ชีวิตที่พอเพียง : ๑๙๒๑ a. อวตารยุคไอซีที
ระหว่างนั่งอ่านหนังสือไปเขียน บล็อก ไป เช้าวันที่ ๑๒ เมย. ๕๖ ผมปิ๊งแว้บว่า สมัยนี้คนเราอยู่หลายที่ในเวลาเดียวกันได้ เพราะเรามีทั้งพื้นที่จริง และพื้นที่เสมือน อา! อวตารในเรื่องรามเกียรติ์ มาเป็นจริงในช่วงชีวิตผมนี่เอง
ผมอวตารได้มาตั้งหลายปีแล้วโดยไม่รู้ตัว
และที่จริงใครๆ ก็อวตารได้โดยไม่ยาก ไม่จำเป็นต้องมีอิทธิฤทธิ์พิเศษ ขอให้มีทักษะด้าน ไอซีที และมีสาระที่น่าสนใจเอาไปห้อยไว้ในพื้นที่ไซเบอร์ ก็เท่ากับอวตารได้ คือแสดงบทบาทได้โดยตัวจริงไม่อยู่ที่นั่น
คนยุคปัจจุบัน ที่ถือว่าเป็นคนเต็มคน ต้องอวตารได้ การอวตารไม่ใช่อิทธิฤทธิ์พิเศษอีกต่อไป
นั่นคือ “คนมีการศึกษา” ในปัจจุบัน ต้อง ลปรร. (แลกเปลี่ยนเรียนรู้) กับคนทั้งโลก ในพื้นที่ ไซเบอร์ ได้ และทำอย่างสม่ำเสมอ ใครอยากรู้จักเรา แต่เข้าไม่ถึงตัวจริง ก็เข้าไปทำความรู้จักในพื้นที่เสมือนได้
ใครไม่มีตัวตนในพื้นที่เสมือน ถือเป็น “ผู้ด้อยโอกาส” ในโลกปัจจุบัน
คนดี ไม่ว่าในยุคสมัยใด ต้องเป็น “ผู้ให้” มากกว่าเป็น “ผู้เอา” หรือ “ผู้รับ” การให้แก่โลก ในพื้นที่เสมือน เป็นการให้อย่างหนึ่งในยุคสมัยปัจจุบัน คือให้การ ลปรร. คนที่ให้การ ลปรร. ในพื้นที่เสมือนไม่เป็น ถือเป็นผู้ด้อยการศึกษา
ในโลกยุคปัจจุบัน ความรู้ที่ได้จากการปฏิบัติของตนเอง ถือเป็นความรู้ที่มีความจำเพาะ หาจากที่อื่นไม่ได้ การเอาความรู้ที่ได้จากการปฏิบัติ (tacit knowledge) มาแลกเปลี่ยน จึงมีค่ายิ่ง และการแลกเปลี่ยนที่สะดวกและกว้างขวาง คือแลกเปลี่ยนผ่าน พื้นที่ไซเบอร์
วิจารณ์ พานิช
๑๒ เม.ย. ๕๖
ความเห็น (3)
สวัสดีครับ อาจารย์
ความคิดของอาจารย์ ร่วมสมัยไม่เคยเสื่อมคลายเลยนะครับ
ขอแสดงความชื่นชมในความเห็นของอาจารย์มากจริง ๆ เลยครับ
กับความเป็นอวตารในตัวตนของอาจารบ์
ด้วยความเคารพ
ได้เรียนรู้จากงานเขียนของท่านอาจารย์
ซึ่งช่วยเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขวางขึ้นสำหรับตนเอง
และได้บอกต่อถึงแนวคิดต่างๆของท่านอาจารย์หลายประเด็น
หวังว่าสักวันจะเป็นผู้ให้ tacit knowledge ที่เป็นประโยชน์ต่อบุคคลอื่นๆบ้าง
ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ
ขอบพระคุณ อาจารย์มากค่ะ พยายามทำตนเป็น"อวตาร"อยู่เสมอค่ะ เพราะรู้สึกว่าเราติดหนี้คนไทยทั้งประเทศอยู่ และพยายามช่วยทำให้"อวตาร"ทุกท่านขยายพื้นที่ไปตามที่ต่างๆด้วยเท่าที่จะทำได้ เพราะคนเข้าถึงโลกไซเบอร์กันยังไม่กว้างขวางนัก ถ้าเรามีส่วนช่วยกระจายความรู้ ความคิดหลายๆวงก็จะช่วยได้มากขึ้น
ต้องขอยกให้อาจารย์เป็น"ปรมาจารย์ของอวตาร"นะคะนี่