สาหร่าย (Algae) มองผิวเผินลักษณะคล้ายพืช แต่ไม่มีส่วนที่เป็นราก ลำต้น และไม่มีใบที่แท้จริง บางสายพันธุ์มีขนาดเล็กมากและมีเซลล์เดียว ในขณะที่บางสายพันธุ์มีขนาดใหญ่ประกอบด้วยเซลล์จำนวนมาก และเป็นเส้นสายคล้ายพืชชั้นสูงก็มี การแบ่งจำพวกสาหร่ายแบ่งตามรูปร่างภายนอกหรือดูตามสี เช่น สาหร่ายสีเขียว เขียวแกมน้ำเงิน น้ำตาล และสีแดง สาหร่ายสืบพันธุ์โดยไม่อาศัยเพศก็มี อาศัยเพศก็มี
จากการศึกษาวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ข้อสรุปว่า สาหร่ายเป็นพืชที่ผลิตน้ำมันได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในบรรดาพืชทั้งหมดบนโลกนี้ โดยนักวิทยาศาสตร์ที่สถานีทดลองพลังงานทดแทนแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (NREL) ได้รวบรวมและเพาะเลี้ยงสาหร่ายไว้กว่า 300 สายพันธุ์ที่เจริญเติบโตโดยการใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และผลิตน้ำมัน โครงการไบโอดีเซลจากสาหร่ายของ NREL สร้างบ่อเพาะเลี้ยงสาหร่ายไว้ในหลายพื้นที่รวมทั้งบริเวณใกล้ทะเลทรายในนิวเม็กซิโก และพบว่าสาหร่ายจะเจริญเติบโตเร็วมาก ประมาณน้ำหนักได้ 50 กรัมต่อตารางเมตร/วัน ดังนั้นในบ่อขนาด 1,000 ตารางเมตร จึงสามารถผลิตสาหร่ายได้ถึง 50,000 กรัม/วัน หรือ 50 กิโลกรัม/วัน
นอกจากนี้ รองศาสตราจารย์ ดร. ยุวดี พีรพรพิศาล
จากห้องปฏิบัติการวิจัยสาหร่ายประยุกต์ สาขาวิชาจุลชีววิทยา ภาควิชาชีววิทยา
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่าเซลล์ของสาหร่ายมีกรดไขมันค่อนข้างสูง โดยทั่วไปจะมีราว 20% แต่บางชนิด อาจมีถึง 60-70% ถ้าเลี้ยงเป็นปริมาณมากๆ
แล้วนำมาผ่านกระบวนการทางเคมีที่เรียกว่า เอสเทอริฟิเคชัน (Esterification)
ก็จะได้ไบโอดีเซล ซึ่งใช้เป็นน้ำมันเชื้อเลิงเติมรถยนต์ได้เลย หรือใช้กระบวนการไพโรไลซิส
(Pyrolysis) ซึ่งเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบทางเคมีโดยใช้ความร้อนในสภาวะไร้อากาศ
ซึ่งในที่สุดก็จะได้น้ำมันก็ออกมาเช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังมีกระบวนการอื่นๆ
อีกหลายอย่างที่สามารถเปลี่ยนชีวมวลของสาหร่ายเป็นน้ำมันได้ โดยเฉลี่ยสาหร่ายสามารถสกัดไปเป็นน้ำมันได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับว่าในบ่อพื้นที่ 1,000 ตารางเมตรก็จะได้น้ำมัน 25
กิโลกรัม/วัน ใน 1 ปีก็จะสามารถผลิตน้ำมันได้ 9,125 กิโลกรัมหรือประมาณ 7,600 ลิตร
ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์การผลิตน้ำมันได้มากกว่าพืชชนิดอื่นๆ
เช่น คาโนลา สบู่ดำ ยิ่งกว่านั้นนักวิจัยของ NREL ยังระบุว่าหากพัฒนาการเพาะเลี้ยงและการสกัดน้ำมันจากสาหร่าย
แบบโรงงานขนาดใหญ่ ต้นทุนในการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจะมีเพียงลิตรละ 12 บาท เท่านั้น
อ้างอิง :
http://vcharkarn.com/varticle/38596
http://www.xconomy.com/san-diego/2011/01/14/five-innovations-to-look-for-in-algae-biofuels/
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2
http://www.การเกษตร.com/สาหร่ายน้ำมันเชื้อเพลิ/
http://www.csri.or.th/new2012/index.php?option=com_k2&view=item&id=1821:เชื้อเพลิงสาหร่าย&Itemid=830
http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9560000000334
http://biology.cru.in.th/biology/images%5Cpdf%5Cphyco%5Cphyco02.pdf
ขอบคุณในบทความครับ แต่ผมก็ยังไม่มั่นใจในตัวเลข ที่ว่า "1,000 ตารางเมตรก็จะได้น้ำมัน 25 กิโลกรัม/วัน" พื้นที่แค่ประมาณ 2 งานกว่าๆ เราจะได้น้ำมันถึง 25 kg จริงๆ หรือครับ หรือว่าจะต้องเป็นสาหร่ายชนิดพิเศษ ตามที่ผมค้นหาข้อมูล คำนวณดูแล้ว พื้นที่เท่านั้นไม่น่าจะได้เกิน 10 ลิตร/วัน.. แต่กระนั้นก็ยังน่าสนใจในการได้รับการพัฒนาครับ