สิรภัทร
สิรภัทร จิตตะมาลา ลิ่มไพบูลย์

“โครงการอัตลักษณ์ท่าศาลาเชิงบูรณาการ” จังหวัดนครศรีธรรมราช (ภาค 14 ปริศนาธรรมจากพ่อท่านพุ่ม กตปุญโญ (อายุ 111 ปี) )


             ปริศนาธรรมจากพ่อท่านพุ่ม กตปุญโญ (อายุ 111 ปี) วัดถ้ำเจดีย์ หลังวัดท่ายาง ในตลาดอำเภอทุ่งใหญ่ กล่าวตอบสุในวันไปกราบท่านและถามคำถามท่านว่างานใหญ่สำเร็จได้อย่างไร? ท่านตอบว่า “ทำงานใหญ่ ต้องรู้แบบเขา แต่ให้ทำแบบเรานะ” สุถามซ้ำว่าแบบเราคือแบบไหน ท่านตอบว่า “ก็แบบเราไง”

            ปริศนาที่สุถามหมายถึง การขับเคลื่อนเศรษฐกิจทวนกระแสท่ามกลางวิกฤติสังคมไทย สุพยายามอ่านหนังสือหลายเล่มและทำงานร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกำลังใจจากผู้ที่ทุ่มเทมากที่สุดคือทีมงานนายอำเภอถาวรวัฒน์ คงแก้วและคณะฯ (นายอำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช) พี่น้อง 109 หมู่บ้าน ของอำเภอแห่งนี้  คณาจารย์ที่ร่วมโครงการฯ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาครัฐ ภาคองค์กรสาธารณประโยชน์ต่างๆ ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา

                       

                                        พ่อท่านพุ่ม กตปุญโญ ตอบคำถามสไตล์ผู้สูงวัย (111 ปี)

                       

                                                         อริยบถเรียบง่ายยามรุ่งเช้าวันใหม่  

                วันนี้ ณ มุมสวนหนังสือแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช  สุพบแสงทองจากสายธรรมในเรื่องราวที่ถ่ายทอดจากหลวงพ่อพระธรรมปิฎก(ป.อ. ปยุตฺโต)

                การอ่านครั้งนี้ทำให้เกิดแรงบันดาลใจเดินบนเส้นทางเศรษฐกิจทวนกระแส หลวงพ่อสอนว่า “นักพัฒนาที่แท้จริง ยามเจอทุกข์ยิ่งได้ธรรม ยามเจอปัญหายิ่งได้ปัญญา ผฏฺฺฐสฺส โลกธมฺเมหิ จิตฺตฺํยสฺส น กมฺปติ อโสก วิรชํ เขมํ เอตมฺมงฺคลมตฺตมํ ผู้ใดถูกโลกธรรมกระทบแล้ว มีจิตไม่หวั่นไหว ไร้ธุลีมลทิน ยังมีความผ่องใสอยู่ได้ เป็นจิตเกษมปลอดโปร่งเป็นมงคลสูงสุด” เป็นข้อความปลอบใจคนทำงานในบทบาทผู้ประสานงานมหาวิทยาลัย

                วันนี้จึงสอนตัวเองว่า “ผู้ประสานงานคือคุณค่าที่ทำให้ได้ประพฤติธรรมร่วมกับหมู่คณะฯ ถ้าจุดที่ยืนอยู่ไม่ได้ช่วยให้ประชาชนประพฤติธรรม ก็หาประโยชน์อะไรไม่ได้ อย่างนี้ถูกต้องไหมค่ะหลวงพ่อ”

                แรงบันดาลใจธรรมที่หลวงพ่อถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือสื่อถึงสุ หากเป็นเพียงบทบาทภรรยาและคุณแม่ของลูก 1 คน คิดว่าขยับงานได้ไม่ยากนัก แต่สำหรับการขยับงานสังคมใหญ่ การเล็งหาจุดเริ่มต้นและต่อภาพ การค้นหามิตรภาพในงานเพื่อสังคมเป็นเรื่องท้าทายมากๆ

              ขณะนั่งคิดเพลินๆ เหลือบตาไปที่บริเวณบานประตูของสวนหนังสือมีข้อความดีๆเขียนให้กำลังใจไว้ว่า 

                                      “Strenght is a matter of the made-mind - John Bechure "

                                                   ความเข้มแข็งเป็นเรื่องที่ขึ้นกับจิตใจที่มุ่งมั่น”

                                      “Failure is only the opportunity to begin again more intelligently- Harry Ford"

