตร์ที่แตกต่างกันไปของมหาวิทยาลัย ในการกระตุ้นให้เกิดกลไกลเพื่อการการศึกษาในระดับสูง/ขั้นสูง ทั้งในระดับชาติและนานาชาติ
ความรู้ในระบบนิเวศน์ หรือการจัดการความรู้ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม จึงเป็นสิ่งเติมเต็มที่มีคุณค่า ท้าทายในการวิจัยของมหาวิทยาลัยในศตวรรษที่ 21 อาจกล่าวได้ว่ากระบวนการสร้างความรู้ในองค์กรประกอบขึ้นจากคุณค่าของธรรมเนียมจารีตแบบอย่างของมหาวิทยาลัยนั้นๆ
เมื่อพิจารณาถึงความหลากหลายของมหาวิทยาลัยที่สมบูรณ์แบบ ด้วยยุทธศาสตร์ในการสร้างเครือข่าย เพื่อให้เกิดกลุ่มการจัดการด้วยตนเอง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อการสร้างสรรค์ สะสมความรู้ในรุ่นต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้เกิดความเป็นอิสระ และการประสาน มิใช่เพื่อการจัดการระบบเพียงแค่ในส่วนกลางเท่านั้น หากแต่เป็นการกระจายไปสู่ท้องถิ่น
ดังนั้น ถ้ามหาวิทยาลัยคาดหวังสู่การเป็นผู้นำในการปฏิวัติองค์ความรู้ มหาวิทยาลัยต้องตระหนักถึงสภาพ/ระบบของธรรมชาติ/สิ่งแวดล้อมนั้นๆ อย่างถ่องแท้และใช้องค์ความรู้เพื่อการพัฒนาอย่างหลักแหลมตามสภาพความเป็นจริง
เว็บอ้างอิง http://commons.ucalgary.ca/documents/KM_eLearning.pdf.
ไม่มีความเห็น