วิธีป้องกันนิ่วถุงน้ำดี และมะเร็งท่อน้ำดี



การศึกษาที่ผ่านมาหลายรายงานพบว่า การลดความอ้วนแบบเร็ว เพิ่มเสี่ยงนิ่วถุงน้ำดี จึงขอนำวิธีป้องกันนิ่วถุงน้ำดีมาเล่าสู่กันฟังครับ
[ umm.edu ]; [ nytimes ]; [ nhs.uk ]; [ doctoroz ]

ภาพที่ 1: ทางเดินน้ำดี

  • ตับ (liver_สีแดงน้ำตาล) สร้างน้ำดี (bile)
  • น้ำดีไหลออกจากตับออกทางท่อน้ำดี (hepatic ducts_สีเขียว)
  • สะสมไว้ในถุงน้ำดี (gall bladder_สีเขียว)

ถุงน้ำดีจะดูดน้ำออกจากน้ำดีบางส่วน ทำให้น้ำดีมีความเข้มข้นสูงขึ้น ปริมาตรน้อยลง

  • ไขมัน-โปรตีนในอาหาร กระตุ้นการหลั่งน้ำดี
  • ทำให้ถุงน้ำดีบีบตัวหรือหดตัว
  • น้ำดีจะไหลเข้าสู่ลำไส้เล็กส่วนต้น (duodenum_สีน้ำเงิน)

โรคนิ่วถุงน้ำดีพบบ่อยในคนที่มี '3F' ได้แก่ 'fatty, forty, female'

(1). fatty = อ้วน น้ำหนักเกิน

(2). forty = อายุ 40up = 40 ปีขึ้่นไป

(3). female = ผู้หญิง, ผู้หญิงอายุ 20-40 ปีเป็นนิ่วถุงน้ำดี 2 เท่าของผู้ชาย

ภาพที่ 2: แสดงทางเดินน้ำดี ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในช่องท้องด้านบนทางขวา

  • ตับ (สีแดง) อยู่ในช่องท้องด้านบนทางขวา
  • ถุงน้ำดีอยู่ใต้ตับ (สีเขียว) + นิ่วถุงน้ำดี (สีขาว)
  • ท่อน้ำดี (สีเขียว) ไหลลงสู่ด้านล่าง โดยผ่านไปด้านหลังกระเพาะอาหาร
  • ท่อน้ำดีจะรวมกับท่อตับอ่อน (pancreas_รูปคล้ายใบไม้ สีน้ำตาล) เป็นท่อน้ำดีร่วม ไหลเข้าสู่ลำไส้เล็กส่วนต้น

โรคนิ่วถุงน้ำดียังอยู่ในขาขึ้น เนื่องจากโรคอ้วนและภาวะน้ำหนักเกินอยู่ในขาขึ้นเช่นกัน

นิ่วถุงน้ำดีมี 2 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่

  • นิ่วโคเลสเตอรอลพบประมาณ 80%
  • นิ่วจากเม็ดสีที่ได้จากการทำลายเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ (เม็ดเลือดแดงมีอายุ 120 วัน)

คนที่เป็นโรคเลือดจางเรื้อรังธาลัสซีเมีย จะพบนิ่วเม็ดสีเพิ่มขึ้น

เนื่องจากเม็ดเลือดแดงมีอายุขัยเฉลี่ยสั้นลง มีการสร้าง-ทำลายเม็ดเลือดแดงบ่อยขึ้น มีของเสียจากการย่อยสลาย คือ เม็ดสีขับออกทางน้ำดีมากขึ้น

ภาพที่ 3: แสดงอวัยวะภายในช่องท้อง

  • ตับ (liver) + ถุงน้ำดี (gall bladder) + ท่อน้ำดีรวม (common bile duct) > อยู่ในช่องท้องด้านบนทางขวา
  • กระเพาะอาหาร (stomach) + ม้าม (spleen) > อยู่ในช่องท้องด้านบนทางซ้าย
  • ตับอ่อน (pancreas) รูปคล้ายใบไม้ > อยู่หลังช่องท้องด้านบน

ปัจจัยเสี่ยงของนิ่วถุงน้ำดีได้แก่

(1). ประวัติครอบครัว

(2). กินอาหารไขมันสูง โคเลสเตอรอลสูง เส้นใยหรือไฟเบอร์ต่ำ หรืออาหารมื้อใหญ่
กล่าวกันว่า นิ่วถุงน้ำดีเป็นโรคของผู้บริหาร คือ ยิ่งประชุม-อบรม-สัมมนา-นั่งนาน... ยิ่งเสี่ยงน้ำหนักเกิน และนิ่วถุงน้ำดี

(3). น้ำหนักเกินหรืออ้วน

(4). ลดน้ำหนักแบบเร็ว

(5). อายุมาก > 40-60 ปีขึ้นไป

(6). เบาหวาน > เพิ่มเสี่ยงไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง > เพิ่มเสี่ยงนิ่วถุงน้ำดี