                                              ความผิดพลาดทำให้ ได้โอกาสเริ่มต้นใหม่ที่ฉลาดกว่าเดิม”

                                       “The Greatest Pleasure in life is doing what others say you cannot do -"

                                        ความสุขใจอย่างท่วมล้นในชีวิต คือ การทำสิ่งที่ผู้อื่นบอกว่ายังไงคุณก็ทำไม่ได้ 

              หนังสือธรรม ชื่อ “ทรัพย์-อำนาจ ทวนกระแส ?” ที่สุบรรจงอ่านในวันนี้ขออนุญาตนำสาระมาถ่ายทอดและพัฒนาโครงการอัตลักษณ์ท่าศาลาเชิงบูรณาการ พอสังเขป ดังนี้


...กระแสของความเจริญที่มีปัญหาในปัจจุบัน คนไทยไม่ควรปล่อยตัวเรื่อยเปื่อยตาม

...ทวนกระแสไม่เหมือนต้านกระแส (ต้านกระแส คือ เน้นไปที่ผู้อื่น เน้นไปที่ตัวกระแสที่เราไม่พอใจจึงไปต้านไปปะทะโดยไม่มีจุดหมายของตนเอง)

ทวนกระแสคือ มีแนวทาง มีจุดมุ่งหมายตนเองชัดเจน ตนเองต้องเท่าทันว่ากระแสส่วนใหญ่ที่เป็นอยู่มีข้อเสียอย่างไร รู้ในคุณในโทษของมัน ส่วนดีอาจมีอยู่บ้างตัวเราต้องเข้าใจ ส่วนเสียเป็นอย่างไรซึ่งบางทีมีไม่มากแต่เป็นจุดสำคัญต้องเข้าใจ “จับจุดให้ได้ว่าเราต้องทวนกระแสนี้เพราะเหตุใด”

ทวนกระแส มี 2 ระดับ

1)  ระดับสังคม : มองว่าสังคมปัจจุบันกระแสเป็นอย่างไร มีคุณโทษ ข้อดีข้อเสีย อย่างไร ด้วยเหตุผลอย่างไร และกระแสที่เราจะไปนั้นเทียบกันแล้วเป็นอย่างไร (เข้าใจตามความจริง-เพื่อให้มั่นใจแนวทางที่ดีงาม)

2)  ระดับรากฐานภายใต้กระแสที่ปรากฏ : มองดูแก่นแท้แห่งความปรารถนาของชีวิต ในการจะทำให้ชีวิตทวนกระแสระดับสังคมไปได้ดีเมื่อดำรงชีวิตที่ต่างออกไป เช่น ความเรียบง่าย ความดีงาม ความถูกต้อง จิตเป็นสุขในสภาพชีวิตนั้น เป็นพื้นฐานทำให้ยั่งยืนเพราะเกิดความมั่นใจที่จะนำพาคณะฯก้าวไป

...กระแสที่เป็นเองโดยไม่ต้องทวนเลย เรียก “ขั้นชีวิตทวนกระแสสมบูรณ์โดยไม่ต้องทวน ” ผลต่อชีวิตตนเองเป็นพยานยืนยันตนเอง เริ่มจากตนเองเป็นต้นไปแล้วแผ่ผลออกสู่ภายนอก เป็นทางขยายกระแสใหม่ เป็นแบบอย่างที่ดีงามที่ประเสริฐ มีคุณค่า มีประโยชน์ล้ำค่า

...ทวนกระแสสังคมได้สำเร็จเมื่อมีกระแสการพัฒนาตนเองอยู่ข้างใน เริ่มจาก ศีล 5

...สุขภายใน...สงบในใจ...สมาธิเกิด...เห็นความจริง...ปลอดโปร่ง ไม่มีสภาพใดบีบคั้น


             กราบขอบพระคุณหลวงพ่อที่ถ่ายทอดสาระธรรมเป็นทานในวันนี้ ขอบารมีหลวงพ่อได้โปรดให้โอกาสลูกนำสาระจากการอ่านในครั้งนี้ไปปรับประยุกต์ใช้ในงานเพื่อประโยชน์แก่สังคมต่อไป และนี่น่าจะคือคำตอบเดียวกันที่พ่อท่านพุ่ม กตปุญโญ เฉลยไว้ตอนต้นว่า ก็แบบเราไง”


หมายเลขบันทึก: 538913เขียนเมื่อ 11 มิถุนายน 2013 13:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2013 14:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท