โครงการนี้ที่ต้องการทำนี้ ที่คิดไว้ หนูคิดว่าเราน่าจะทำได้เนื่องจากไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใดๆ
โดยเนื้อหา โดยรวมนั้น เป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นเเก่ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ประเภท บุคคลที่ไร้บ้าน ที่อาศัยอยู่ในบริเวณสนามหลวง คลองหลอด และบริเวณใกล้เคียงนั้นๆ
จากการที่หนูได้สัมผัสกับบุคคลเหล่านี้ บางคนส่วนใหญ่ เขาไม่ต้องการความช่วยเหลือจากหน่วยงานของภาครัฐหรือเอกชนที่นำเขาออกสู่ในที่ๆเขาอยู่ เขาคิดว่าตัวเองจะไปเป็นภาระของคนอื่น เเละที่น่าเเปลกคือ เขาไม่ต้องการอยู่ในกฎระเบียบ ที่ให้ใครต้องมาบังคบให้เขาทำนู้ทำนี่ เขาต้องการใชข้ชีวิตที่อิสระ เเต่ถามว่าเขาอยากมีคุณภาพชีวิตที่เเย่ในสังคมสมัยนี้หรือเปล่า ทุกคนก็คงรู้คำตอบดีว่า มนุษย์โดยสัญชาตญานเเล้ว ทุกคนก็ต้องการชีวิตที่ดี
คงไม่มีใครอยากไปนอนอยู่กลางถนน ตากเเด ตากฝน
คงไม่มีใครอยากถูกดูถูกเยียดหยาม เหมือนไม่ใช่มนุนย์คนหนึ่ง
คงไม่มีใครอยากกินอาหารในถังขยะ
คงไม่มีใครอยากมีเนื้อตัวที่สกปรก ใครก็ไม่อยากเข้าใกล้
เเต่ก็ว่าเถอะน่ะ ทุกคนสามารถเลือกชีวิตของตนเองได้ ว่าอยากดำเนินไปในทางใด โดยการกระทำ
่่่่ั่้่เเต่บางคนไม่มีโอกาส สังคมในปัจจุบัน ไม่ได้มองว่าบุคคลเหล่าเป็นมนุษย์ อย่างเท่าเทียมกัน
เเต่บางคนมีโอกาสที่หน่วยงานของรัฐเข้าไปช่วยเหลือ เเต่เขาไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสังคมได้ เพราะอะไรนั้น มันก็มีหลายปัจจจัยที่เขาไม่สามารถออกมาจากจุดนั้นได้
เเต่บางคนมีความคิดอยากจะมีชีวิตที่ดี เเต่ด้วย อายุที่มาก กับโรคที่ทำให้เขาไม่เหลือความทรงจำนั้น มาเป็นอุปสรรคสำหรับเขา
....มหาตมา คานธี...บอกไว้ว่า..หากเขาไม่มีเสื้อผ้าใส่ เราต้องไม่ให้เสื้อผ้าเเก่เขา เเต่ควรที่จะสอนให้เขารู้จะทำงานหรือหาวิธีได้ด้วยตนเอง...
...เเต่ในมุมของหนู มองว่า...ถ้าหากเขาไม่สามารถทำงานเเลกเงินได้ล่ะ เขาไม่มีเรี่ยวเเรง ไม่มีกำลังใจที่จะมีชีวิตต่อไปล่ะ บางคนเเค่รอเวลาหมดลมหายใจไป เราจะช่วยเขายังไง เราจะพัฒนาบุคคลเหล่านี้ยังไง
.....ในเมื่อทางภาครัฐที่ดูเเลเรื่องนี้อยู่มีการทำงานไหม เเน่นอนว่ามี เเละยังไม่นับมูลนิธิต่างๆที่อยากเข้ามาช่วยเหลือ เเต่ทำไหมในปัจจุบันถึงได้มีคนไร้บ้านอยู่มากขึ้นล่ะ สาเหตุมันคืออะไร เพราะอะไรคนถึงอยากออกมาอยู่ กิน นอน ในสาธารธะมากขึ้น .....
เราสามารถช่วยเขาได้ โดยการส่งเสริมให้บุคคลเหล่านี้ได้รับสวัสดิการอย่างทั่วถึง เเต่ถึงกระนั้น หนูคิดว่าเราป็นวัยรุ่นที่มีกำลังที่จะช่วยเหลือ ที่ไม่ใช่ในรูปแบบเงิน
....เเต่เป็นเสื้อผ้า ผ้าขนหนู เครื่องใช้จำเป็นต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น ยาสีฟัน สบู่ ...ที่เราสามารถให้เขาได้ ถึงเเม้มันจะไม่มามาย เเต่ก็มีบางคนที่ต้องการเสื้อผ้า เราเป็นคนที่มีโอกาสที่ดี มีการศึกษาได้เรียนหนังสือ มีพ่อเเม่ดูเเล เเล้วเราจะเเบ่งบันในสิ่งที่เราเหลือเฟือ ให้เขาบ้างไม่ได้เลยเหรอ เสื้อผ้า 1 ตัว สามารถกันเเดด กันฝน สำหรับเขาได้ บางทีเขาอาจดีใจที่เราสนใจ เเละไม่รังเกียจเขา มันเป็นสิ่งที่ดีใช่ไหม ที่จะทำให้เขารู้สึกมีกำลังใจในการมีชีวิตอยู่ตอนไป บางทีเขาบางคนอาจที่ไม่มีบ้าน อาจเปลี่ยนความคิดที่อยากพัฒนาตนเองก็ได้ .....
สำหรับคนที่อ่านข้อความข้างต้น....ท่านมีความคิดว่าอย่างไร กับโครงการที่จะนำเสื้อผ้าที่ได้จากการบริจาค นำไปให้คนที่ขาดเเคลน...
......หนู เป็นเพียงนักศึกษาที่กำลังสนใจในเรื่องนี้อยู่ ประสบการณ์หนูน้อย เเต่สิ่งที่ได้เขียนลงไปนั้นเป็นเพียงความรู้สึกอยากจะช่วยเหลือเขา ..ความคิดบางสิ่งอาจขัดใจหรือไม่ถูกต้องหรือเปล่าในมุมมองของคนอื่น เเต่ได้โปรดช่วยเเนะนำหนูหน่อยน่ะค่ะ....
นางสาวจิตพิสุทธิ์ พูลพิพัฒน์
Very admirable!
Have you considered a Buddhist saying: "the gift is valued by its receiver -- not the giver"?
Thanks for your comment Mr.Sr
Yes, I want to Pranburi homeless individuals.
People troupes who live in Thailand N. Royal Plaza; Sanam Luang.
I will give my clothes by everyone homelessness.
By doing a crema project website.
What do you think? MR.Sr