(7). เพศหญิง

(8). กินยาลดไขมันในเลือด

(9). ฮอร์โมนเพศหญิงสูงขึ้น ทั้งจากธรรมชาติ คือ การตั้งครรภ์,​และจากยา เช่น ยาคุมกำเนิด ฮอร์โมนชดเชย ฯลฯ

ภาพที่ 4: แสดงตำแหน่งอาการเจ็บปวดจากอวัยวะภายใน

  • ถุงน้ำดี (สีเขียว) > เจ็บท้องหรือหลังส่วนบนทางขวา ปวดร้าวไปไหล่ขวาได้
  • กระเพาะอาหาร (สีแดง) > เจ็บท้องส่วนบนทางซ็าย ปวดร้าวไปอกหรือหลังข้างซ้ายได้
  • ไต (สีน้ำตาล) > ปวดเอวส่วนบน ส่วนใหญ่ปวดข้างเดียว (ยกเว้นมีนิ่วไต 2 ข้างพร้อมกัน)
  • ท่อไต (สีเหลือง) > ปวดเอวสวนล่าง ร้าวไปหัวเหน่า
  • กระเพาะปัสสาวะ (สีเหลือง) > ปวดหัวเหน่า ตรงกลาง ใต้สะดือ
  • ไส้ติ่ง (สีฟ้า) > ปวดรอบๆ สะดือก่อน > ต่อมาจะร้าว (หัวลูกศรสีแดง) ไปท้องส่วนล่างทางขวา (ยกเว้นคนที่ไส้ติ่งอยู่ทางซ้าย จะร้าวไปทางซ้าย)

นิ่วส่วนหนึ่ง ไม่มีอาการอะไร เป็นนิ่วที่ไม่ได้ไปอุดตันทางออกถุงน้ำดี หรือท่อน้ำดี

และไม่ได้ทำให้เกิดโรคถุงน้ำดีอักเสบ กลุ่มนี้เฝ้าสังเกตอาการต่อไป โดยไม่ต้องรักษาได้ (แต่ควรลดปัจจัยเสี่ยง เช่น ควบคุมน้ำหนัก ออกกำลัง ไม่นั่งนาน ฯลฯ)

นิ่วอีกส่วนหนึ่งเป็นนิ่วที่มีอาการ ได้แก่

(1). ปวดเพิ่มขึ้นเร็ว (จากน้อยไปมากเร็ว), ปวดนาน 30 นาที จนถึงเป็นชั่วโมง

(2). ปวดที่ช่องท้องด้านบนทางขวา

(3). ปวดร้าวไปไหล่ขวา หรือตรงกลางหลังด้านบน (ระหว่างกระดูกสะบักด้านหลังอก 2 ข้าง)

(4). คลื่นไส้ อาเจียน

(5). ท้องอืด แน่นท้อง ไม่สบายในท้อง โดยเฉพาะหลังอาหาร (เป็นมากในอาหารมื้อที่มีไขมันสูง หรืออาหารมื้อใหญ่)

ภาพที่ 5: น้ำมันที่กินเข้าไปจะรวมตัวเป็นรูปหยดน้ำมันกลมๆ หันด้านไม่เปียกน้ำ (hydrophobic) ออกนอก, ทำให้เอนไซม์ หรือน้ำย่อยไขมันที่ละลายในน้ำเข้าไปย่อยไม่ได้

น้ำดี (bile) ทำหน้าที่คล้ายเป็น "คนกลาง" ที่มีแขน 2 ข้าง, ข้างหนึ่งไม่เปียกน้ำ (hydrophobic หรือไม่มีประจุไฟฟ้า ไม่บวก ไม่ลบ), อีกข้างหนึ่งเปียกน้ำ (hydrophilic หรือมีประจุไฟฟ้า บวกหรือลบ)

น้ำดีจะยื่นแขนข้างหนึ่งที่ไม่เปียกน้ำไปจับกับน้ำมัน,​ ยื่นแขนอีกข้างที่เปียกน้ำไปจับกับน้ำ... ทำให้น้ำมันแตกตัวจากเม็ดใหญ่ กลายเป็นเม็ดเล็กจิ๋ว และไม่แยกตัวจากน้ำ ทำให้ร่างกายย่อยไขมันไปใช้ได้

เมืองไทยมีสถิติโรคทางเดินน้ำดีอุดตันจากมะเร็งท่อน้ำดี (cholangiocarcinoma) สูงที่สุดในโลก (เป็นมหาอำนาจ)

โรคนี้มีพยาธิใบไม้ตับในปลาดิบ สัตว์น้ำจืดดิบเป็นสารก่อมะเร็งหลัก + สารไนโตรซามีน จากการรวมตัวของโปรตีน ดินประสิว กรด เช่น ตอนกินเนื้อสำเร็จรูป (แหนม ฯลฯ) เป็นปัจจัยเสริม

วิธีป้องกันนิ่วถุงน้ำดีได้แก่

(1). ควบคุมน้ำหนัก ระวังน้ำหนักเกิน-อ้วน

(2). ไม่ลดน้ำหนักแบบเร็ว = ไม่เกิน 1/2 กิโลกรัมต่อสัปดาห์

(3). กินอาหารที่มีเส้นใย หรือไฟเบอร์ ทั้งจากธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ฯลฯ,​ ถั่ว เมล็ดพืช เช่น งา ฯลฯ ผัก ผลไม้ทั้งผล

(4). ไม่กินธัญพืชขัดสี เช่น ข้าวขาว อาหารทำจากแป้ง ขนมปังขาว ฯลฯ มื้อใหญ่

(5). ไม่กินเร็ว > กินเร็วทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นเร็วกว่ากินช้า เพิ่มระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง

(6). กินน้ำมันชนิดดี คือ ไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (monounsaturated fatty acid / MUFA) เช่น

  • น้ำมันคาโนลาราคาประมาณ 87-95 บาท/ลิตร
  • น้ำมันเมล็ดชา (ประมาณ 400 บาท/ลิตร), น้ำมันรำข้าว (ประมาณ 54 บาท/ลิตร)
  • น้ำมันถั่วลิสง (มีขายในพม่า)

น้ำมันคาโนลาผสมในไทยที่ราคาถูก หน่อย คือ น้ำมันเอมเมอรัล (Emerald) ทำจากน้ำมันคาโนลาผสมน้ำมันปาล์ม ใช้ผัดใช้ทอดได้ในขวดเดียว (ประมาณ 57 บาท/ลิตร)

ข้อดีของ MUFA คือ ลดโคเลสเตอรอลชนิดร้าย (LDL), เพิ่มโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL), ทนความร้อนจากการผัดทอดสูง

(7). กินไขมันไม่อิ่มตัวชนิดโอเมกา-3 เช่น ปลาที่ไม่ผ่านการทอด น้ำมันปลา ฯลฯ

โอเมกา-3 ไม่ทนความร้อนสูง โดยเฉพาะไม่ทนความร้อนจากการทอด และเสื่อมสภาพได้ง่าย ซึ่งจะสังเกตได้จากกลิ่นเหม็นหืนแบบกลิ่นปลาเก่า

(8). หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์

การดื่มปานกลางเทียบเท่าแอลกอฮอล์ 30 มิลลิลิตร (ซีซี) ต่อวันในผู้หญิง หรือมากกว่านั้น เพิ่มเสี่ยงนิ่วถุงน้ำดี 20% และอาจเพิ่มเสี่ยงมะเร็งเต้านมในผู้หญิงได้

(9). กาแฟชนิดมีกาเฟอีน

การศึกษาที่ผ่านมาพบว่า กาแฟที่มีกาเฟอีนลดเสี่ยง แต่ไม่พบกาเฟอีนในสารอื่น เช่น ชา โกโก้ ชอคโกแล็ต เครื่องดื่มชูกำลัง ฯลฯ ลดเสี่ยงนิ่วถุงน้ำดี

(10). กินอาหารตรงเวลา

การงดอาหารเป็นบางมื้อ (skipping meal) ทำให้ถุงน้ำดีไม่หดตัวตามกำหนด น้ำดีค้างอยู่ในถุงน้ำดีนานขึ้น เพิ่มเสี่ยงนิ่วถุงน้ำดี

(11). ออกแรง-ออกกำลังเป็นประจำ และไม่นั่งนานเกิน 1-1.5 ชั่วโมง/ครั้ง

การไม่ออกแรง ไม่ออกกำลัง หรือนั่งนาน ทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวช้าลง ถุงน้ำดีบีบตัวได้น้อยลง

การป้องกันนิ่วถุงน้ำดีในไทย ควรทำร่วมกับการป้องกันพยาธิใบไม้ตับไปด้วย คือ ไม่กินปลาดิบ ไม่กินสัตว์น้ำจืดดิบ

ถึงตรงนี้...​ ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ, ไม่มีนิ่วถุงน้ำดี และไม่มีพยาธิใบไม้ตับมาเบียดเบียนครับ
.

                                                                                                            

เนื้อหาทั้งหมดเป็นไปเพื่อส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรค, ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค

ท่านที่มีความเสี่ยงต่อโรคสูง หรือมีโรคประจำตัว จำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้

นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์

ยินดีให้ท่านนำไปใช้ได้ โดยไม่ต้องขออนุญาต > CC: BY-NC-SA

                                                                                                            

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 538744เขียนเมื่อ 9 มิถุนายน 2013 22:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน 2013 22:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก

ขอบคุณคุณหมอมากๆ เลยครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท